Entertainment
Orlando Bloom ชายผู้พลิกชีวิตตัวเองตั้งแต่ก้าวแรกของการเริ่มต้น
By: unlockmen September 30, 2015 15001
จะมีสักกี่คนในวงการฮอลลีวู้ดที่จะมีฝีมือได้รับการคัดเลือกให้ได้เล่นในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้างมหาศาลตั้งแต่ก้าวแรกของการไปแคสต์เป็นตัวเอก กรณีนี้ถ้าไม่เรียกว่าฝีมือ ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรไปได้ โดยในวันนี้เรื่องราวของชายผู้ที่เราได้หยิบมานำเสนอจะพิสูจน์ให้เราเห็นว่าความสำเร็จในครั้งแรก ไม่ใช่เรื่องของโชคเสมอไป เขาคนนี้ได้รับการคัดเลือกให้เล่นในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากการไปแคสต์เป็นตัวเอกครั้งแรกในชีวิต ทำให้ถูกมองว่าเป็นก้าวที่เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งหลายคนได้มองว่าเป็นเพราะโชค แต่หลังจากนั้นด้วยการการันตีจากผลงานคุณภาพที่เขาได้รับเลือกให้แสดงต่อมาเรื่อยๆ ก็คงพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ชายผู้นี้ไม่ได้มากับโชค ซึ่งภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาได้รับโอกาสในบทบาทตัวเอกที่เราพูดถึงก็คือเรื่อง The Lord of the Rings ภาพยนตร์ในดวงใจของพวกเราหลายๆ คนนั่นเอง และจากบทบาทนักธนูเอลฟ์ในเรื่องนี้ได้พาเขาไปสู่เวทีชีวิตที่ห่างไกลเกินกว่าที่เด็กที่เติบโตในเมืองเล็กๆ อย่างเขาจะฝันถึงได้ คนที่เรากำลังพูดถึงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้ เลโกลัสของพวกเรา Orlando Bloom
Orlando Bloom เกิดที่เมือง Canterbury ประเทศอังกฤษ ในปี 1977 โดยชื่อของเขาถูกตั้งตามชื่อของกวีเพลงในศตวรรษที่ 16 เขาเติบโตในเมืองที่หันไปทางไหนก็จะเห็นแต่โบสถ์ทางศาสนา และเป็นหนึ่งในเมืองอันเก่าแก่ของอังกฤษย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยโรมัน ศตวรรษที่ 14 ชีวิตในวัยเด็กของบลูมโตมาโดยที่คิดว่าตัวเองกำพร้าพ่อจากการจากไปของ Harry Bloom นักข่าวผู้มีชื่อเสียงที่อยู่กินกับแม่ขณะเขาอายุ 4 ขวบ ทิ้งครอบครัวที่มีกันเพียงสามคนแม่ลูกไว้เบื้องหลัง บลูมมารู้ความจริงเข้าก็ต่อเมื่อเขาอายุได้ 13 ขวบว่าความจริงแล้วเขาคนนั้นไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเขา ส่วน Sonia Constance Josephine แม่ของบลูม เกิดมาในตระกูลใหญ่ที่กระจายตัวอยู่หลายประเทศ ทั้งอินเดีย ออสเตรเลีย รวมถึงญี่ปุ่นด้วย
น่าแปลกที่นักแสดงผู้มีชื่อเสียงหลายคนเติบโตมาในครอบครัวทีเคร่งครัดศาสนา ครอบครัวของบลูมก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเติบโตมากับศาสนาอย่างแท้จริง โดยศึกษาในโรงเรียนศาสนาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งๆ ที่ชีวิตของเขารายล้อมไปด้วยพระเจ้าแต่น่าแปลกที่ปัจจุบัน บลูมในวัยผู้ใหญ่ได้หันมานับถือศาสนาพุทธแทนไปด้วยความเลื่อมใสส่วนตัว
บลูมในวัยเด็กถูกพบว่ามีความผิดปกติในด้านการบกพร่องทางการเขียน ทำให้เขาไม่สามารถที่จะเขียนตัวหนังสือเป็นคำๆ ได้ เมื่อโตขึ้นเป็นหนุ่ม บลูมถูกแม่คะยั้นคะยอให้ไปเรียนในคณะที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและการละคร
ในที่สุด ปี 1993 บลูมก็ทำการพาตัวเองเข้าสู่มหานครลอนดอนเพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของวิทยาลัย Fine arts ในคณะสาขาละคร การถ่ายภาพ และศิลปกรรม เขาใช้เวลา 2 ปีในการศึกษาจนจบ และได้ไปร่วมงานใน National Youth Theatre อันถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางเวทีของวัยรุ่นในอังกฤษ ซึ่งมีนักแสดงระดับโลกผ่านเวทีนี้มาแล้วอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Daniel Crag, Ben Kingsly และอีกหลายๆ คน
บลูมร่วมงานอยู่ที่ National Youth Theatre เป็นระยะเวลาถึง 2 ปี จึงได้รับทุนให้ไปเข้าคลาสการแสดงที่ British American Drama Academy และที่นั่นเองก็ทำให้เขาได้มีโอกาสในการฉายแววนักแสดงมืออาชีพเป็นครั้งแรกโดยเขาได้รับบทบาทการแสดงในละครซีรีย์เรื่อง Casualty และ Midsomer Murders ในบางตอนที่ออกฉาย
หลังจากนั้นบลูมก็เริ่มที่สร้างฝันทางด้านการแสดงของเขาอย่างจริงจังโดยเขาได้ตัดสินใจไปเข้าศึกษาต่อที่ Guildhall School of Music and Drama และที่นี่เองที่เขาได้เรียนด้านการแสดงอย่างจริงจัง และผลพลอยได้ก็คือเขาได้โอกาสรับบทบาทเล็กๆ เป็นเด็กเสิร์ฟในภาพยนตร์เรื่อง Wilde ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของบลูมในวงการจอเงิน
