Life

มารู้จักกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพลงดังมากมาย “เหนือวงศ์” นักแต่งเพลงที่คิดว่าสักวันอาชีพนี้จะหายไป และไม่มีอยู่จริง

By: HYENA March 4, 2016

เพลงฮิตของวงดนตรีระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่ดังไปทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือเพศไหน ก็ต้องเคยได้ยินผ่านหู และอาจจะร้องตามกันได้ทั้งนั้น เช่นเพลงฮิตของศิลปินอย่าง BIG ASS, BODYSLAM หรือ LABANOON ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเอ่ยถึงชื่อวงเหล่านี้ไปใครๆ ก็ต้องรู้จักกันทั้งนั้น และเมื่อเอ่ยถึงแค่ชื่อเพลง ทุกคนก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเพลงๆ นี้เป็นของวงอะไร แต่ในทางกลับกันนั้น น้อยคนนักที่จะรู้ที่มาของเนื้อเพลงของเพลงฮิตเหล่านี้ว่า มีต้นกำเนิดมาจากผู้ใด วันนี้ทางทีมงาน UNLOCKMEN ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ และพูดคุยกับบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ของวงการดนตรี นั่นก็คือ “นักแต่งเพลง” ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพที่อยู่เบื้องหลังผลงานของศิลปินดังๆ มากมาย ผู้ที่สร้างสรรค์ทุกถ้อยคำออกมาให้เป็นเพลงที่โดนใจหลายๆ คน เค้าคือผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น BIG ASS คนที่ 6 และนักเขียนเพลงรุ่นใหญ่ อย่าง “พี่เหนือ” เหนือวงศ์ ต่ายประยูร

A Conversation With นักเขียนเพลง “พี่เหนือ” เหนือวงศ์ ต่ายประยูรทุกครั้งที่เราได้ฟังเพลงเพราะๆ เรามักจะชื่นชมนักร้องนักดนตรี จนเราลืมไปว่ามีคนเบื้องหลังความสำเร็จ ผู้เรียบเรียงเรื่องราวและถ้อยคำต่างๆ ให้ออกมาเป็นเนื้อเพลง หรือที่พวกเราเรียกว่า “อาชีพนักแต่งเพลง” A Conversation With ครั้งนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “พี่เหนือ” เหนือวงศ์ ต่ายประยูร ผู้ถูกเรียกว่าเป็น Big Ass คนที่ 6 เกี่ยวกับที่มาที่ไปของการเลือกเดินบนเส้นทางสายนี้ ความทุ่มเทมั่นใจใส่เต็ม 100 ตั้งแต่จุดเริ่มต้น เบื้องลึกเบื้องหลังของเนื้องานและเคล็ดลับที่สำคัญสุดๆสำหรับคนที่สนใจจะเป็นนักเขียนเพลงอ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ : https://www.unlockmen.com/north-song-writer/

Posted by Unlockmen on Sunday, March 6, 2016

 

อาชีพนักแต่งเพลง หรือคนแต่งเนื้อเพลง ที่จริงๆ แล้วหลายคนมองข้ามไป เพราะนอกจากเนื้อเพลงที่ได้ออกไปสู่สาธารณะให้คนได้ฟัง และชื่นชมกัน น้อยคนนักที่จะสนใจผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเพลงๆ นั้น แต่ยังมีผู้ชายอยู่คนนึง ที่เกิดสงสัย และให้ความสนใจกับสิ่งนี้จนทำให้เค้าได้เจอกับอาชีพที่เค้ารัก “ถ้าถามผมว่าผมเริ่มอยากที่จะเขียนเพลงได้ยังไงเนี่ยมันนานมากแล้วล่ะ แต่ผมจำได้ว่าเป็นตอนวัยรุ่น น่าจะเป็นช่วงมัธยม ตอนนั้นพอฟังเพลงไทยแล้วรู้สึกมันโดน เริ่มรู้จักความรัก รักกัน อกหัก อะไรยังไง ซึ่งก่อนหน้านั้นน่ะ มันยังเป็นความรักแบบเด็กๆ แต่พอเริ่มโตขึ้นความรักมันก็เริ่มจริงจังขึ้น ก็เริ่มฟังพลง จำได้ว่าตอนมัธยมนี่ เพลงที่ดังๆ ต้องคนนี้เลย พงษ์พัฒน์ เพลงนี่ อกหักทั้งชุด!!”

