World

NIHON STORIES: ‘ศักดิ์ศรี ชนชั้น ความงาม’ การขายเรือนร่างของโอยรันที่ทำบุรุษยอมแลกทุกอย่าง

By: TOIISAN September 18, 2019

ว่ากันว่าอาชีพเก่าแก่ที่สุดในโลกคือโสเภณี เรื่องราวของหญิงสาวขายเรือนร่างเพื่อแลกกับบางสิ่ง เช่น เงิน ความเชื่อ และแต่ละทวีปหรือแต่ละยุคสมัยก็มีคำใช้เรียกพวกเธอต่างกันไปทั้ง หญิงงามเมือง สาวขายบริการ คณิกา โสเภณี หรือโอยรัน

การใช้เรือนร่างแลกกับบางสิ่งที่ว่ามีทั้งการร่วมเพศสัมพันธ์กับชายไม่รู้จักสมัยบาบิโลนเพื่อบูชาเทพเจ้ามิลิตตา (The Goddess Mylitta) หรือสถานบริการของพวกเธอที่ใครหลายคนเรียกว่าซ่องของยุคกรีกถูกสร้างขึ้นเพื่อลดปัญหาความสำส่อนทางเพศของเหล่าชายหญิงผู้ต้องการระบายความรู้สึก ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ค่านิยมของสมัยก่อนบางส่วนมองว่าร่างกายของหญิงสาวมีไว้เพื่อบำเรอชาย

หญิงสาวตามแบบค่านิยมของสังคมจะต้องรักนวลสงวนตัว มีสามีคนเดียว และเป็นแม่ที่ดีของลูก แต่ถ้าผู้หญิงทุกคนปฏิบัติตามค่านิยมแล้วใครจะทำงานเป็นโสเภณีสร้างความสุขให้เหล่าชายชาตรี ? เมื่อคิดได้ดังนั้น โลกนี้ก็อนุญาตให้มีข้อยกเว้นที่ทำให้ทุกประเทศต่างก็มีหญิงงามเมือง และคงไม่มีชายใดฉุกคิดว่าโสเภณีจะมีค่ามากจนบางคนทำงานแทบตายก็ยังไม่ได้ครอบครอง

ด้วยเรื่องราวอันยาวนานและแสนละเอียดอ่อนของหญิงงามเมือง UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับศิลปะการขายเรือนร่างเพื่อความบันเทิงของ โอยรัน (Oiran, 花魁) หญิงงามเมืองชั้นสูงเต็มไปด้วยศักดิ์ศรี ที่ทำให้บางครั้งผู้ชายอกสามศอกยังต้องยอมลงให้เพียงเพื่อใช้เวลาร่วมกับเธอแค่หนึ่งคืน

 

ความเหมือนที่แตกต่างของโอยรันและเกอิชา  

โสเภณีถือเป็นอาชีพที่หญิงสาวจำนวนไม่น้อยทำกันมาอย่างยาวนานในญี่ปุ่นที่ อาชีพโสเภณีมีอยู่เกลื่อนเมืองในยุคสมัยเคโช (ค.ศ. 1596 – 1614) แต่เรื่องราวของพวกเธอถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนเป็นกิจจะลักษณะในหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1600 – 1868) ที่ทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แจกแจงลำดับชั้นของโสเภณีเพื่อความสะดวกเวลาใช้บริการ และจำกัดย่านโคมเขียวของแต่ละเมืองให้ชัดเจน เช่น ย่าน Yoshiwara (1618) ของกรุงโตเกียว หรือย่าน Shinmachi  (1624) เมืองโอซาก้า และ Shimabara (1640) เมืองเกียวโต

