ล้วงลึกกว่าจะมาเป็นชุดพื้น AIR UNIT บน NIKE VAPORMAX ที่รองเท้าที่ทุกคนใฝ่ฝัน

ย้อนกลับเมื่อปีที่ผ่านมา Nike ได้ปล่อยเทคโนโลยีใหม่เนื่องในวัน Air Max Day นั่นคือ Full-length Air sole หรือชุดพื้น Air Unit แบบเต็มแผ่นที่หน้าตาประหลาดกว่า Air Max รุ่นที่ผ่าน ๆ มา จนกระทั่งออกมาเป็น Nike Vapormax สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการรองเท้าอย่างมาก

ดีไซน์ของ Nike Vapormax ถือว่ามีการผสมผสานที่ลงตัวลงตัวระหว่างรองเท้า lifestyle & performance จึงไม่น่าแปลกใจหากว่าโมเดลนี้จะถูกนำไปใช้ในเชิงแฟชั่นอย่างคอลเลคชั่นของ Rei Kawakubo จาก COMMÉ des GARÇONS หรืองาน collaboration ระหว่าง Nike และ Virgil Abloh ก็ยังมีรองเท้า Vapormax อยู่ด้วย แถมขายดีชนิด sold out ตลอดอีกด้วย

Nike Vapormax X COMMÉ des GARÇONS

Nike Vapormax X Virgil Abloh

ซึ่งแม้แต่เราเองก็ยังรู้สึกชื่นชอบรองเท้าโมเดลนี้เช่นกัน เพราะมันสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับทุกลุคได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็น sport, casual หรือแม้กระทั่งงานกลางคืนที่เราสามารถสวมใส่กับสูทได้อย่างไม่เคอะเขิน (สี Triple Black) เนื่องด้วยรูปทรงที่เพรียวกระชับจาก upper ทำมาจากผ้าถัก flyknit พอมาจับคู่กับ Air Unit ใสขนาดใหญ่ที่ดูล้ำสมัย แตกต่างด้วยการลดทอน outsole รองเท้า Vapormax จึงมีน้ำหนักค่อนข้างเบา จนเป็นที่มาของคำโฆษณาว่า “เดินอยู่บนอากาศ”

แต่กว่าจะออกมาเป็น Nike Vapormax หนึ่งคู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะล่าสุดได้มีการเปิดเผยกรรมวิธีผลิตรองเท้าคู่นี้ โดยเริ่มต้นจากวัสดุที่เลือกใช้สำหรับการผลิต กว่า 75% ของชุดพื้นทำมาจากวัสดุ recycle ที่พวกเขานำมาจากโรงงานผลิตส่วนตัวใน Oregon และ St.Louis

10 ขั้นตอนก่อนจะออกมาเป็น Vapormax Air Unit 

-นำแผ่นพลาสติก Polyurethane หรือ PU สองแผ่นมาเข้าเครื่องอัดความร้อนด้วยกรรมวิธีการผลิตประเภทอัดขึ้นรูปพลาสติกแผ่น (Thermoforming)

–หลังจากกระบวนการผ่านความร้อนเรียบร้อย เพื่อจะเตรียมนำไปขึ้นแม่พิมพ์ ที่เป็นตัวกำหนดทรงของพื้นรองเท้า ในขั้นตอนนี้เราจะเริ่มเห็นรูปร่างของพื้น Air Unit แล้ว 

–เมื่อออกจากแม่พิมพ์ก็จะมีการทำความสะอาด เช็คความเรียบร้อยตัดเอา PU ส่วนเกินออกไปจะถูกนำมาเก็บไว้  โดยสามารถ reuse ได้ถึง 90% ถือว่าช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแถมยังลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย 

–ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญที่สุด นั่นก็คือการอัดแก๊ส ไนโตรเจนใส่ลงไปพื้น PU จนกลายเป็นพื้น Air ที่พวกเราหลงใหลกัน ในขั้นตอนนี้จากพื้นแบน ๆ จะเริ่มพองตัวจนเป็นพื้นที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน 

–ขั้นตอนสุดท้ายคือการตรวจสอบคุณภาพ QC จากโรงงาน และค่อยส่งไปยังอีกโรงงานเพื่อประกอบกับส่วนอื่น ๆ ของรองเท้า อาทิ upper, lace, logo  ก่อนบรรจุออกวางจำหน่าย มาถึงหน้าร้านรอให้บรรดาสนีกเกอร์เฮดได้มาต่อคิวซื้อกัน 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นขั้นตอนกรรมวิธีการผลิตชุดพื้นรองเท้า Air Unit ของ Nike Vapormax ซึ่งปัจจุบันพวกเขาได้ใช้ชุดพื้นนี้ร่วมกับโมเดลรองเท้าอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญ Vapormax 2 ที่กำลังจะวางขายในเร็ววันนี้ ก็จัดเป็นรองเท้า must items ที่ชาว UNLOCKMEN ไม่ควรมองข้าม เพราะอย่างที่เราได้เกริ่นไปตอนต้นถ้าเกิดว่าโมเดลนี้ไม่เจ๋งจริง แบรนด์แฟชั่นหลาย ๆ เจ้าคงไม่มองเห็นความสามารถในการนำมาผลิตร่วมกับเสื้อผ้าของตัวเองอย่างแน่นอน

Source