A Conversation with: คุยซีเรียสกับนัดเป็ดเพจที่ดีจนหาสาระไม่ค่อยได้

เพจใน FACEBOOK ทุกวันนี้ มันมีมากมายหลากหลายซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเพจท่องเที่ยว เพจการ์ตูน เพจมุกตลก เพจหมอดูก็ยังมี  แต่วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากจะพาไปคุยอะไรที่ไม่ค่อยเครียดกันบ้าง ให้ได้พักผ่อนสมองกันหน่อย กับเพจเฮฮาการ์ตูนบาทสองบาท ที่พร้อมจะมาสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าให้กับทุกคน กับเพจนัดเป็ด ขอเชิญร่วมเสพความกวนกันได้เลยครับ

แนะนำตัวกันหน่อยครับว่าเพจนัดเป็ดมีใครเป็นแอดมินบ้าง

คนทำก็มีกันอยู่สองคนครับ คือผมนัดกับเพื่อนอีกคนชื่อบอส ส่วนใหญ่ก็จะช่วยคิดมุขเนี่ยแหละ แต่ว่าผมจะเป็นคนวาด ส่วนบอสจะช่วยดูเรื่องออร์แกไนท์ เรื่องต่างๆในเพจครับ

จุดเริ่มต้นของเพจนี่มีที่มาที่ไปอย่างไรหรอ

ไอจุดเริ่มต้นมาจากว่า ผมกับบอสเราทำงานอยู่บริษัทเดียวกันมานาน ทำงานเป็นคู่หูกันเนี่ยแหละ และงานอดิเรก ก็คือการโยนมุกเล่นกันไปเล่นกันมา พอมีมุกบาทสองบาท ก็เอามาแชร์กัน เล่นกันตอนกินข้าวขำๆ แบบนี้ ไปๆ มาๆ เลยคิดหรือว่าไอมุกอย่างเนี่ย ก็น่าจะเอาไปเล่นที่อื่นได้นี่หว่า  แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปลงที่ไหน ลองคิดขำๆ หรือว่าจริงๆ หรือเราจะทำเพจดีวะ เพจที่ทำเรื่องไร้สาระ (หัวเราะ) ในตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะดังอะไร กะเล่นแบบลงให้เพื่อนกันเองดู ขำๆ ครับ

คือตอนแรกกะทำเล่นๆ เลย?

ใช่เล่นๆ เลยกะแบบทำเอาฮา เหมือนแบบกะเอามุกตลกบางมุกที่เกี่ยวกับเพื่อนเรา เอาไปเล่นแฉเพื่อน แต่ไปๆ มาๆ มันเริ่มใหญ่ขึ้น เริ่มเลอะเทอะ จนมันกลายเป็นใหญ่ ก็เลยงง (หัวเราะ)

แล้วคิดยังไงครับเนี่ยเอาชื่อพ่อมาทำชื่อเพจ?

คือชื่อนัดเนี่ยใครๆ ก็รู้ว่ามันเป็นชื่อที่โคตรฮิต ตอนเราอยู่มัธยมมันก็จะมีแบบ นัทหญิง นัทชาย นัทอ้วน นัทผอม แต่มันจะมีพวกที่รู้ชื่อพ่อ ชื่อแม่เรา มันก็จะเรียกนัทเหน่ง ไม่ก็นัทเป็ด พอเราจะคิดชื่อเพจ เราก็เลยจะหาความยูนีค เราก็เลยพ่วง ชื่อพ่อลงไปด้วย เพราะเราคิดว่านัดเป็ดมันน่ารักดี นี่พ่อยังโดนเพื่อนส่งมุกไปให้เลย แล้วถามว่านี่ทำเพจกับลูกหรอ (หัวเราะ)

มุมแรกของเพจนัดเป็ด

แล้วการที่มีคนเริ่มมาติดตามเพจคุณเยอะๆ มันเริ่มจากตรงไหน

คือมันเริ่มจากการที่เราเอา Content หรือ มุกเราในเพจ ไปปล่อยลงในเพจนักวาดภาพประกอบครับ เหมือนคล้ายๆ ว่าเรากับเพื่อนก็ติดตามเพจนี้มานาน เวลามีมุกอะไรก็ชอบเอาไปแชร์ในเพจ และคนในเพจเขาก็เอาไปแชร์กัน มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นว่า คนก็เริ่มรู้จักเพจนัดเป็ดจาก เพจนักวาดภาพประกอบเนี่ยแหละครับ

เห็นได้ข่าวมาว่าเมื่อก่อนนัดก็ทำงานภาพประกอบ?

