CARS

Hybrid Lifestyle VS Hybrid Car: New Honda City e:HEV รถแห่งอนาคตที่ทำให้การใช้ชีวิตหลากสไตล์ง่ายมากขึ้น

By: HYENA March 10, 2021

ในปี 2021 นี้ ต้องยอมรับเลยว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของมนุษย์เรานั้นเปลี่ยนไปมาก สังเกตได้จากการที่เราเริ่มมีความสนใจหลากหลายมากขึ้น มีสกิลความสามารถรอบด้านมากขึ้น ทำงานอดิเรกหลายอย่างมากขึ้น ทำให้ในวันวันหนึ่งของใครหลาย ๆ คน เหมือนมีชีวิต 2 ด้านให้ใช้ไปพร้อม ๆ กัน เราขอเรียกไลฟ์สไตล์แบบนี้ว่า “Hybrid Lifestyle” ก็คงจะไม่ผิดนัก

ซึ่งจะว่าไปแล้วการใช้ชีวิตให้เต็มที่ทั้ง 2 ด้านก็มีความท้าทายของมันอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นเราควรจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตอันหลากหลายของเราให้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ “รถยนต์” ซึ่งเป็นยานพาหนะที่เราทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน วันนี้คำว่ารถยนต์มีมากกว่าแค่การพาเราเดินทางจากจุด A ไปจุด B เราจึงต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ชีวิตของเราสมบูรณ์แบบได้ทั้ง 2 ด้าน

วันนี้เราอยากจะมาแนะนำ New Honda City e:HEV RS รถยนต์แห่งอนาคตสำหรับคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ที่จะทำให้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ง่ายขึ้นกว่าเดิม


 

เมื่อคนเมืองส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมายในยุคปัจจุบัน ทำให้เราเลือกครอบครองรถยนต์ได้ทีละหนึ่งคัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ หรือจะเป็นที่จอดที่ค่อนข้างจำกัดและหายากในเมืองกรุง เราจึงควรจะมองหารถที่มีความสามารถหลากหลาย ใช้งานได้ตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์ ดีไซน์และฟีลลิ่งใช่อย่างที่ต้องการ รวมถึงหัวใจสำคัญที่ใคร ๆ ก็ต้องการในยุคนี้ “ความประหยัดที่มาพร้อมความแรง”

หลังจากที่ New Honda City Generation ที่ 7 ได้เปิดตัวออกมาเป็นครั้งแรกพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุ 1.0 ลิตร Turbo ไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ได้เวลาต่อยอดความแรงไปอีกขั้นกับ “New Honda City e:HEV RS” ที่ทั้งเพิ่มออพชั่นและเปลี่ยนขุมพลังใหม่มาเป็นระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ระบบ Full Hybrid เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ช่วยสลับการทำงานของขุมพลังจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ให้ความแรงต่อเนื่องบนความประหยัดสูงสุด มีพละกำลังเหลือเฟือสำหรับใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะไปทำงาน หรือเดินทางในเมืองก็ยังช่วยประหยัดน้ำมันสุด ๆ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเพียง 27.8 กม/ลิตร และยังได้ Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยมาแบบครบ ๆ อีกด้วย

นอกจากจะใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวและยังประหยัดน้ำมันสุด ๆ แล้ว สำหรับวันหยุดพักผ่อนที่จะต้องใช้งานนอกเมือง สมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีมาให้ก็ล้นเหลือเพียงพอที่จะปลุกความมันส์เร้าใจให้ตื่นขึ้นในทุกครั้งที่เหยียบคันเร่งทะยานไปข้างหน้า

เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ทำงานผสานกันได้อย่างเต็มที่ เรียกพละกำลังออกมาให้แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตรมาให้ใช้เต็ม ๆ ตั้งแต่ออกตัว ในขณะที่ Honda City e:HEV RS หนักเพียง 1,227 กิโลกรัม จึงมั่นใจได้เลยว่าจะขับสนุกไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง แรงบิดและรอบเครื่องบวกมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถเร่งได้ทันใจ


สำหรับเรื่องดีไซน์ของ New Honda City e:HEV RS นั้นถือว่าออกแบบมาได้อย่างลงตัว และเหมาะกับคนเมืองแบบสุด ๆ เพราะไม่ว่าคุณจะใช้งานในวันทำงาน หรือวันพักผ่อน จะอยู่ในลุคทางการ หรือจะเข้าสู่โหมดแฟชั่นนิสต้าก็เลือกใช้ได้ทุกโอกาส