160303-north-song-writer-1

“ในตอนนั้นแบบ เห้ย โดนว่ะ ก็ฟังไป มือก็ว่างไม่รู้จะทำอะไร ก็แงะปกมาอ่านเล่น ก็ไปเจอกับจุดนึงที่เขียนว่า คนเขียนเนื้อ แล้วก็มีชื่อคนคนนั้น เจอคนทำเบื้องหลังต่างๆ แล้วก็มีชื่อ ก็เลยรู้สึก เออว่ะ มันมีอาชีพนี้ด้วยเหรอวะ? ไม่เห็นเหมือนตอนเด็กเลย พ่อแม่ใครถามว่าอยากเป็นอะไรก็มีอยู่แค่ไม่กี่อย่างไม่ หมอ ตำรวจ ก็ครู ไม่เห็นมีคนเขียนเพลงเลย นี่มันมีด้วยนี่หว่า เลยคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะทำ ก็เริ่มเลย ฟังเพลงเยอะมาก แล้วอีกจุดก็คือ เคยมั้ยมีอารมณ์ประมาณว่า ทำไมเนื้อร้องมันเป็นแบบนี้ มันเป็นแบบนี้น่าจะดีกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเนื้อเพลงของเค้าไม่ดีนะ แต่เราอยากให้เป็นแบบนี้มากกว่านั่นคือจุดนึงด้วย เป็นจุดเริ่มเลยนะ ที่ทำให้รู้จักกับอาชีพนี้ แต่มาเริ่มจริงๆ นี่อายุ 20 กว่า”

160303-north-song-writer-2

“ที่บอกว่าเริ่ม 20 กว่าเนี่ย จริงๆ แล้วต้องเริ่มช้ากว่านี้ แต่ชีวิตตอนนั้นมันผิดหวัง เพราะตอนนั้นเรียนอยู่ ปวช ก็เล่นดนตรีไป เรียนไป ก็ด้วยความที่ใจมันเทมาทางนี้ ก็คิดว่าจะหาทางจะเข้าวงการนี้ยังไงดีวะ? เอาวะ เล่นดนตรีก่อนดีกว่าเพราะใครก็เล่นกัน ก็เล่นกันอยู่ดีๆ พอจบ ปวช ปี 3 เพื่อนแม่งไม่เล่นต่อ! แล้วก็คอยมาบอกเราอยู่ตลอดว่า มึงอย่าเล่นต่อเลย แม่งไม่ใช่หรอก ดนตรีมันแค่เรื่องเล่นๆ ตอนนั้นงงเลย แบบอะไรวะเรามีวงอยู่ดีๆ เพื่อนไปทำอะไรอย่างอื่นกันหมด เราก็แบบผิดหวัง ก็เลยเอาวะคนเดียวนี่แหละ ทำไงได้ก็กูจะเล่นดนตรี”

160303-north-song-writer-4

“ตอนนั้นคนอื่นก็ต่อ ปวส ต่อกัน เราก็เลยตามๆ เค้าไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน เรียนผ่านไปปีนึง เกรดเฉลี่ยน 1.86 ต้องเรียนซ้ำ เลยนึกในใจว่าเอาละ นี่เป็นจังหว่ะดีละ กูจะเรียนซ้ำทำไมให้เสียเวลา ไปเลยดีกว่า ไปลาออกเลย เพราะว่าน้อยใจเพื่อนด้วยที่เล่นดนตรีมาด้วยกันก็ไม่ยอมเล่นต่อ โรงเรียนก็ให้เรียนซ้ำ พอกลับบ้านไป ก็ไปบอกพ่อแม่ว่า ขอเงินซื้อกีต้าร์ หน่อย สรุป พ่อแม่ ไม่ให้ ก็โอเคไม่เป็นไร เก็บตังเองก็ได้วะ ก็ไปทำนู่นทำนี่ เป็นเด็กยกเครื่อง จนพอมีเงิน ตอนนั้นเก็บได้ 18000 บาท ก็ไปซื้อกีต้าร์มาตัวนึง เป็นกีต้าร์สั่งทำ จากร้าน กีต้าร์ WORKSHOP ของพี่จง”

