Life
PRE & POST WORKOUT TIPS: อยากฟิตเต็มที่ เตือนตัวเองว่าอย่าทำแบบนี้ทั้งก่อนและหลังเข้ายิม
By: PEERAWIT June 26, 2018 111055
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ชายอย่างเราหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น เรียกได้ว่ามียิมเป็นบ้านหลังที่ 3 ก็ว่าได้ แถมความรู้นี่แน่นราวกับกล้ามแขน ควรเทรนยังไง ควรทานยังไง วางโปรแกรม workout ประมาณไหน รู้หมด และถ้าจะให้ยิ่งชัวร์ เมื่อรู้ว่าอะไรควรแล้ว ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่ไม่ควรทำทั้งก่อน และหลังเข้ายิม
แน่นอนว่านอกจากการ warm up และยืดกล้ามเนื้อก่อนเทรน รวมถึง cool down และยืดกล้ามเนื้อหลังฝึกเสร็จแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งบางอย่าอาจเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปก็ได้ ลองดูว่าเราเผลอทำสิ่งที่ว่านี้ในช่วงเวลาก่อนและหลังจัดหนักในยิมหรือไม่ ถ้าใช่ ก็ควรเลิกทำสิ่งเหล่านี้ จะได้ฟิตได้สุด ๆ แบบไม่มีอะไรมาฉุด
การยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายคือการเตรียมร่างกายให้พร้อมยืดเหยียดได้เต็มที่ และลดความเสี่ยงบาดเจ็บ แต่ก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย
Michael Olajide Jr. อดีตนักมวยอาชีพ เทรนเนอร์ และผู้ร่วมก่อตั้ง Super-Gym Aerospace แนะนำว่า “จากประสบการณ์ของผม การยืดกล้ามเนื้อก่อนการวิ่ง, ต่อยมวย และปั่นจักรยาน อาจไม่ต้องยืดให้สุดมากก็ได้ เนื่องจากการออกกำลังกายเหล่านี้ใช้น้ำหนักตัวของคุณเอง และมีการเคลื่อนไหวของร่างกายแบบสุดเหยียดอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณออกกำลังกายแบบจำกัดการเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวทางเดียว อย่างเวทเทรนนิ่งกับแมชชีน เวทเทรนนิ่งหนัก ๆ กับอุปกรณ์ฟรีเวททั้งหลาย หรือปั่นจักรยานออกกำลังในยิม ก็ควรจะยืดกล้ามเนื้อให้สุด จะได้เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายให้พร้อมรับกับการฝึกของคุณ”
โดยทั่วไปมักมีคำแนะนำว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อสุขภาพที่ดี แต่ทุกสิ่งย่อมมีความ “พอดี” ของมัน เรื่องนี้ Olajide ให้ความเห็นว่า “ถ้าคุณเป็นนักวิ่งมาราธอนที่ทุ่มเทอย่างหนัก ก็ควรดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร แต่ถ้าคุณเข้าคลาสแอโรบิก ยกเวท หรือจอกกิ้งไม่กี่กิโล ก็ไม่ควรดื่มเยอะขนาดนั้น ส่วนคนที่ไม่ได้ออกกำลังหนัก ไม่ได้ออกแรงแทบทั้งวันเลย หนึ่งลิตรต่อวันก็น่าจะเพียงพอ ที่สำคัญควรหาแหล่งของเหลวอื่น ๆ ด้วย เช่น กาแฟ, ผัก และผลไม้ เป็นต้น”
ข้อนี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ชอบออกกำลังกายตอนเช้า ตื่นนอนแล้วล้างหน้าออกไปฟิตโดยไม่ได้กินอะไร ซึ่งมันส่งผลเสียให้กับร่างกายของคุณ
