DESIGN

THE REAL : พบกับ “NAMSING” หรือ “หนุ่ย – ธนฤทธิ์ พรมภา” ศิลปินนักวาดลายเสื้อชาวไทย ที่ฝากผลงานมากมายไว้กับวงระดับโลก

By: HYENA May 14, 2021

แฟชั่นเสื้อวงในบ้านเราถือว่าบูมขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเสื้อวงแนว Rock หรือ Metal นี่ยิ่งแล้วใหญ่ หลังจากที่มี Celebrity หยิบเอาเสื้อเหล่านี้มาใส่จนกลายเป็นกระแสเมนสตรีม และยิ่งถ้าตัวไหนหายาก เก่าเก็บ เข้าขั้นเป็นของเสื้อสะสมเสื้อวินเทจแล้วด้วยล่ะก็ ราคาอาจจะพุ่งทะยานไปไกลกว่าที่หลายคนคิด

แต่พวกเราจะรู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังของเสื้อวงระดับโลกที่มีลวดลายเท่ ๆ หรือบางลวดลายที่มีเอกลักษณ์จนกลายเป็นภาพจำของวงเหล่า หนึ่งในนั้นมีฝีมือคนไทยอยู่ด้วย ซึ่งวันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปรู้จักกับ คุณ หนุ่ยธนฤทธิ์ พรมภา หรือชื่อในวงการก็คือ “NAMSING” ศิลปินชาวไทยที่มีผลงานไปไกลระดับโลก และฝากผลงานการออกแบบลายเสื้อให้กับวง Rock/Metal ระดับรุ่นใหญ่ระดับตำนานมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น AC/DC, Slayer, Slipknot, Muse, Rob Zombie และอื่น ๆ อีกมากมาย หากอยากรู้ว่าเขามีจุดเริ่มในเส้นทางสายนี้ได้ยังไง และอะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ วันนี้เราจะไปพูดคุยกับ คุณ หนุ่ย กันแบบเจาะลึกแน่นอน


จุดเริ่มต้นของการเป็นนักวาด 

“เริ่มจากผมเรียนจบวาดรูปมา พอจบมาก็มาเริ่มทำงาน แต่ต้องเปลี่ยนจากการวาดมือมาเป็นการใช้คอม แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นงานที่ได้วาดรูปค่อนข้างจะตรงสาย แต่ถ้าจะพูดไปมันก็อาจจะไม่ได้ตรงขนาดนั้น เพราะเราใช้คอมวาดไม่ค่อยเป็นในตอนแรก การใช้เมาส์ปากกา ใช้โปรแกรมต่าง ๆ มันค่อนข้างใหม่ ต้องปรับตัวจากตอนเรียนที่ใช้วาดในกระดาษ กับกระดานวาดรูปเยอะ เชื่อมั้ย ตอนแรกผมใช้เมาส์หนูธรรมดาวาดเลยนะ คือในตอนนั้นโลกมีเมาส์ปากกาแล้วแต่เราไม่เคยรู้เลย ก็ใช้เมาส์หนูทำงานมาตลอด จนมันปวดแขนมาก พอบ่นให้น้องที่รู้จักฟัง น้องมันก็บอกว่า พี่! มันมีเมาส์ปากกานะเว่ย ก็เลยให้รุ่นน้องพาไปซื้อ”


เข้าสู่การเป็นนักออกแบบเสื้อวง

จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างที่ทำงานประจำไปด้วย ซึ่งตัวเราเองก็เล่นดนตรีอยู่แล้ว มีวงดนตรีของตัวเองซึ่งกำลังเอาจริงเอาจัง เรียกได้ว่าง่วนอยู่กับการทำเพลง เราก็รับหน้าที่วาดปก วาดลายเสื้อของวงไปด้วย พอวาดไปวาดมา น้องที่เป็นพวก ๆ กันเขามาเห็นผลงานเรา เขาก็แนะนำบอกให้ลองเอางานที่เราวาดไปลงในเว็บไซต์เว็บไซต์นึง ช่วงนั้นเราก็ว่างด้วย ก็เลยลองเอาไปลง