ใช่เป็นนักวาดภาพประกอบมาก่อน คือตอนมหาวิทยาลัยก็เรียนเอกออกแบบสื่อสาร เราก็เรียนเรื่อง Illustrator graphic motion เหมือนปกติเราก็เรียนรอบด้านแหละ แต่ความสนใจเราจริงๆ ก็คือเป็น Illustrator แต่พอมาสักพัก เราก็หักเหใจไปชอบงานโฆษณา ตอนนี้เราก็เลยเป็น Art director อยู่

ถ้าจะให้พูดถึงเพจตัวเองแบบง่ายๆ เลย เรียกมันว่าเป็นเพจอะไร

ก็คงเป็นเพจไร้สาระ ที่สร้างภาระให้สมองชาวบ้าน ครับ (หัวเราะ)

แล้วทำงานไปด้วยอย่างไปด้วยอย่างงี้แบ่งเวลาตอนไหนมาทำ

ก็คงเป็นพักเที่ยงไม่ก็หลังเลิกงาน คือมีไอเดียอะไรคิดได้ตอนไหนเราก็จดไว้เลย กลับบ้านไปหรือมีเวลาก็ลุยเลย  อย่างเวลาบอสคิดมุกไรได้ก็จะจดไว้ ก่อนแล้วจะส่งให้ผม เพราะคนออก Art work มันก็เป็นผม อย่างบางทีบอสมีมุกส่งมา แล้ว ผมไม่ยอมวาดสักทีมันก็จะมาบ่นกับผม เมื่อไหร่มึงจะวาดสักทีวะ (หัวเราะ) หรือว่าบางทีก็จะมีลูกเพจบางคนส่งมุกมา ก็โดนตามตื้อบ้าง เมื่อไหร่จะวาด บางทีผมก็ต้องเจียดเวลาตัวเองไปวาดเยอะอยู่เหมือนกัน

ก็คือขำๆ เลยเปิดให้ส่งมุกกันเข้ามาได้ด้วย?

คือขำๆ ครับ อย่างบางคนที่ทวงจริงจังเลยก็มี แต่จริงๆ เราก็ยังเป็นคนที่คัดมุกอยู่

แล้วเราเลือกเรื่องมาทำเป็น content ยังไง

เรื่องที่เอามาทำหลักๆ มันจะมีอยู่ 2-3 ช่องทางในการที่เราจะได้ content หรือมุกสองสามบาท (หัวเราะ)
ช่องทางแรกก็คือ ผมกับบอสคิดมา แล้วก็มาแชร์กัน คือเอาเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันมาทำกัน อย่างบางทีนั่งคุยกันตลกเฮฮา ก็แบบ หึย!!  ใช้ได้หวะ แบบเวลากวนตีนกันมันก็จะมีอารมณ์แบบ เห้ยได้หวะ เอามาเล่นได้  เวลาเจอแบบนี้ก็จดเลยครับ  บางทีคนทำอะไรแปลกๆ เราก็เอามาปรับใช้เป็นมุกของเรา อะไรที่น่าสนใจ ไม่ก็มาจากข่าวเหตุการณ์บ้านเมือง เราทำหมด (หัวเราะ)

ส่วนช่องทางที่สองคือ มันก็เริ่มมีมุกจากลูกเพจแฟนคลับเข้ามาละ หลังๆ ก็เริ่มอายตัวเองแล้ว เพราะว่าบางทีมุกลูกเพจดีกว่าตัวเอง (หัวเราะ) ก็เลย อ๊ะ ๆ ช่วงนี้ก็อยู่ได้ด้วยมุกลูกเพจ (หัวเราะ)  ส่วนช่องทางสุดท้ายก็คือจากคนรู้จักเราเนี่ยแหละว่าเราเป็นคนทำเพจนัดเป็ด ตอนเจอกันหรือไปสังสรรค์ก็จะชอบส่งมุกมาประกวด และสุดท้ายมุกมันก็มักจะดีกว่ามุกของเราเหมือนเดิม (หัวเราะ)

ตั้งแต่ทำมาชอบมุกของตัวเองมุกไหนที่สุด

มุกช่างแม่ง คือ จริงๆ มันเกิดจาผู้หญิงที่ชอบบ่นว่า อ้วนกันตลอดเนี่ยแหละ แต่ก็เห็นกินอยู่นั้น สุดท้ายเขาก็มีประโยคนึง ที่เขากินข้าวอยู่ แล้วเราก็ถามเขาว่า นี่ได้ช่างน้ำหนักบ้างรึเปล่า ผู้หญิงเขาก็ตอบมาว่า ช่าง ช่าง เราก็ถามอีกว่าแล้วช่างได้กี่โล เขาก็ตะโกนมาว่า ช่างแม่ง!!! ~ เราก็ว่าแบบ เห้ย!!~ จังหวะนี้มันคมมากเลย มันรู้สึกว่าเป็น Best of the year ของเพจเราเลยก็ว่าได้​

