DESIGN

OMEGA SPEEDMASTER PROFESSIONAL MOONWATCH ‘MASTER CHRONOMETER’ 3861

By: Chaipohn January 6, 2021

Omega Speedmaster ถือเป็นนาฬิกาสามัญประจำบ้านที่นักสะสมทุกคนต้องมีไว้ใน Collection มันคือนาฬิกาที่ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติทั่วโลก เป็นนาฬิกาที่ NASA เลือกให้นักบินอวกาศใส่ทำภารกิจนอกโลก ซึ่ง นีล อาร์มสตรอง และ บัซ อัลดริน สวมใส่ Speedmaster ref. 105.012 และ 145.012 ติดข้อมือไปสู่ดวงจันทร์ในวันที่ 22 กรกฎาคม 1969 จนได้รับการขนานนามว่า “รุ่นเหยียบดวงจันทร์” ซึ่งมีการพัฒนาต่อยอดในหลายรุ่นพิเศษ

 

 

ด้วยความล้ำหน้าและควาสสิคของ Omega ตัวเครื่อง caliber 1861 Moonwatch สามารถทำหน้าที่ได้ดีเป็นเวลานานกว่า 50 ปี และก็ถึงเวลาแล้วที่มันจะถูกแทนที่ด้วยกลไกตัวใหม่ “co-axial Master Chronometer-certified caliber 3861” ใน Speedmaster  ซึ่งตัวกลไกใหม่ล่าสุดนี้เคยถูกใช้ใน Omega เพียง 3 รุ่นพิเศษคือ Apollo 11 Anniversary Limited Edition ในเดือนมีนาคม 2019,  Apollo 11 50th Anniversary Limited Edition ในเดือนพฤษภาคม 2019 และ “Silver Snoopy” 50th Anniversary Speedmaster ในเดือนตุลาคม 2020

การมาแทนที่ของ co-axial Master Chronometer-certified caliber 3861 ใน standard-production Moonwatch หมายความว่าวันนี้กลไก caliber 1861 ได้ถูก discontinued อย่างเป็นทางการเรียบร้อยหลังทำหน้าที่มาตลอด 50 ปี ตัวเครื่อง caliber 3861 ยังคงเป็นแบบไขลานที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจาก 1861 โดยแทบไม่ได้แตะต้องหรือเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของเครื่อง สามารถทนทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สำรองกำลังได้นานขึ้นถึง 50 ชั่วโมง ความละเอียดแม่นยำสูงสุดของ Swissmaker ระดับ Master Chronometer และยังคงได้มาตรฐาน flight-qualified by NASA นั่นหมายความว่าถ้าคุณได้มีโอกาสออกไปนอกโลกเมื่อไหร่ ก็สามารถใส่ Omega ขึ้นไปได้เลยทันที

นอกจากตัวเครื่อง ใน Moonwatch รุ่นปี 2021 ยังมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดเล็กน้อย ที่สังเกตได้คือการเพิ่มเข้ามาของฟังก์ชัน Hacking Seconds สำหรับหยุดเข็มวินาที สายเหล็กที่เปลี่ยนเป็น five links per row ช่วยเพิ่มความสบายในการสวมใส่ และเรายังสามารถแยกระหว่างรุ่นกระจก Hesalite glass ฝาหลังทึบ ออกจากรุ่นกระจก Sapphire ฝาหลังใส ได้ด้วยข้อของสายเหล็ก โดยถ้าเป็นรุ่นกระจก Sapphire บริเวณข้อสายเหล็กจะขัดเงา ส่วนในรุ่น Hesalite บริเวณข้อสายจะเป็น matte-finish ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ แทบจะเหมือนเดิมเกือบทั้งหมด ยังคงความสวยงามคลาสสิคของ Omega Speedmaster Moonwatch เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

Omega Speedmaster Moonwatch Caliber 3861 ขนาดตัวเรือน 42mm. มีให้เลือกทั้งแบบ stainless steel ($6,300 on a bracelet / $5,950 on a nylon strap), 18-karat Sedna gold ($34,800 on a bracelet and $24,600 on a leather strap) และ 18-karat Canopus gold  ($45,300 on a bracelet and $30,400 on a leather strap)

 

 

เชื่อว่าการ discontinued ของเครื่อง 1861 อาจจะทำให้หลายคนหันมาสนใจ Omega Speedmaster Moonwatch กันมากขึ้นทั้งคนที่มีมันในครอบครองอยู่แล้ว รวมถึงคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ส่วนตัวเราคิดว่า caliber 1861 ยังคงน่าสนใจสำหรับคนที่อยากสะสมประวัติศาสตร์ 50 ปีที่ขึ้นชื่อว่าถูก discontinued ไปแล้ว

แต่ถ้ามองไปในอนาคต การลงทุนกับ Omega Speedmaster Moonwatch caliber 3861 Master Chronometer ก็ถือเป็นความคุ้มค่าระยะยาว เพราะอย่างน้อยในอีกหลายสิบปีข้างหน้า มันจะยังเป็นนาฬิกาที่ทันสมัย และพร้อมจะสวมใส่บนข้อมือออกไปนอกโลกได้ทันทีถ้า Elon Musk บอกว่า SpaceX พร้อมจะเปิดทัวร์ไปเที่ยวนอกโลกได้

 

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line