ในปี 1999 หลังจากที่บลูมสำเร็จการศึกษาอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ภาพยนตร์เรื่อง The Lords of the Rings กำลังเปิดคัดเลือกนักแสดงที่จะมาทำการแสดงในภาพยนตร์ โดยบลูมก็ได้ไปทำการสมัครเข้ารับการคัดเลือกนี้ด้วย โดยแท้ที่จริงแล้วตอนแรกเขาได้ไปทำการคัดเลือกเป็นนักแสดงเป็นตัวละคร ฟาราเมียร์ แต่ว่า ผู้กำกับ Peter Jackson เห็นแววจึงจับบลูมมาลองคัดเลือกเป็นตัวละคร เลโกลัส ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้บทนี้ไปครองจนได้ และจากบทบาทนี้ก็ทำให้พวกเราได้รู้จักเขาอย่างจริงๆจังๆ เป็นครั้งแรก โดยในระหว่างการถ่ายทำบลูมก็ได้เคยโชว์สปิริตนักแสดงโดยในระหว่างถ่ายทำเขาได้พลัดตกจากหลังม้า ทำให้กระดูกซีโครงหัก แต่เพื่อให้การถ่ายทำดำเนินต่อไปได้ บลูมจึงขอแค่การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อประคองไปให้การถ่ายทำเสร็จสิ้นจนได้ในที่สุด
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง บลูมก็ได้รับการทาบทามให้รับบทบาทจากภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down ตามมาติดๆ และเขาทยอยถูกนิตยสารต่างๆ จัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งมาแรงที่สุดของยุค
ในช่วงปี 2001 – 2003 เมื่อภาพยนตร์เรื่อง The Lords of the Rings ออกฉายในที่สุด เขาก็ได้กลายเป็นนักแสดงที่คอยกวาดรางวัลตามเวทีต่างๆ ไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็น European Film Awards, Hollywood Festival Award, Empire Awards และ Teen Choice Awards นอกจากนี้เขายังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในเวทีอื่นๆ อีกมากมาย
ในปี 2003 บลูมก็ได้รับการทาบทามให้ไปเล่นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อีกครั้ง ในเรื่อง Pirates of the Caribbean ร่วมกับนักแสดงสุดเก๋าอย่าง Johnny Depp ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้ทำให้ใครหลายๆ คนที่ยังไม่รู้จักเขา ได้คุ้นชื่อของผู้ชายคนนี้มากขึ้น หลังจากนั้นดวงทางด้านการแสดงของบลูมก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุด ภาพยนตร์เรื่องต่อๆ มาที่เขาได้รับเล่น ล้วนมีแต่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Trojan War, Troy, Elizabethtown และ Kingdom of Heaven ไปพร้อมกับการไล่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Pirates ให้เสร็จสิ้นทั้งสามภาค
ในปี 2006 บลูมเป็นนักแสดงชายที่มีผู้เสิร์ชค้นหาชื่อมากที่สุดใน Google โดยกระแสความดังของบลูม ดังไปทั่วทั้งยุโรป และอเมริกา รวมไปถึงฝั่งเอเชียบ้านเราด้วย ในปี 2007 ภาพยนตร์ 4 เรื่องที่เขาเป็นนักแสดงหลัก ได้ติดอันดับใน “15 อันดับ ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล” อีกทั้งเขายังได้ปรากฏตัวในโฆษณาทางทีวีต่างๆ มากมา่ย ในช่วงระหว่างปี 2007 – 2009 ในหลายๆ ทวีป
ในด้านชีวิตส่วนตัว ในปี 2007 เขาได้แต่งงานและใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ Miranda Kerr นางแบบซุปเปอร์โมเด็ลของออสเตรเลีย โดย 3 ปีหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ให้กำเนิดลูกชายออกมาลืมตาดูลูกหนึ่งคน แต่หลังจากนั้นชีวิตคู่ของพวกเขาก็เริ่มระหองระแหง และล่าสุด ปี 2013 บลูมได้ออกให้สัมภาษณ์ว่าเขากับภรรยาได้แยกกันอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เห็นไหมครับ ผู้ชายคนนี้เป็นอีกหนึ่งบททดสอบเหมือนที่เขากล่าวกันว่า หากเราประสบความสำเร็จไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว เรายิ่งต้องเพิ่มความขยันเข้าไปอีกเป็นสองเท่า เพราะมีอีกหลายปากที่เตรียมรอที่จะพูดว่าครั้งแรกของคุณมันแค่โชคช่วย เพราะฉะนั้น มันก็สิทธิ์ของคุณแล้วล่ะครับ ว่าคุณจะชะลอตัวเองลงหลังการประสบความสำเร็จไปเพียงครั้งเดียว แล้วปล่อยให้คนลืม หรือเดินหน้าทำมันต่ออย่างมุ่งมั่นมากกว่าเดิม
โดยปัจจุบัน บลูมในวัย 38 ปีที่หลายคนยังดูเค้าความแก่ไม่ออกยังคงรับงานแสดงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์มหากาพย์ The Hobbit ที่เพิ่งจบไปซึ่งตัวเขาเองก็ได้รับเล่นทั้งสามภาคเช่นกัน รวมไปถึงการปฏิบัติงานเพื่อสังคมและการกุศลต่างๆ เช่น การปฏิบัติหน้าที่ฑูตอย่างต่อเนื่องขององค์กร UNICEF ที่ตัวเขาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งตั้งแต่ช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียงใหม่ๆ อีกด้วย