160303-north-song-writer-4

“พอได้กีต้าร์มาก็ซ้อม ซ้อมๆๆๆๆ อย่างเดียว แต่พอมานึกอีกที ซ้อมอย่างเดียวมันไม่ได้เงินเข้ามานี่หว่า เงินที่เก็บมาก็เอาไปซื้อกีต้าร์หมดแล้ว ก็เลยหางานทำ ตอนนั้นก็มีไปเรียนกีต้าร์ด้วย จำได้ว่าครูที่สอนกีต้าร์ก็แนะนำว่า ถ้าจะมาสายนี้แล้วก็ลองฝึกแต่งเพลงไปด้วยดูสิ ก็ลองทำเพลง สมัยนั้นอัดด้วยเทปคาสเส็ท เอาไปตะเวนตามค่าย ตอนนั้นรู้จักอยู่ 2 ค่าย ก็คือ RS กะ GRAMMY ก็ไปเลย ไป RS ก่อนด้วย”

160303-north-song-writer-6

“พอเข้าไปในเขตบริษัทเค้ากำลังจะเข้าตึก ยามเรียก มาทำอะไร จะไปไหน ติดต่อใครไว้รึเปล่า? เราก็บอกเราจะเอาเพลงมาเสนอ สรุปยามบอกเข้าไม่ได้ ชิบหายเลย ตอนนั้นแบบ ยืนอยู่ตรงหน้าอาคารช๊อตอยู่แปปนึง พอตั้งสติได้ก็กลับ วันรุ่งขึ้นเอาใหม่ แต่คราวนี้ไป GRAMMY นี่ก็เป็นจุดนึงที่ไม่ได้ลำเอียงหรืออะไรนะ แต่มันเป็นเหมือนความประทับใจแรก ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าชั้นที่จะไปสมัครเนี่ยมันชั้น 30 หรือ 33 แต่คือกูขึ้นไปเลย ขึ้นไปได้ถึงหน้าห้องพี่ดี้ โดยที่ไม่มีใครมาเรียกกูไว้ ไม่มีใครมาถามว่ากูมาทำอะไร แล้วไอเหี้ยแม่งดวง สวนกับพี่ดี้ตอนขึ้นลิฟพอดี พี่ดี้กลับบ้าน ก็เลยไปเจอลูกน้องพี่ดี้แทน เลยบอกเค้าว่าเราจะเอาเพลงมาเสนอ เค้าก็บอกเราว่าตอนนี้ยังไม่มีนโยบายที่จะรับศิลปินนะ แต่ถ้าจะมาฝึกแต่งเพลงน่ะได้ โอโห้ นี่ไงจุดเริ่มเลย  ก็ไปเป็นนักเรียนเขียนเพลงอยู่ที่นั่น”

160303-north-song-writer-12

“แต่ความฝันในวัยเด็กแต่แรกเลย อยากเป็นนักแข่งรถ โตมาหน่อยก็อยากมาเป็นนักบอล แต่พอมาช่วงมัธยม อยากทำงานในวงการเพลงนี่คือคำตอบที่ชัดสุด บ้ามากจนขนาดไม่เรียนหนังสือ แล้วในที่สุดก็ได้ทำ”

160303-north-song-writer-3

“ถ้าถามว่าอาชีพนักแต่งเพลงเนี่ยมันพอเลี้ยงปากท้องมั้ย มันก็แล้วแต่ช่วงแล้วแต่อารมณ์อีกเหมือนกันนะ ช่วงที่ท้อเนี่ยทำอะไรก็แย่ มองไปทางไหนก็เห็นแต่เรื่องแย่ๆ ไอบ้าเอ้ยเดือนนี้แม่งไม่มีแดกแน่นอน เห็นเพื่อนเจ๊ง เห็นคนรอบข้างเจ๊ง เจ้านายก็เจ๊งแล้วก็ประสาทแดก ทุกคนแม่งเจ๊งหมด เราก็คิดแล้วเราจะมีแดกหรอวะทำงานวงการนี้เนี่ย? มันจะมีช่วงอารมณ์ท้อๆ แบบนี้เข้ามาบ้าง แต่บางช่วงเราก็แฮปปี้สุดๆ อะไรก็ดีไปหมด  เพื่อนทำเพลงออกมาก็ดัง เจ้านายก็หายประสาทแดกพูดดีด้วย เงินก็เข้า เราก็กลับมาคิด เออเว้ย! จริงๆ แล้ว อาชีพนี้แม่งก็ทำให้ชีวิตเราดีนี่หว่า เพราะฉะนั้น ตลอด 20 ปี ที่อยู่ในวงการนี้มามันจะมีช่วงแบบนี้อยู่แล้วเป็นช่วงๆ ขึ้นๆ ลงๆ แต่พอมานั่งคิดจริงๆ ตั้งแต่ทำอาชีพนี้มา มีกินตลอด ไม่เคยอด บางทีแค่ท้อไปเอง  เพราะมันเหนื่อย”