บันทึกบางเล่มระบุถึงที่มาของชื่อเต็มโอยรันว่า Oira no tokoro no nee-san (おいららの所の姉さん) มาจากเด็กรับใช้เรียกโสเภณีที่อยู่ในหอนางโลมเดียวกันว่าพี่สาว (เน่ซัง) โอยรันจึงมีความหมายว่า พี่สาวของเรา หรืออีกแง่เปรียบพวกเธอได้กับ ผู้นำของดอกไม้ทั้งปวง หญิงสาวผู้อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพหญิงขายบริการ

ส่วนเกอิชา (芸者) คืออาชีพของหญิงสาวที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ชายโดยไม่ต้องขายร่างกาย ว่ากันว่าถูกพัฒนาจากโอยรันคนหนึ่งที่มีความสามารถด้านดนตรีเป็นเลิศ การแสดงของเธอสร้างความสุขและความนิยมได้มากกว่าการขายเรือนร่างเสียอีก จึงทำให้เธอเรียกตัวเองว่าเกอิชาและหันมาเอาดีด้านการแสดงโชว์ โดยหน้าที่หลักของเกอิชาคือสร้างความสนุกสนานให้กับแขกด้วยการเล่นดนตรี ร้องเพลง ชงชา แต่งโคลง ฟ้อนรำ เล่นเกมกระดานญี่ปุ่น ไปจนถึงการวิจารณ์ผลงานศิลปะและการเมือง

เหล่าเกอิชาจะมีหน้าที่สร้างความบันเทิงในโรงน้ำชาระหว่างชายหนุ่มรอที่จะได้เจอกับหญิงงามเมือง เพราะหากชายหนุ่มเข้ามานั่งจิบชารอเฉย ๆ คงจะกร่อยน่าดู ทำให้เกอิชาจะต้องนั่งพูดคุยฆ่าเวลาเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

การแยกความแตกต่างระหว่างโอยรันกับเกอิชาสามารถสังเกตจากทรงผม การแต่งตัว รองเท้า และท่วงท่าการก้าวเดิน โดยโอยรันจะต้องสวมเครื่องหัวขนาดใหญ่ สวมใส่เครื่องแต่งกายสีจัดจ้านมีลักษณะหนาคล้ายกับสวมฟูกผูกโอบิไว้ด้านหน้าเพื่อง่ายต่อการถอด ไม่สวมถุงเท้าแม้อากาศจะหนาวแค่ไหนก็ตามเพราะผู้ชายญี่ปุ่นมองว่าข้อเท้าเปลือยไร้การแต่งแต้มคือสิ่งสวยงามที่เร้าอารมณ์ และพวกเธอจะปรากฏตัวพร้อมกับรองเท้าส้นสูงมากเพื่อให้ผู้คนได้เห็นหน้าได้ชัด ๆ ส่วนเกอิชาจะตรงกันข้ามเพราะพวกเธอไม่ผูกโอบิไว้ด้านหลัง สวมถุงเท้าและใส่เกี๊ยะธรรมดา

สิ่งที่เหมือนกันทั้งโอยรันและเกอิชา คือพวกเธอจะต้องสามารถสร้างความสุขให้กับเหล่าชายหนุ่มด้วยการพูดคุยถกเถียงเรื่องบทกวี การร่ายรำ และร้องเพลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องหมั่นฝึกฝน พร้อมกับใช้สัญชาตญาณวิเคราะห์ว่าผู้ชายบุคลิกแบบนี้ชอบอะไรและต้องการการพูดคุยเรื่องแบบไหนไม่ต่างกัน

อย่างไรก็ตามในความเหมือนที่มีข้อแตกต่าง ทั้งโอยรันและเกอิชาจะไม่ชอบใจมาก ๆ หากมีใครมาทักผิด เพราะค่านิยมของคนญี่ปุ่นหยั่งรากฝังลึกถึงความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของอาชีพตัวเอง แม้กับหญิงสาวที่ขายความสุขด้วยเรือนร่าง หรือหญิงสาวผู้สร้างความสุขด้วยบทสนทนา ต่างก็มีความภูมิใจตัวเองไม่น้อยกว่าใครหน้าไหน