“คือย้อนไป 10 กว่าปีที่แล้ว มันจะมีเว็บ ๆ นึง ถือว่าเป็นเว็บรวมนักวาดลายเสื้อเลยก็ว่าได้ ข้างในก็จะมีคนเอาผลงานการวาดของตัวเองมาโพสไว้ ไม่ว่าจะเป็นรูปวาดปกอัลบั้ม วาดโปสเตอร์ มีหลากหลายมาก แต่คนส่วนใหญ่ที่ลงงานเขาก็จะทำเสื้อวงเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากแล้ววงพวกนั้นก็จะเป็นวงหนัก ๆ เป็นรูปแนววง Metal แทบทั้งนั้น มันเป็นเหมือนที่ปล่อยของของคนที่มีผลงาน ทำอะไรมาก็จะมาโพสต์โชว์กัน หรือบางคนอยากจะมาโพสต์ขายลายที่ตัวเองออกแบบก็ได้ เพราะในเว็บนี้มันจะมีทั้งคนออกแบบ คนที่อยู่ในวงดนตรี คนเล่นดนตรี เป็นสังคมนึงเลยก็ว่าได้ เป็นจุดรวมตัวที่ทำให้เกิดอาชีพนี้ขึ้นมา

 


ผลงานของเราไปถึงวงดนตรีต่างประเทศได้ยังไง?

“คือช่วงแรก ๆ มันจะมีอยู่ 2 ทาง ก็คือ เราลงงานเราที่เราวาดไปอัพไว้ตามเว็บ กับเราส่งงานไปให้วงดูโดยตรง ซึ่งโชคดีที่สมัยก่อนมันจะมี MySpace แล้วพวกวงดนตรีต่างประเทศเขาจะนิยมเล่นกัน มันเลยกลายเป็นช่องทางนึงที่ทำให้เราได้ส่งงานเราไปให้วงดูได้โดยตรง ส่งไปแล้วตอบก็มี เงียบก็มี แต่มันก็เป็นอีกทางที่ดี แทนที่จะลงงานแล้วรอคนมาเห็นกับเราทำงานเพื่อเขาแล้วส่งไปแบบตั้งใจเลย ออกแบบงานชิ้นนึงเพื่อให้วงนี้โดยเฉพาะแบบนั้นก็มี


Feedback ที่ได้เป็นยังไงบ้าง แล้วงานชิ้นแรกมาเมื่อไหร่?

“Feedback แรก ๆ ก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ นะ จนมีอยู่วันนึงเราทำงานชิ้นนึงออกมาเพื่อส่งไปให้วง แต่ระหว่างดีลกันมันเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้งานถูกปัดตกไป เราก็เลยเอางานไปลงในเว็บขายเสื้อ พอดีวง The Devil Wears Prada เขาเห็นแล้วสนใจงานชิ้นนี้ เราก็เลยขายให้กับวงไป ถือว่าเป็นวงแรกเลยมั้งที่ขายงานได้ เป็นงานที่ทำให้เรามาถึงวันนี้ได้”

“จำได้ว่างานชิ้นแรกที่ขายไปได้ 180 เหรียญ ถึงจะเป็นเงินไม่เยอะแต่เราก็ยินดีที่จะขาย เพื่อให้งานจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขายทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เรททั่วไปว่าเขาตั้งราคากันยังไง ควรขายเท่าไหร่ จากนั้นเราก็ค่อย ๆ มาเรียนรู้ว่า ขั้นตอนการทำเป็นยังไง ต้องขายยังไง ส่งงานยังไง จ่ายเงินรับเงินยังไง ทุกอย่างมันจะมาเป็นแพ็คเลย เราก็ต้องหัดทำ Paypal นู่นนั่นนี่ ซึ่งยากมาก เพราะเราเพิ่งมาจับคอมไง (หัวเราะ)”


การร่วมงานกับศิลปินระดับโลก

“หลัก ๆ วงเขาจะมีบรีฟมาให้ว่าอยากได้แบบไหน จะเอาไปทำอะไร อย่างวงนี้บอกว่าจะเอาเสื้อไปเล่นที่งานนี้ วงก็จะมีบรีฟสตอรี่มาให้เราวาดอะไรที่มันเข้ากับงาน เข้ากับสตอรี่ หรืออย่างในช่วงนี้วงกำลังจะปล่อยเพลงใหม่ เนื้อหาที่พูดจะพูดจะเป็นอะไรประมาณไหน เขาก็จะมีบรีฟมา อาจจะมีย้ำมานิดนึงว่า ห้ามอะไรบ้าง บางวงห้ามมีเลือด ห้ามวาดอะไรที่ดูโหด บางวงก็ห้ามใช้นก มีข้อห้ามที่ตกลงกัน คือจะมีบรีฟมาทุกอย่าง ไอ้แบบที่อยู่ ๆ จะให้เราวาดเองเลยจะน้อยมาก”

