Entertainment

NO MORE VIOLENCE: 6 ภาพยนตร์ที่ย้ำชัดว่า “ความรุนแรง” ไม่เคยเป็นทางออกของปัญหา !

By: SPLESS November 6, 2020

การใช้ความรุนแรง เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในระดับครอบครัว สังคมไปจนถึงการเลือกทำสงครามระหว่างประเทศ แต่ไม่ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะอยู่ในระดับไหน สิ่งที่ชัดเจนคือความรุนแรงไม่เคยทำให้ปัญหาคลี่คลายไปในทางที่ถูกต้องได้และหลายครั้งยังเพิ่มความบานปลายให้กับเหตุการณ์อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็กระตุ้นให้เหล่าคนที่ทำงานในวงการภาพยนตร์ผู้ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงจำนวนมากหันมาสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่ทั้งแสดงออกอย่างชัดเจนรวมถึงแฝงแนวคิด “ต่อต้านความรุนแรง” และวันนี้ UNLOCKMEN อยากขอแนะนำ 5 ภาพยนตร์จากหลากหลายยุคสมัยที่จะย้ำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า ความรุนแรงไม่เคยเป็นทางออกของปัญหา แต่ในลิสต์จะประกอบไปด้วยหนังเรื่องไหนบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย

Hotel Rwanda (2004)

Popsugar

Hotel Rwanda ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาอ้างอิงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดาในปี 1994 ที่ประชาชนชาวเผ่า Hutu ถูกยั่วยุให้เกลียดชังและออกมาเข่นฆ่าประชาชนชาว Tutsi ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 800,000 คนในช่วงเวลาเพียง 4 เดือน

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวความกล้าหาญของ Paul Rusesabagina ผู้จัดการโรงแรม Hotel Des Mille ผู้ช่วยชีวิตชาวรวันดาทั้งเผ่า Tutsi  และเผ่า Hutu สายกลางจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้มากกว่า 1000 คน ที่แสดงให้เห็นว่าท่ามกลางความรุนแรงยังมีเพื่อนมนุษย์ที่พร้อมจะหยิบยื่นมือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจากความทุกข์ยากเสมอ ไม่ว่าจะคน ๆ นั้นจะมีชาติกำเนิดที่แนวคิดแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม

1917 (2019)

newsnationtv1

1917 ผลงานภาพยนตร์สงครามผลงานขึ้นหิ้งอีกหนึ่งชิ้นที่เขียนบทและกำกับโดย Sam Mendes เล่าถึงภารกิจสำคัญของ 2 ทหารที่รับคำสั่งให้ส่งข่าวยับยั้งการโจมตีของกองทัพอังกฤษที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่กับดักของกองทัพเยอรมนี

ตัวหนังเล่าเรื่องผ่าน 2 ทหารยศสิบตรีในกองทัพอังกฤษอย่างสกอฟิลด์ (George Mackay )และเบรก (Dean-Charles Chapman) ที่ต้องรับหน้าที่ส่งข่าวสำคัญโดยแทรกซึมเสี่ยงตายผ่านทางสนามเพลาะ อย่างไรก็ตามหน้าที่ในสงครามครั้งนี้ของพวกเขาถือเป็นการช่วยเหลือชีวิตมากกว่าเข่นฆ่าซึ่งต่างจากทุกสมรภูมิที่ผ่านมา

Gandhi (1982)

Reelviews

ภาพยนตร์ชีวประวัติของมหาตมะ คานธี บุรุษผู้เป็นตัวแทนการต่อสู้ด้วยวิธีอหิงสาและผู้นำในการเคลื่อนไหวอย่างสันติวิธีจนมีส่วนสำคัญที่ทำให้อินเดียได้รับเอกราชคืนจากประเทศอังกฤษซึ่งปกครองอย่างกดขี่

Gandhi จะพาทุกคนไปรู้จักกับแนวคิดและแง่มุมชีวิตของชายผู้ที่ไม่เคยย่อท้อในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพที่แม้จะใช้เวลานานถึง 30 ปีกว่าจะทำให้ผู้คนเข้าใจเห็นว่า การเรียกร้องอย่างสันติวิธีนั้นมีพลังมากกว่าการเลือกต่อสู้ด้วยความรุนแรง ขณะเดียวก็สะท้อนให้เห็นว่าสันติภาพระยะยาวยังเป็นสิ่งที่มีราคาและยังคงต้องต่อสู้กับความเกลียดชังของมนุษย์บางกลุ่มต่อไป 

The Green Mile (1999)

Collider

The Green Mile ผลงานภาพยนตร์คลาสสิกที่ไม่ว่าจะรับชมเมื่อไหร่ก็ให้แง่คิดที่เปลี่ยนไปเสมอ กับเรื่องราวที่ของนักโทษประหารนามว่าจอห์น คอฟฟี่และชีวิตหลังกรงเหล็กในเรือนจำร่วมกับนักโทษร้ายแรงคนอื่น ๆ และเหล่าผู้คุม

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักเรื่องราวปาฏิหาริย์ในพื้นเรือนจำ ของเหล่านักโทษที่ถูกตัดสินจากการกระทำในอดีตรวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่จะทำให้เราเข้าใจว่า บางครั้งความเกลียดชังที่มีต่อคนอื่นก็เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง และหลายครั้งความคิดลบเหล่านั้นก็สามารถพัฒนาไปสู่การคุกคามชีวิตคนอื่นได้ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

The Hacksaw Ridge (2016)

Confessions From A Geek Mind

ภาพยนตร์สงครามที่ชวนตีความหมายใหม่ของการทำสงครามโดย Mel Gibson ยอดนักแสดงที่ขยับขึ้นมานั่งแทนผู้กับกำเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของนักรบผู้ไม่คิดจะปลิดชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง

The Hacksaw Ridge คือภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Desmond Doss แพทย์ประจำกองทัพสหรัฐผู้ปฏิเสธที่จะใช้อาวุธสังหารฝ่ายตรงข้ามในการสู้รบที่โอกินาว่าซึ่งเป็นหนึ่งในสมรภูมิแปรซิฟิกที่โหดร้ายที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวหนังจะถ้าผู้ชมไปทำความรู้จักตัวตนของ Desmond Doss เริ่มตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามถึงเรื่องราวเบื้องหลังแนวความคิดที่ไม่ต้องการฆ่าฟันเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ทางเลือกแห่งสันติภาพของแพทย์สนามคนนี้จะทำให้เขาสามารถรอดชีวิตออกมาจากสงครามที่โหดร้ายได้รึไม่ คงต้องไปชมบทสรุปด้วยตัวเอง

ทั้งหมดคือภาพยนตร์จากหลากหลายยุคสมัยที่ถูกสร้างขึ้น โดยหนึ่งมีหนึ่งเหตุผลคือเพื่อสะท้อนภาพสังคมให้คนชมภาพยนตร์ทั่วโลกได้ฉุกคิดว่า ความรุนแรงไม่เคยเป็นทางแก้ไขปัญหาที่ได้ผลและยังสามารถฝากบาดแผลต่อร่างกายและจิตใจทั้งต่อผู้ที่ถูกกระทำและผู้ลงมือทำอีกด้วย ซึ่งทางออกที่ดีของหลายๆ ปัญหา เราเชื่อว่าสามารถเริ่มต้นจาก การพูดคุยหรือรับฟังเหตุผลของอีกฝ่ายและยอมรับความแตกต่างที่ทุกคนมี

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line