 

ว่าด้วยชนชั้นของหญิงงามเมือง

วงการโอยรันมีโครงสร้างไม่ต่างจากอาชีพอื่น ๆ ในญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก หญิงงามเมืองทั่วไปจะเรียกกันว่า ยูโจ (遊女) มีความหมายว่า หญิงแห่งความพึงพอใจ และจะมีหญิงสาวที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดเรียกว่า โอยรัน หรือ ทะยู (ชื่อเรียกเพี้ยนไปตามถิ่น บ้างก็ว่าทะยูเป็นตำแหน่งที่สูงกว่าโอยรัยขึ้นไปอีก) หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามถึงขนาดบางคนเปรียบว่างามเหมือนกับพระโพธิสัตว์ ทุกท่วงท่าการเดินเต็มไปด้วยความมั่นใจ มาดเหมือนนางพญา ฉลาด หัวไวรอบรู้เรื่องศาสตร์และศิลป์หลายแขนง

เหตุที่พวกเธอมีความรู้ทั้งที่เป็นหญิงบริการนั่นเป็นเพราะพวกเธอต้องร่ำเรียนอย่างหนัก ศึกษาบทกวี ร้องเพลงได้ ร่ายรำอย่างงดงาม สามารถวิจารณ์ภาพพิมพ์แกะไม้ญี่ปุ่น (Ukio-E) อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความสุขให้กับแขกได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะคนญี่ปุ่นมองว่า ความสวยที่มาพร้อมกับความฉลาดจะสร้างความสุขขั้นสุดยอด

 

หญิงสาวในหอนางโลมหรือโรงน้ำชามีที่มาหลากหลาย บางคนถูกพ่อแม่ขายให้โอก้าซัง (เจ้าของหอนางโลมเรียกง่าย ๆ ว่าแม่เล้า) ตั้งแต่ยังเด็กและก็รับมาเลี้ยงไว้จนโต เด็กเหล่านี้จะมีตำแหน่งว่า คามุโระ (禿) มีหน้าที่วิ่งซื้อของ ดูแลยูโจ ทำความสะอาดโรงน้ำชา

เมื่อคามุโระโตขึ้นอายุราว 10 ปี เด็กรับใช้บางคนหน้าตาสะสลวยก็อาจมีโอกาสร่ำเรียนศิลปะ ท่องบทกวี เพื่อขึ้นเป็นหญิงงามเมืองของหอนางโลมนั้น ๆ เรียกกันว่า ชินโซ (新造) คล้ายกับวงการไอดอลที่มีเด็กฝึกหัดรอวันได้เดบิวต์ แถมในชินโซก็มีการแบ่งกลุ่มชนชั้นยิบย่อยลงไปอีก 

ช่วงที่เป็นชินโซ เด็กสาวทั้งหลายต่างต้องรีบกอบโกยความรู้และศึกษาธรรมเนียมต่าง ๆ พออายุได้ประมาณหนึ่งก็จะต้องเตรียมตัวเข้าสู่พิธีมิสึอาเงะ หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คืองานประมูลเพื่อให้เหล่าเด็กสาวฝึกหัดก้าวขึ้นมาเป็นยูโจอย่างเต็มตัว ความงาม ความสาว และความบริสุทธิ์จะถูกตีค่าเป็นเงิน ด้วยอายุเพียงแค่ 13-15 ปี เท่านั้น 

สำหรับหญิงงามเมืองไร้สังกัดหอนามโลมจะถูกจัดอยู่ในหมวดหญิงงามเมืองชั้นต่ำราคาถูก เป็นโสเภณีที่พบเจอทั่วไปตามท้องถนนไม่ค่อยมีชายหนุ่มฐานะดีชายตามอง เหตุที่โสเภณีเหล่านี้ไม่มีสังกัดเป็นเพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น หน้าตาไม่สวยพอ มีกิริยามารยาทที่ไม่คู่ควร หรือแม้กระทั่งเหตุผลที่ว่าโง่เกินไป ทำให้พวกเธอกลายเป็นชนชั้นล่างของวงการหญิงงามเมือง ถ้าเปรียบให้เห็นภาพคงจะเหมือนกับเหล่าโรนิน ซามูไรพเนจรที่ไม่มีสังกัดนั่นเอง