คนชอบมองคุณเป็นมุกบาทสองบาท จริงๆ แล้วคุณให้ราคามุกคุณเท่าไหร่

สามบาท เล่นบาทเดียวสามมุกก็สามบาทแล้ว เราไม่เน้นคุณภาพ เราเน้นปริมาณ (หัวเราะ)

แล้วเวลาเจอคอมเม้นท์ลบๆ เนี่ยรู้สึกยังไงบ้าง

เราก็รู้สึกอยู่ 2 แบบ คือตอนแรกก็รู้สึกท้อ แต่อีกแบบก็เป็นอีกความรู้สึกคือ เออมันก็ยังมีคนพูดความจริง ไม่ใช่ปล่อยให้มุกเราแป็ก แล้วเงียบยาว (หัวเราะ) เหมือนบางทีเป็นคนเล่นมุกแป็ก แล้วเขาก็หัวเราะแห้งๆ แต่อันนี้เราไม่รู้ มีคนบอกตรงๆ มันก็มีข้อดีอีกแบบนึง มันก็เป็นแรงผลักดันด้วยแหละ บางทีมีคนคอมเม้นท์แบบ เล่นเหี้ยไรเนี่ย แล้วก็มีคนกดไลท์เขาเยอะๆ ก็แบบเออหวะ เราเล่นเหี้ยจริง (หัวเราะ) คนนี่เห็นด้วยเยอะ

แล้วจากที่ตอนแรกเลยทำเล่นๆ แต่ตอนที่แบบกระแสตอบรับมันแล้ว  ต้องเริ่มจริงจังแล้ว เพราะตอนนี้มีคนติดตามคุณอยู่สามแสนแล้วนะ

ตอนแรกก็คิดว่าคนปัญญาอ่อน น่าจะมีแค่เรากับเพื่อน และก็คนที่รู้จัก แต่ไปๆ มาๆ คนปัญญาอ่อนมันก็มีเยอะเหมือนกันนะ (หัวเราะ) มันอาจจะบ่นบอกถึงสังคมว่าตอนนี้มีคนเครียดสูง อาจจะต้องการสิ่งชโลมจิตใจ เบาสมองย่อยง่ายๆ บาทสองบาท อ่านไม่ต้องยาว  แต่หลังๆ พอมันมีคนติดตามเยอะ เริ่มรู้สึกว่าความฮาเรามันมีคนคาดหวัง ก็มีเริ่มกดดันละ (หัวเราะ) บางวันลงมุกแป๊ก~ นี่ซึมไปทั้งวัน โดนลูกเพจคอมเม้นท์ด่า ท้อแท้ก็มี

ตอนที่มันทะลุหมื่นรู้สึกยังไงบ้าง

โทรหาบอสเลยครับ คุยโม้กันทั้งวัน เหมือนแบบคุยข่มกันว่าที่มันได้ เพราะกูอะไรอย่างเนี่ย (หัวเราะ) อีกฝ่ายก็บอกไม่ใช่ๆ เพราะกู แต่เอาจริงๆ นะ แบบเราจะรู้กันเลยว่าลูกเพจ รู้ว่ามุกใครเป็นมุกใคร ดูจากกลุ่มคนที่มาคอมเมนท์ในแต่ละมุก เหมือนจะมีความรู้กัน ซึ่งมันก็เป็นจุดที่เราเอามาข่มกันอย่างสนุกปากกันอยู่ตอนนี้ แบบเห้ยดูมุกมึงดิคนกดไลท์เท่าไหร่เอง บางทีมันก็มีการแข่งขันกันสูง แม้แต่คู่หู แบบว้าย!!~ มุกมึงแม่งไม่ถึงหมื่น มุกกูถึงหมื่นหวะ มันจะมีความข่มกันอยู่ ถ้าจะให้จริงมันก็ข่มกันเล่นๆ แหละ สุดท้ายทุกคนก็อยากให้งานออกมาดีครับ (หัวเราะ)

ปกติคุณเป็นคนกวนๆ อย่างในเพจจริงหรือเปล่า?