“อย่างถ้าวงเล็ก ๆ ที่ยังไม่ได้ดังมาก ขั้นตอนการทำงานอาจจะใกล้ชิดกับตัวศิลปินมากหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะแบ่งงานกัน อย่างเช่น นักร้องก็ติดต่อประสานงาน มือเบสดูแลการเงิน อะไรแบบนี้ ก็จะได้คุยกับวงตลอดเวลา แต่อย่างวงที่มีค่ายใหญ่ขึ้นมาหน่อย ก็จะไม่ได้คุยมาก วงจะแค่ตรวจงานเฉย ๆ จะมีคนมาประสานงานกับเรา ตอนนี้งานถึงไหนแล้ว อัปเดตกัน จะมีทีมงานคอยจัดการให้หมดสำหรับวงใหญ่ ๆ”


เสพผลงานทุกวงที่ร่วมงานด้วย

“ส่วนใหญ่จะฟังนะ  มันช่วยให้เราเห็นแนวทางในการทำงานได้ มีบางวงเหมือนกันที่เขาอาจจะยังไม่ให้เราฟังเพลงเขา แต่จะมี Source มาให้ แบบบางทีมาแค่คำ ๆ เดียวมาให้เราทำ แต่ถ้าได้ฟัง ได้เสพผลงานเขาเราก็จะรู้แนวของวงมากขึ้น ส่วนใหญ่ก็เลยต้องฟังนะ”


โจทย์ที่ยากที่สุดตั้งแต่ที่ทำงานมา

“ยากในความหมายของผมคือ เราต้องคิดงานให้ออกกับเรามีเวลาเท่านี้เราต้องทำให้ทันเวลา ส่วนใหญ่โจทย์ไม่ยาก ยากตรงคิดไม่ออกกับคิดออกเยอะเกินไป แล้วก็เลือกมาใช้ไม่ถูก ความยากง่ายหลายอย่างมันขึ้นอยู่กับทางค่ายด้วย เพราะทางค่ายเขาจะบรีฟ และมีเวลามาให้ ถ้าเป็นค่ายที่มีบรีฟชัดเจนก็แค่ทำตามเวลา งานที่ได้มาแค่ไหนก็แค่นั้น แต่ถ้าเป็นวงที่ไม่ได้มีค่าย จะดีหน่อยเพราะไม่ฟิกเวลา มันดีตรงที่เขาปล่อยเราเป็นอิสระมากหน่อย ให้เวลาเยอะหน่อย ทำไปเรื่อย ๆ ได้ เพราะอยากได้งานที่มันออกมาดี เรื่องระยะเวลามันก็มีผลนะ”


ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำมาจำได้มั้ยว่ามีงานออกไปกี่ชิ้นแล้ว แล้วชอบชิ้นไหนมาที่สุด

“ที่ทำมาก็เกิน 10 ปีแล้ว คือเยอะมากถ้ารวมทั้งวง ทั้งแบรนด์ ทุกอย่างก็คิดว่าน่าจะเกิน 300 ชิ้นแน่ ๆ ส่วนถ้าถามว่างานชิ้นไหนที่รู้สึกชอบมากที่สุด คงจะเป็น Slayer ครับ เพราะความชอบส่วนตัวด้วย แล้วงานช่วงนั้นเป็น Final World Tour ของวงที่เล่นเสร็จจะยุบวงพอดี”


อะไรคือเอกลักษณ์ในผลงานของตัวเอง

“อันนี้ตอบไม่ได้เลย แต่เคยไปถามน้อง ๆ ที่รู้จักกัน เขาบอกว่าเขาดูแล้วรู้เลยว่านี่คืองานพี่ หรือให้เพื่อนดูก็จะรู้ว่าเป็นงานเรา แต่ถามว่าเราแนวไหน ตอบไม่ได้จริง ๆ เราเป็นคนขี้เบื่อ พอทำไปสักชิ้นสองชิ้นก็อยากหาบรีฟใหม่ ๆ มาทำละ อยากวาดอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เลยมองว่าสไตล์งานของเรามันคล้ายกับตัวตนของเรา เพราะจะวาดอะไรไปมันก็มาจากเรา”