 

โอยรัน หญิงงามเมืองผู้เต็มไปด้วยศักดิ์ศรี

ในโรงน้ำชาหรือหอนางโลมแต่ละแห่งจะมีโอยรันได้หนึ่งคน เป็นหญิงสาวที่สวยที่สุด เพียบพร้อมด้วยความรู้ทางด้านศิลปะไปจนถึงการปรนนิบัติ เธอคนนี้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง เมื่อสาวงามเพียงคนเดียวเท่านั้นขึ้นสู่ยอดพีระมิด เธอสามารถสร้างข้อต่อรองต่าง ๆ กับโอก้าซังได้ เธอจะได้ห้องส่วนตัวขนาดใหญ่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีเด็กรับใช้ส่วนตัว (คามุโระ) และถูกเอาใจจากเจ้าของหอนางโลมเพราะเธอคือตัวทำเงินอันดับหนึ่งของร้าน

โอยรันจะได้สวมใส่เสื้อผ้าหรูหรากลายเป็นสตรีที่นำแฟชั่น มีขบวนแห่ไปรอบเมืองเพื่อให้ชาวบ้านยลโฉมความงามยากจะจับต้องพร้อมกับมีนักดาบคอยคุ้มกัน รวมถึงสิทธิ์ที่ยูโจต่างก็อยากได้มากที่สุดคือการเลือกรับหรือไม่รับลูกค้าได้ตามใจ ทำให้ผู้ชายธรรมดา ๆ หมดสิทธิ์ใกล้ชิดกับเธอแถมยังลดปัญหาเรื่องโรคติดต่อจากการนอนกับชายไร้หัวนอนปลายเท้า 

ไม่ใช่ทุกคนที่อยากพบโอยรันก็จะได้พบ ผู้ชายที่ชื่นชอบเธอจะต้องติดต่อผ่านโอก้าซังเพื่อนัดเจอกันอย่างต่ำ 3 ครั้ง แถมการพบกันครั้งแรกระหว่างโอยรันกับแขกจะเป็นการพบกันแบบไร้บทสนทนา โอยรันจะนั่งห่างออกไปและไม่พูดคุยกับแขก ไม่กินหรือดื่มอะไร เป็นเพียงการพบกันเฉย ๆ แต่น่าแปลกที่การพบกันโดยไม่พูดจากลับกระตุ้นให้ผู้ชายรู้สึกอยากเร่งให้ถึงครั้งที่สองเร็ว ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นเธอจะตัดสินใจว่าลูกค้าคนนั้นคู่ควรหรือไม่ถึงจะให้โอก้าซังติดต่อกลับไป 

เมื่อการพบกันครั้งที่สองมาถึง เธออาจจะนั่งใกล้กับแขกมากขึ้นหรือมีบทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างกัน จนมาถึงการพบกันครั้งที่สาม แขกคนดังกล่าวจะถูกเรียกว่า นาจิมิ (馴染み) หมายถึงลูกค้าคุ้นเคย ในห้องจะมีถาดและตะเกียบสลักชื่อของเขาพร้อมกับซองจดหมายแสดงความยินดี แต่เมื่อใครก็ตามได้เป็นนาจิมิ เขาจะไม่สามารถเรียกยูโจคนอื่นมาใช้บริการได้อีกเพราะจะถือว่าดูถูกและไม่ให้เกียรติโอยรัน