ภายนอกของ New Honda City e:HEV RS โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เท่โฉบเฉี่ยวตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้ายแบบ LED พร้อม Daytime Running Lights ส่องสว่างเห็นชัด เปิด-ปิดแบบอัตโนมัติช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องขับขี่ในที่มืด พาร์ทชุดแต่ง RS โทนสีดำ Gloss Black ตั้งแต่กระจังหน้าสีดำเงา กันชนหน้า-หลังทรงสปอร์ต RS ดีไซน์เข้ากับ Trunk spoiler บนฝากระโปรงหลัง เพิ่มความสวยงาม กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับและพับด้วยไฟฟ้า ช่วยเสริมบุคลิกความเท่ขรึมสไตล์สปอร์ตได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ยังเพิ่มเอกลักษณ์ความโดดเด่นด้วย Blue H-Mark ที่ด้านหน้า-หลังกรอบสีฟ้าซึ่งต่างจากรุ่นทั่วไป ล้ออัลลอยขนาด 16″ มั่นใจทุกความเร็วด้วยดิสก์เบรกหน้าหลัง


ภายในของ New Honda City e:HEV RS เป็นการผสมผสานอารมณ์สปอร์ตและความทันสมัยในโทนสีดำ-แดง สลับเงินโครเมียมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตหรูหราเบาะหุ้มหนังสลับหนังกลับ (Suede) คุณภาพเยี่ยมสีดำตัดด้วยด้ายสีแดงในรูปทรงโอบกระชับ นั่งสบาย ช่องเก็บของภายในรถมีให้ใช้แบบเหลือเฟือทั้งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง

กลางคอนโซลโดดเด่นด้วยหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ให้คุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้บนมือถือ  แถมยังได้มาตรวัดดีไซน์ใหม่แบบดิจิตัลหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว สามารถดูข้อมูลที่สำคัญของตัวรถ รวมถึงสถานะแบตเตอรี่เพื่อวางแผนการเดินทาง

และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในตัวรุ่น e:HEV RS คือระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake เพียงแค่กดสวิตช์เบรกมือที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ระบบจะปล่อยเบรกให้อัตโนมัติเมื่อคนขับทำการเหยียบคันเร่ง และระบบ Auto Brake Hold บริเวณด้านล่างของเกียร์ เป็นฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับได้ดีมากในการจราจรที่ติดขัด ไม่ต้องสลับใส่เกียร์ไปมา ช่วยลดความสึกหรอของเกียร์ได้อีกทางนึงด้วย

ถือว่า Honda ดีไซน์ฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ดี จากการได้ลองใช้งานจริงทำให้ไม่ต้องละสายตาออกจากถนน ทำให้เราปลอดภัยเวลาขับขี่ได้มากขึ้น แถมยังเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยลำโพง 8 ตำแหน่ง และมีช่องชาร์จไฟ 12V 1 ตำแหน่งด้านหน้า และ 12V 2 ตำแหน่งด้านหลัง ซึ่งถือว่าเพียงพอในการใช้งานจริงแน่นอน

อีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือมีระบบ Honda CONNECT ทำงานร่วมกับ Application บนโทรศัพท์ Smartphone ที่จะช่วยตรวจสอบสถานะรถยนต์ก่อนการใช้งาน และยังสามารถสั่งการสตาร์ทรถยนต์, สั่งเปิดปิดสัญญาณไฟ และยังมีฟังก์ชัน Find My Car แสดงพิกัดที่อยู่รถ ซึ่งช่วยให้วางใจได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ไม่ใช่สบายแค่ด้านหน้า แต่จากการลองนั่งด้านหลังก็พบว่าพื้นที่สำหรับผู้นั่งด้านหลังมี Leg room และ Head room ที่นั่งได้สบายไม่อึดอัด แถมยังมีช่องแอร์ด้านหลังเพิ่มมาพิเศษเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น สร้างความเย็นสบายได้อย่างทั่วถึง เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยเป็นอย่างมาก รับประกันความสะดวกสบายสามารถพกพาครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนไปไหนมาไหน หรือจะเดินทางไกลก็ไม่อึดอัด