ทำไมถึงมีแต่ผลงานที่ร่วมกับวง Rock/Metal

“จริง ๆ เคยร่วมงานกับศิลปิน Rap นะ มีค่ายเขาส่งมาให้ เคยทำอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ด้วยแนวทางอาจไม่ตรงใจขนาดนั้น ก็เหมือนทำงานส่งไปให้ค่ายดูนั่นแหละ แล้วงานก็ถูกปัดตกไป เคยมีประสบการณ์อยู่บ้าง ทำ Rap  ทำ Pop Rock ก็เคยทำ แต่ส่วนใหญ่ที่ค่ายเขาส่งมาให้เรา เขาอยากให้ใส่ความเป็นเราลงไป ใส่ความโหดดิบลงไป เสริมกับแนวทางของวง แบบลองใช้สองอย่างนี้มารวมกันซิว่ามันจะออกมาเป็นยังไง”


วง Metal กับ Font โหดจัด ๆ ที่อ่านโคตรยาก

“อาจจะเกิดจากแนวเพลงมันมีหลายแนว วงบางวงเขาอยากชัดเจน ถามว่าสไตล์เพลงมันชัดไหมก็ชัด แต่บางคนเอาไปฟังแล้วฟังไม่รู้เรื่อง เขาก็เลยต้องใช้เสื้อผ้า หน้าปกอัลบั้ม มาช่วยสร้างตัวตนให้คนเห็นว่าฉันเล่นแนวประมาณนี้นะ ผ่านภาพ ๆ นึงแบบมองแล้วรู้เลยว่าไอ้นี่เล่นแนวนี้ แต่มันก็มีอีกแบบนึงนะ วงบางวงที่ใช้ภาพลักษณ์ที่โหด ๆ แต่ว่าเพลงกลับเป็นอีกด้านนึงเลยก็มี ถามว่าถ้าเป็นสมัยก่อนแนวดนตรีทุกอย่างมันจะชัด แต่พอสมัยนี้ทุกอย่างมันถูกหลอมรวมกันไปหมดแล้ว”


คิดว่าลายที่แบบไว้ ในอนาคตมีโอกาสราคาจะสูงขึ้นหรือกลายเป็นเสื้อในตำนานมั้ย

“ตอบยาก เรามองว่า คนที่มาสนใจงานเราส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะว่าเขาสนใจวง เราเคยโพสต์งานชิ้นนึงที่เป็นงานของเราเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวงเลย ก็ตามคาด คือคนก็เข้ามากดไลก์น้อย ให้ความสนใจน้อย เทียบกับงานที่ทำให้วง ลงไปตู้มเดียวทุกคนรู้จัก คนก็เข้ามาดูงานเรา คล้าย ๆ จะแบบว่า มีคนสนใจงานก็มี สนใจแค่วงก็มี เราเลยมองว่ามันก็ Win-Win กันครับ คนที่สร้างสรรค์งานก็ได้รับผลพลอยได้จากวงที่มีคนรู้จักมากขึ้น ส่วนเรื่องราคาจะแพงขึ้นไหม มันก็เป็นไปตามกลไกของมัน”


ถ้างานเราโดนก็อปทำยังไง

“จริง ๆ สิทธิ์ขาดมันเป็นของทางค่ายอยู่แล้ว เราก็แทบจะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับตรงนั้นเลยหลังจากที่ส่งงานไป จะเอามาใช้ได้แค่เอางานที่เราเคยทำไปลงในเว็บได้ ลงโซเชียลได้ โปรโมทตัวเอง ส่งงานไปก็คือจบ โดนก็อปก็คงทำไรไม่ได้ แล้วแต่ทางค่ายจะจัดการต่อไป”


มีแนวทางในการพัฒนางานตัวเองยังไง? แล้วอะไรคือข้อดี-ข้อเสียในการทำงานนี้?

“ผมมองว่า วงใหม่ ๆ หัวข้อใหม่ ๆ มีมาเรื่อย ๆ มันจะช่วยทำให้เราไปต่อได้ ส่วนข้อเสียคือ ปวดหลังครับ (หัวเราะ) พูดเล่นนะ ข้อเสียหลัก ๆ เลยคงเป็นเรื่องของเวลา มันบีบทุกอย่าง และส่งผลเสียกับเราที่สุด ความคิด สุขภาพ และทุกอย่าง”