Craig Ramsay ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความฟิตจากเรียลลิตี้โชว์ Bravo แนะนำว่า “การไม่กินไรเลยก่อน workout จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดน้อยเกินไป คุยจะรู้สึกมึนหัว ปวดหัว ตัวเบา เหนื่อยล้าตั้งแต่ยังยกไปไม่ถึงไหน แนะนำว่าให้กินกล้วยสักหวีนึง หรืออัลมอนด์สักกำนึงก่อนลุย เพื่อนำคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนเข้าไปเติมพลังให้ร่างกาย ควรกินก่อนออกกำลังกายราว 30 นาที”
เข้าใจว่าเวลาที่ยกเวทเหนื่อย ๆ หรือวิ่งจนเสียเหงื่อมา ถ้าได้ดื่มเครื่องดื่มหวาน ๆ แล้วมันจะรู้สึกสดชื่นมีพลัง แต่ถ้ามีน้ำตาลมากเกินไปก็ไม่ควรซดเข้าไปเยอะเกิน ถ้าคุณแค่เข้ายิมไปเวทเทรนนิ่งอาจไม่ต้องการเครื่องดื่มเกลือแร่ด้วยซ้ำ การดื่มเพียงน้ำเปล่าก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าวิ่งมาราธอนมาก็พอจะดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อชดเชยการเสียเหงื่อได้ ค่อย ๆ จิบ ๆ เพราะว่าเครื่องดื่มเกลือแร่มักจะมีน้ำตาลสูง ถ้าดื่มเร็วเกิน ร่างกายอาจจะไม่สามารถเผาผลาญได้ทัน ส่วนน้ำผักผลไม้คั้นสดก็ต้องดูให้ดี เพราะว่าบางสูตรนี่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำต่อวันเสียอีก
มี warm up ก่อนฝึก ก็ต้องมี cool down หลังเสร็จ Jorge Cruise ฟิตเนสโค้ชชื่อดังในหมู่เซเลบ บอกไว้ว่า “การคาร์ดิโอ 20-30 นาทีหลังจากเวทเทรนนิ่งถือว่าโอเค แต่ถ้าใช้เวลามากกว่านั้นอาจชะลอการขยายขนาดของกล้ามเนื้อได้ และคุณต้อง cool down ด้วยการคาร์ดิโอเบา ๆ 5 นาที เพื่อปรับให้ร่างกายกลับมาสู่โหมดปกติ จากนั้นก็ใช้เวลาในการนั่งพักผ่อน และทานอาหารหลัง workout ที่เหมาะสม รวมถึงผ่อนคลายด้วย การฟิตร่างกายของคุณจะไม่เห็นผล ถ้าคุณไม่ได้พักผ่อนเพียงพอเพื่อฟื้นฟู”
เข้าใจว่าใจสู้ มีเป้าหมายไว้พุ่งชน แต่ถ้าร่างกายมันเรียกร้องให้หยุดพัก ก็ฟังเสียงร่างกายคุณเถอะครับ ก่อนที่จะพังไปหมด
ร่างกายของเรามักจะสื่อสารภาวะต่าง ๆ ให้เรารู้เสมอ เพียงแต่เราอาจไม่ค่อยโฟกัสสักเท่าไหร่ ง่าย ๆ เลย เหนื่อยเกิน ปวดเกิน เจ็บเกินก็พัก อย่าไปฝืน เดี๋ยวพรุ่งนี้ยืนไม่ได้หละซวยเลย แต่ถ้ารู้สึกเปื่อย ๆ โรย ๆ ก็ควรจะออกแรงซะ อย่าไปนิ่งจนเสียสุขภาพ ฟังเสียงจากร่างกายเยอะ ๆ จะได้ดีทั้งสภาพจิตและสุขภาพร่างกาย
หวังว่าสิ่งที่เรานำมาแนะนำชาว UNLOCKMEN จะช่วยให้คุณปลดล็อกศักยภาพร่างกายออกมาได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่สุดทุกด้านของผู้ชายอย่างเรา อย่าลืมนำไปใช้เตือนตัวเองและคนอื่นด้วย จะได้โคตรฟิตไปพร้อม ๆ กัน มันส์กับการออกกำลังกายดีกว่านอนนิ่งสะสมไขมันที่แลกของรางวัลอะไรก็ไม่ได้นะครับ