นอกจากจะเลือกรถที่แรง ประหยัด และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสำคัญ ๆ ที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานได้จริง ด้านความปลอดภัยก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกรถยนต์เพื่อปกป้องทุกชีวิตในการเดินทางได้สูงสุด

ระบบความปลอดภัยใน Honda City e:HEV RS มีเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ทำให้การจราจรที่พลุกพล่านของเมืองกรุงกลายเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัยขึ้นสำหรับผู้ขับ และผู้โดยสารทุกคน

สำหรับฟังก์ชัน Honda SENSING ที่ให้มาในรถคันนี้ คือ 

  • Collsion Mitigation Braking System (CMBS) ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
  • Adaptive Cruise Control (ACC)  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมันติแบบแปรผัน
  • Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning (RDM with LDW) ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
  • Lane keeping Assist System (LKAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
  • Auto High-Beam (AHB) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

นอกจาก Honda SENSING แล้วยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ทาง Honda ให้มาอีกแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น

  • Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
  • Honda CONNECT เอาไว้เชื่อมต่อตัวรถเข้ากับสมาร์ทโฟน เพื่อตรวจสอบสถานะรถยนต์ และแสดงข้อมูลการขับขี่
  • Walk Away Auto Lock  ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ

ส่วนด้านล่างคือระบบความปลอดภัยมาตรฐานได้แก่

  • ระบบถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (ถุงลมคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ถุงลมด้านข้างคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, และม่านถุงลมด้านข้าง 2 ตำแหน่ง)
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ Auto Door Lock by Speed
  • ระบบล็อครถอัตโนมัติ Walk Away Auto Lock
  • อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว TPRK

ถึงแม้ว่า New Honda City e:HEV RS จะเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เหมาะกับการใช้ในเมือง แต่ก็ยังสามารถใช้นอกเมืองได้ แต่ถ้าหากพูดถึงความใหญ่โต และอเนกประสงค์ของช่องเก็บสัมภาระท้ายรถแล้ว ต้องถือว่าใหญ่โตมากพอที่จะขนสัมภาระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง ถุงกอล์ฟได้สบาย ๆ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เหมาะมากสำหรับมนุษย์สายกิจกรรมที่มีอุปกรณ์เยอะจุได้สบาย ๆ หายห่วง


ทุกอย่างที่ได้จากรถคันนี้ เทียบกับราคา 839,000 บาท ถือว่าตอบโจทย์และได้ฟังก์ชันคุ้มค่าเกินกว่ารถระดับราคานี้จะให้ได้

โดยรวมแล้วต้องบอกเลยว่า New Honda City e:HEV RS ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ และเหมาะที่จะเป็นรถของคนที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายสุด ๆ  เพราะอย่างที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นไซส์ที่เหมาะกับการใช้งานเมืองที่ต้องการความปราดเปรียว ขุมพลังที่จัดจ้านถูกใจคนขับ และภายในห้องโดยสารที่ออกแบบให้กว้างขวางนั่งสบายถูกใจคนนั่ง แถมยังได้ความประหยัดน้ำมันและความปลอดภัยที่มาแบบจัดเต็มมาก ๆ

หากใครกำลังมองหารถยนต์สไตล์สปอร์ตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย เข้าใจว่าฟีลลิ่งการขับของรถยนต์และการปล่อยมลพิษต่ำให้สิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่แค่รถที่พาเราไปจากจุดนึงไปอีกจุดนึงเพียงเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็ต้องการรถยนต์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา New Honda City e:HEV RS คันนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่อยากให้ไปทดลองขับตัวเป็น ๆ ดูสักครั้ง ฟีลลิ่งที่ได้จากมันเป็นสิ่งที่ตัวเลขใน Spec Sheet ให้คุณไม่ได้ รับรองเลยว่า คุณจะหลงรักมันได้ไม่ยากอย่างแน่นอน

New Honda City e:HEV RS  ยังมี 6 สีมาจากโรงงานให้เลือกสรรกันได้ตามบุคลิกของแต่ละคน ได้แก่

  • สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก)
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
  • สีขาวมุกแพลทินัม (มุก) 
  • สีดำคริสตัล (มุก)
  • สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
  • สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)

สัมผัสและทดลองขับ New Honda City e:HEV ได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/2Oyx8SA

 


Photographer : Krittapas Suttikittibut

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line