“ส่วนข้อดีของมันคือ ช่วยให้เราทำงานแบบไม่อึดอัดจนเกินไป รู้สึกเหมือนไม่ได้ทำงาน จริง ๆ เราทั้งรักทั้งเกลียดงานเรา มันน้อยนะที่รักแล้วทุกอย่างจะราบรื่น มันมาพร้อมกันหมดเลย มันคลุกเคล้ามาด้วยกัน ทั้งสุขกับทุกข์ บางทีคิดงานไม่ออกแล้วจะต้องส่งแล้ว ก็ต้องเลือกสักดราฟนึงแล้วลงมือทำซะ ทั้งที่เราคิดได้ตั้งหลายดราฟ”


คิดว่าอาชีพนี้จะเป็นอย่างไรในอนาคต

“คนอื่นอาจจะมองว่างานที่ทำกับคอมมันง่าย มันเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป แต่อย่างผม ผมใช้คอมก็จริง แต่ทุกอย่าง ทุกวิธีการ แม่งยังเป็นแบบคราฟเหมือนเดิม ใช้มือเขียนตรง ๆ ใช้บลัชหัวกลมธรรมดา ผมมองว่าคอมมันคือ Medium ก็เหมือนสีกับแปรงแต่มันแค่แทนค่ามาอยู่ตรงนี้ มันช่วยให้เราทำงานง่ายกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่อย่างพวกความคราฟ ต้องใช้ฝีมือมั้ย มันก็ยังต้องใช้อยู่ดีนะ”


อยากฝากอะไรถึงคนวาดลายเสื้อรุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“ถ้าใครจะมาทำ อยากบอกให้หนีไปครับ (หัวเราะ) คงต้องบอกว่า ‘ไม่ลองไม่รู้’ จะว่าไปมันค่อนข้างลำบากนะ ผมจำได้ว่าช่วงแรก ๆ มันจะมีความลุ่ม ๆ ดอน ๆ สูงมาก ผมต้องมีงานอื่นที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย ต้องควบสองงาน คิดว่าทำได้ แต่พอได้ทำพร้อมกันจริงมันยากมาก ทำไม่ไหว เคยคิดว่าออกไปทำงานประจำเสร็จกลับมาจะนั่งวาดงานต่อ ปรากฏว่าไม่ไหวว่ะ กลับมาบ้านแล้วทำไม่ได้ อยากนอนพักมากกว่า พอเข้าปี 4 เราก็เลยต้องมาเลือก ว่าเราจะทำงานนี้ไปยาว ๆ ละ จะไม่ทำงานอื่นละ จะทำให้คนรู้ไปเลยว่าเราทำอะไร กูจะเป็นคนวาดลายเสื้อเว้ย !”

“ผมมองว่าทุกคนจะมีอะไรบางอย่างที่มันจะบอกตัวเองได้ว่าถ้าเราทำแบบนี้แล้วจะไปรอด ผมเชื่อว่าถึงเวลาจริงทุกคนจะมีทาง สุดท้ายมาวัดกันตอนลงสนาม เดี๋ยวแม่งก็รู้เองแหละว่าเราจะไปต่อทางไหน ใช้วิธีการไหนที่เราจะเอาตัวรอดได้ คนมันก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แค่ทำไปอย่าหยุดแล้วสัญชาตญาณมันจะบอกเอง”

“อีกอย่าง โลกทุกวันนี้ผมมองว่ามันเหมาะกับฟรีแลนซ์มากขึ้นด้วยซ้ำ มันมีช่องทาง มีความเป็นไปได้เยอะกว่าทำงานประจำสมัยก่อนเยอะ แต่หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่มั่นคงรึเปล่า ซึ่งความมั่นคงของผมคือ ทำยังไงก็ได้ให้วันนั้นนอนหลับ เราจะไปเจออะไรมา ความเครียดแค่ไหน แต่ขอให้วันนั้นนอนหลับ ผมมองว่าเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว วันไหนผมนอนไม่หลับถือว่าผมล้มเหลว”

และทั้งหมดก็เป็นการพูดคุยกับนักออกแบบวาดลายเสื้อชาวไทยที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับโลกอย่าง คุณ หนุ่ย หรือ “Namsing”  หากใครที่สนใจอยากจะอุดหนุนผลงานคุณหนุ่ย หรืออยากติดตามผลงานก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ Facebook Page : Namsingillustrat หรือจะเป็น  IG : namsing_loong ก็ได้เช่นกัน เชื่อว่าคงมีชาว UNLOCKMEN จำนวนไม่น้อยที่ต้องเคยเห็น หรือมีผลงานของคุณหนุ่ยอยู่ในครอบครองกันโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นฝีมือคนไทยแน่ ๆ 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line