160303-north-song-writer-7

“บางทีเขียนเพลงออกไปแล้ว Fail ก็มีบ่อย แต่วิธีที่เราจะจัดการกับความ Fail ของเรา แทนที่เราจะไปนั่งเซ็ง เราก็เอาเรื่องที่เรา Fail มาเขียนเป็นเพลงแม่งเลย แล้วก็ได้ผลมาทุกครั้งนะ อย่างตอนเขียนเพลง ก่อนตาย ของ BIG ASS อย่างงี้ ตอนนั้นนี่คือ แม่งคิดไรไม่ออกแล้วว่ะ ตัน ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 24 เองมั้ง แต่เสือกคิดว่าตัวเองตัน จนต้องมีพี่ๆ ผู้ใหญ่ มาพูด มาปลอบ ว่า จริงๆ แล้วมึงยังไม่ตันหรอก อายุแค่นี้เอง คนอื่นเขียนเพลงจนแก่ยังไม่เห้นจะตันเลย สุดท้ายมาคิด เอาไงดีวะ คิดอะไรไม่ออก สุดท้ายเลยเอาไอ้ที่กูเป็นอยู่เนี่ย มาเขียนเป็นเพลงแม่งเลย แล้วก็ได้เพลง ก่อนตาย มา เนื้อเพลงก็คือ หรือว่ากูจะตายแล้ววะ? กูจะทำอะไรไม่ได้แล้วหรอวะ? ทำไมกูคิดอะไรไม่ออก? เนี่ยแค่นี้นิดเดียว ออกมาเป็นเพลง ก่อนตาย”

160303-north-song-writer-8

“สำหรับการเขียนเพลงให้กับใคร และรักอยากที่จะทำก็คงเป็นการเขียนให้ วง BIG ASS แน่นอนอยู่แล้ว เพราะด้วย วัยเดียวกัน อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เป็นเด็กโนเนม เด็กธรรมดา ไม่มีอะไรเลย เรียนก็ไม่เก่ง เล่นดนตรีก็ไม่ใช่แบบฮีโร่ วง BIG ASS ไม่มีกีต้าร์ฮีโร่ ไม่มีกลองฮีโร่ แม่งคือคนธรรมดาทั้งหมด แล้วมาเจอกับเราในช่วงที่ 0 ทั้งคู่ แล้วเริ่มด้วยกันทั้งหมด แม่งเลยแบบว่า ใช่  ทุกครั้งที่ทำเพลงอะไรออกมา เราสามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง โดยไม่ต้องฟังซ้ำเลย นี่คือวงที่ทำงานง่าย และเป็นตัวเองที่สุด ถ้าลองลงมาก็จะเป็น LABANOON ก็ใกล้เคียง สังเกตเนื้อเพลงนี่จะเข้ากับตัวเองมากๆ จีบใครก็ไม่ติด คบใครอยู่ก็โดนคนรวยแย่ง ออกแนวลำบากซึ่งเหมือนกับเรามากๆ ก็เลยอิน และอีกวงก็ BODYSLAM อันนี้ต้องเรียกเป็น Generation หลังเรา คือเค้าแรง แรงทุกอย่าง ทั้งพลัง ทั้งความคิด ทั้งอะไรต่ออะไร เลยทำให้เวลาเราทำงานกับ BODYSLAM แล้วรู้สึกว่า แม่งไม่อยากหยุด น้องเค้ายังไม่เคยหยุดเลย เค้ามาแรงตลอด ถ้าเราหยุดนี่คงอายน้องชิบหาย ฉะนั้นเวลาทำงานกับ BODYSLAM เราจะได้พลังเยอะมาก เหมือนได้เติมพลังให้กับตัวเองไปด้วย”