สิทธิ์การเลือกรับแขกตามใจชอบของโอยรันถือเป็นข้อดีหลักของวงการหญิงงามเมือง เพราะเธอสูงค่า เป็นที่ต้องการของชายหนุ่มจนสามารถต่อรองได้ เหล่าผู้มีอันจะกินของญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยตั้งแต่ไดเมียวไปยันโชกุนต่างก็อยากได้เธอ หากบางคนอยากครอบครองหรือไถ่ตัวเธอออกจากหอนางโลมเพื่อเป็นเมียรองหรือนางบำเรอส่วนตัวจะต้องจ่ายหนักมาก เพราะค่าตัวของโอยรันคืนเดียวเท่ากับเงินเดือนหนึ่งปีของคนธรรมดา

อย่างที่เคยย้ำกันไปหลายครั้งถึงความภูมิใจในตัวเองของชาวญี่ปุ่นไม่เว้นแม้แต่โสเภณี กว่าพวกเธอจะก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งสูงสุดอย่างโอยรันต้องผ่านอะไรมามากมาย ความยากกว่าจะได้ตำแหน่งมายิ่งเพิ่มพูนความมั่นใจของโอยรัน พวกเธอหยิ่งในศักดิ์ศรีถึงขนาดมีเรื่องเล่าว่า

‘หากโดนชายบังคับขืนใจ เธอจะยอมคว้านท้องตัวเองตายดีกว่าต้องทนรู้สึกถึงการย่ำยี ชายคนนั้นจะได้แค่เสพสมกับร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่โอยรันที่ชายทั้งญี่ปุ่นอยากครอบครอง’

ความสูงค่าของโอยรันเป็นทั้งสิ่งยั่วยวนให้หญิงงามเมืองพากันตะเกียกตะกายเพื่อให้ได้มา แต่ทุกอย่างต้องมีตรงกลางเสมอหากโอยรันบางคนเข้าถึงยากเกินไป หรือมีค่าตัวสูงเกินใครในญี่ปุ่นจะหาเงินมาจ่าย จนกาลเวลาผ่านไปเริ่มมีอายุมากขึ้น ความสวยงามและสดใหม่เริ่มลดลงแล้วยังไม่มีใครกระเป๋าหนักพอจะจ่ายเงินพาเธอออกไปก็จะถูกลดขั้นเป็นยูโจธรรมดา ไร้สิทธิพิเศษตามเดิม หรือโอยรันบางคนอาจกลายเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนวิชาให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นโอยรัน ส่วนจุดที่ทำให้ความนิยมของโอยรันเสื่อมลงเกิดขึ้นเมื่ออาชีพเกอิชาได้รับความนิยมจากชายหนุ่มมากขึ้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่กระแสความนิยมเวียนมาแล้วก็ผ่านไป

 

โอยรันกับ Pop Culture 

ช่วงทศวรรษ 1900 หอนางโลม ย่านโคมเขียว และอาชีพโสเภณีที่เคยทำกันเกลื่อนเมืองกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เมื่อรัฐบาลออกประกาศว่าการค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เริ่มมีการกวาดล้างซ่องทั่วเกาะญี่ปุ่น เพราะกิจกรรมของหอนางโลมไม่ต่างอะไรกับการค้ามนุษย์ 

ถึงแม้ว่าโอยรันจะหมดไปนานแล้ว แต่โอยรันกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่ต่างจากเกอิชา ซามูไร หรือแม้กระทั่งยากูซ่า ด้วยเหตุนี้เองทำให้เรื่องราวของพวกเธอจึงไม่เคยหายไปจากสังคมญี่ปุ่นปัจจุบัน นวนิยายร่วมสมัยบางเรื่องอาจกล่าวถึงโอยรันแบบผ่าน ๆ บางเรื่องกลับให้เธอเป็นตัวเอก เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Memoirs of a Geisha (2005) หรือชื่อภาษาไทยว่า ‘นางโลม โลกจารึก’ จะเล่าเรื่องของเกอิชาเป็นหลักและมีโอยรันผ่านตามาให้คนรุ่นหลังได้เห็นว่าพวกเธอเป็นอย่างไร 