ไม่  ผมว่าปกติก็เรียบแล้วแหละ กวนๆ กับแค่เพื่อน คนรู้จัก หรือคนที่สนิท แต่บางทีมันมีลูกเพจมาเฮฮากับเรา ในข้อความ ด้วยความที่เขาไม่เห็นหน้าเรา เราก็อยากกวนตีนเขา ก็คือรู้ว่าเขาคงไม่ตามมาต่อยเรา (หัวเราะ) อย่างบางทีเขาทักมา ดีจ้า เราก็เงียบๆ พิมพ์ไปว่า . . . .  สักแป๊บตอบไปอีกว่าใครถาม แล้วเขาก็ด่าเรากลับมา  เราก็ขอโทษเขาไปเรียบร้อย คือเราแซวขำๆ เหมือนพอไม่เห็นหน้ากัน เราก็ใส่เต็มได้บางที แต่ถ้าเจอหน้าจริงๆ ก็คงตลกไม่ออก (หัวเราะ) ปกติเป็นคนขี้เขิน แต่อยู่ใน social พอไม่เห็นหน้าก็มีความกล้าขึ้นมานิดนึงครับ

แล้วพอเดี๋ยวนี้เริ่มมีโฆษณาเข้ามา คิดว่ามีผลกระทบต่อเพจไหม?

มี เหมือนพอมีโฆษณาเข้ามา คือมันต้องหาสมดุลกับสิ่งที่เพจมันเป็น กับสิ่งที่ลูกค้าอยากให้เราเพจเป็น แต่จริงๆ เราก็ต้องตอบโจทย์ทั้งสองอย่าง คือสิ่งที่เราเป็นจริงๆ กับสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ หลังๆ ก็เลยต้องพยายาม
ตีโจทย์ และพยายาม blend-in ความต้องการของลูกค้า โดยยังคงความเป็นเอกลักษ์ของทางเพจอยู่ หลังๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าอาจจะลงโฆษณาน้อยลง มีเวลาพื้นที่ให้มุกในเพจกับลูกเพจมากขึ้น และก็เริ่มมีความคิดว่าอาจจะมีกิจกรรมบางอย่างที่ลูดเพจสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีนะครับ กำลังวางแผนอยู่

ก็คือห่วงเรื่องสมดุล

ใช่ อาจจะเปลี่ยนจากขอเงินลูกค้า มาเป็นขอเงินลูกเพจ (หัวเราะ)

คือก็ยังมองว่ามันเป็นงานอดิเรกอยู่ใช่ไหม

ใช่ คือ จิตใจยังไงก็อยากให้มันเป็นงานอดิเรกนะ เพราะเมื่อไหร่ที่มันรู้สึกว่าเริ่มเป็นงานหลัก ความจริงจังมันจะเริ่มมากขึ้น และยิ่งไปจริงจังกับเรื่องที่มันไม่น่าจริงจัง สุดท้ายมันก็จะไม่น่าสนใจ ผมคิดว่าเรื่องไม่จริงจังก็ต้องไม่จริงจังกับมัน มันถึงน่าสนใจ พอไปจริงจังกลายเป็นว่า มุกที่เราเล่นก็จะมีความเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น คือเราไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น อยากให้มันปล่อยปละ เรื่อยเปื่อย เปอะแปะอย่างงี้ไปเรื่อย อยากจะหยิบมันไว้อยู่ในช่องงานอดิเรกมากกว่า เพราะในชีวิตเรามันก็มีงานที่เราอยากทำแบบจริงจังอยู่ ทางนั้นเราก็ปล่อยให้มันเป็นไป ทางนี้ก็ถือว่าเราผ่อนคลาย

แล้วเรื่องรายได้ที่เข้ามาหละ

ขนม คือมองมันเป็นของเท่าตัว ไม่เท่าตัวก็ไม่กำไร ประมาณนี้ครับ

อนาคตที่คิดว่าอยากทำคิดว่าจะเป็นแนวไหน

มีแผนว่าจะทำเสื้อ ประมาณว่าเราขอเงินลูกค้ามาเยอะแล้ว ตอนนี้ขอเงินลูกเพจบ้าง (หัวเราะ) และอาจมีกิจกรรม Meet & greet ไม่ได้ให้เจอผมนะ ให้เขาเจอกันเอง (หัวเราะ) ให้เขามาคุยกันเองปรึกษากันไป แล้วก็อาจจะมีการจัด Meeting บางทีเราก็อยากรู้อย่างเราทำ content ที่แบบเราอยากให้มันเป็น บางครั้งเราก็ยังไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ เออหรือว่าจริงๆ ลูกเพจอยากให้มันเป็นแบบไหน ถ้ามีเวลาก็อยากจะจัดแบบให้ลูกเพจมาแสดงคอมเมนท์หน่อยครับ