160303-north-song-writer-9

“สำหรับคนที่อยากเป็นนักเขียนเพลงผมบอกไม่ได้หรอกว่ามันดี ไม่ดี อย่างบางคนเข้ามาตั้งใจทำงาน มันก็ดี บางคนเข้ามาฟลุคๆ แล้วก็มาคิดว่ากูอย่างงั้นอย่างงี้สุดท้ายมันก็เละไปเอง คือมันต้องใช้ความแน่วแน่พอสมควร รักษาความเป็นตัวเองให้ได้ และต้องไม่วอกแวก ตลอด 20 ปีมีอยู่แค่ 3 เรื่องที่จะทำให้คนอยู่ในวงการนี้ไม่ได้ก็คือ 1.เงิน 2.ผู้หญิง 3.อีโก้  สิ่งที่ทำสำคัญที่สุดในการอยู่วงการนี้สำหรับผมนะ มันไม่ใช่ฝีมือ แต่มันเป็นสันดาร และทุกวันนี้เวลาผมจะหาศิลปินซักคน ฝีมือมันเป็นเรื่องอันดับลองลงมาที่จะมอง ผมจะมองที่สันดารก่อน”

160303-north-song-writer-11

“ที่สุดแล้วเรายังมีอยู่อย่างนึงที่ยังอยาก UNLOCK ตัวเองอยู่นะ คืออย่างแต่ก่อนนี้ศิลปินจะทำงานเพลงออกมาเนี่ย มันต้องผ่านหลายทีมงาน ทีมเขียนเพลงก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเมื่อก่อนเนี่ย 95% เลยนะที่จะเป็นทีมทำให้ แต่ในทุกวันนี้เนี่ย เด็กสมัยใหม่ทำกันเองหมด กลายเป็นทำกันเอง 95% ทีมทำให้ 5% ซึ่งมันดีนะ แต่มันก็ทำให้เราคิดเหมือนกันนะว่า อาชีพนักเขียนเพลง มันจะกลายเป็นอาชีพที่ไม่มีจริงแล้วรึเปล่าวะ? ถึงตอนนี้เราจะยังเป็น 5% ที่หลงเหลืออยู่ แต่ก็เชื่อว่าสุดท้ายวันนึงแม่งคงจะเหลือไม่ถึง 5% ระหว่างนี้เก็เลยคิดว่ากูจะทำอะไรต่อ”

160303-north-song-writer-10

“ความฝันต่อไป ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจะเป็นความจริงที่ต้องทำเลยก็ได้ เพราะว่าการเป็นคนเขียนเพลงแบบนี้มันอาจจะไม่มีแล้วในอนาคต ซึ่งเราก็เห็นอะไรในวงการนี้มาเยอะมาก ทั้งดี และไม่ดี ก็เลยคิดว่าจะเอาประสบการณ์ตรงนั้นมาเปิดค่ายเพลงของตัวเอง ทำเองทั้งหมด ถึงแม้ว่าอาจจะมีคนมาลงทุนให้ เราอาจจะไม่ใช่เจ้าของเงินลงทุนทั้งหมดแต่สุดท้ายก็ยังอยากที่จะทำเองทุกอย่าง อยากทำให้ได้ ถ้ามาถามว่าทำไมไม่ไปทำมาหาแดกทางอื่น ก็ไม่รู้จะตอบไง แต่จะเปรียบเทียบให้ฟังแทนละกัน มันคงเหมือนกับ คุณมีแฟน คุณรักผู้หญิงคนนี้มากๆ แต่ผู้หญิงคนนี้แม่งไม่ได้รักเรา แม่งไปมีคนอื่น ทำร้ายเราทุกอย่างเลย แต่แม่งเราก็ไม่ไป มันเหมือนอย่างงั้น หลายๆ คนอยู่วงการนี้แล้วไม่ไปไหน ไม่ใช่ว่าเค้าไปไหนไม่รอด แต่ว่าเค้าเป็นคนประเภทนี้ไง จะโดนทำร้ายยังไงกูไม่ไป”

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line