การ์ตูนเรื่อง One Piece ผลงานจากปลายปากกาของ เออิจิโร โอดะ (尾田栄一郎) ที่โด่งดังไปทั่วโลกก็เคยกล่าวถึงความงามแสนอันตรายนี้ด้วยเช่นกัน กับตัวละครนามว่า โคสึกิ ฮิโยริ (光月日和) แห่งเกาะวาโนะคุนิ อันเลื่องลือถึงความงามและพิษสงร้ายกาจ หลอกเอาเงินจากผู้ชายที่หลงเสน่ห์ของเธอ เพราะความงามของเธอถึงขนาดที่ว่าผู้ชายหมดตัว ไม่ว่าทำผิดแค่ไหนก็ไม่โกรธ แถมยอมตายได้ขอเพียงได้หลับนอนกับเธอแค่หนึ่งคืน

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แข็งแกร่งทางวัฒนธรรมมากประเทศหนึ่งของโลก ทำให้โอยรันยังสามารถโลดแล่นอยู่โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาวัฒนธรรมเก่าแก่อันเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ โอยรันในปัจจุบันจะไม่ได้ขายเรือนร่างแบบสมัยก่อนแต่จะมีบทบาทในงานเทศกาลท้องถิ่นญี่ปุ่น ใครที่อยากเห็นโอยรันตัวเป็น ๆ ก็สามารถเดินทางไปยังย่านอาซากุซะ (Asakusa) ที่โตเกียวได้

นอกจากนี้ยังพบพวกเธอได้ตามงานเทศกาลต่าง ๆ ทั้ง Oiran Dochu (おいらん道中) หรือเทศกาลชมซากุระ (Ichiyo Sakura Matsuri) ช่วงเดือนเมษายน เทศกาลมารุยามะ ฮานะ (Maruyama Hana Matsuri) เมืองทสึบาเมะ (Tsubame) จังหวัดนีงาตะเดือนพฤศจิกายน และชมขบวนพาเหรดสองวันรอบวัด Osu Kannon ในเทศกาล Osu Street Festival ได้ที่เมืองนาโงย่า

อย่างเร็ว ๆ นี้มีงานประกวดเพื่อเฟ้นหาสาวงาม หญิงสาวชาวสิงคโปร์นาม Rachel Leng ก็สามารถผ่านการคัดเลือกสาวงามเป็นโอยรันต่างชาติคนแรกเมื่อปี 2017 ในงานเทศกาล Shinagawa Shukuba และได้รับความสนใจจากสื่อทั่วทั้งญี่ปุ่น เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ เพราะไม่บ่อยนักที่ชาวต่างชาติจะเข้ามามีบทเด่นในงานเทศกาลของญี่ปุ่น แถมแว่วว่าโอยรันอาจมีโอกาสได้เดินในพาเหรดงานโตเกียวโอลิมปิก 2020 เพื่อแบ่งปันเรื่องราวของความงามและเล่าประวัติศาสตร์อีกด้านหนึ่งให้คนทั่วโลกได้รับรู้

โอยรันถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเยือนญี่ปุ่น หญิงสาวบางคนอยากมาแต่งตัวตามโอยรันในสตูดิโอเพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ชายหนุ่มจำนวนไม่น้อยก็อยากมาดูสาวงามด้วยตาของตัวเอง เพราะโอยรันกลายเป็นสิ่งสูงค่า เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีและความสามารถจนไม่น่าเชื่อว่าการขายบริการทางเพศจะสามารถสร้างความยิ่งใหญ่และกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่แสนซับซ้อนได้ถึงขนาดนี้

 

SOURCE: 1 /2 / 3 /4 /5 / 6 / 7 / 8

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line