คิดว่าเพจคุณมีจุดเด่นอะไรที่แตกต่างจากเพจอื่นๆ

ความแตกต่างหรอ มันก็คงเป็นแก้มแดงนั้นแหละ เหมือนปกติเวลาคนตกมุกก็ จะตบมุขอย่างมีเหตุผล แต่เราล้ำไปกว่านั้น เราตบมุขอย่างไม่มีเหตุผล เอ๊ะอะอะไรก็ใส่หน้าแดง จริงๆ หลายๆ ที่ๆ มาสัมภาษณ์เราก็จะตอบแบบหล่อๆ ว่า จริงๆ อารมณ์เขินมันเป็นอารมณ์ที่บ่งบอกได้หลายอย่าง บางทีมันบ่งบอกถึงความดีใจ ความเสียใจ เหมือนมันก็เป็นเสน่ห์อย่างนึงของคนอ่าน ที่ว่าพอคนอ่านปุ๊บ มันไปเจอหน้าเขิน เขาก็จะตีโจทย์ในเบบเขาเอง นี่คือที่ตอบแบบสวยๆ นะ แต่ที่ตอบแบบจริงๆ ก็คือ ไม่รู้จะตบมุกด้วยอะไร ก็ใส่แก้มแดงไปก่อน (หัวเราะ) สุดท้ายมุกอะไรไม่รู้ก็ตบแก้มแดงไปก่อน

ถ้าให้เปรียบเพจเหมือนตัวการ์ตูนตัวนึงคิดว่าเหมือนตัวอะไรจากเรื่องอะไร

มันคงเหมือนตัวอะไรที่มันโง่ๆ นิ่งๆ ตลอดทั้งเรื่อง (คิดสักแปบนึง) คิดว่ามันเหมือนมินเนี่ยน มันดูความแบบ คนเข้าใจมันยากแบบ ไม่เข้าใจว่ามันสื่อสารอะไร แต่สิ่งที่มันมีตลอด ก็คือ มันมีรอยยิ้ม

เห็นพวกเพจอื่นๆ ชอบมาเม้นท์แซวจริงๆ ก็คือเพื่อนกันปะ

คือเป็นเพื่อนกัน ที่ไม่เคยเจอกัน พวกเราปากดีกันใน social กันอย่างเดียวหัวเราะ เจอตัวจริงอาจจะมีการเขินกัน แต่จริงๆ แล้วคือก็มาแซวกันเป็นพิธี เหมือนอารมณ์เป็นเพื่อนบ้านมากกันกว่า แบบแหม๋~ วันนี้เล่นมุกอะไรกันอีกแล้ว ก็คือแซวกันพอหอมปากหอมคอ บางทีก็มีการขอคำแนะนำกันบ้าง แบบเอ้ย มีปัญหาแบบนี้ เป็นมึงๆ ทำไง หรือบางทีก็จะมาปรึกษาเรื่องมุกเรื่องทั่วไป แบบเล่นมุกอย่างงี้ดีไหม คือแต่ละเพจมันก็มีข้อดีแตกต่างกันไป การที่ได้แชร์ข้อดีข้อเสียให้กันและกัน มันก็ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย ได้คุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกันครับ

แล้วนัดเป็ดมีเพจในดวงใจที่ชอบไหม?

ชอบ 9GAG ชอบเพราะว่าอย่างว่ามันเป็นมุกตลกอันดับต้นๆ เลย ที่เราอ่านเมื่อไหร่ก็ไม่เบื่อ แล้วมุกของ 9GAG ที่เล่น มันไม่ใช่มุกตลกธรรมดา มันเป็นตลกที่เป็น inside ของคนจริงๆ เหมือนอารมณ์ว่ามันรู้ว่าชีวิตประจำวันของคนเราเป็นยังไง เหมือนเวลาเล่นมุกมาแล้ว เรารู้คนเดียวเลยว่า อ๋อ~ มันเป็นอย่างงี้ เหมือนถ้าเกิดจะเปรียบเทียบ 9GAG จริงๆ เหมือนแบบบางทีเราหมุนปากกาเล่นอยู่ มันแทบจะบอกได้เลยว่าหมุนปากการะวังตก มันมี inside ที่แบบอยู่กับเราไปทุกวัน มันชัด มันเป็นมุกตลกที่คนเข้าใจกันทั้งโลกเลย

ตัวอย่างมุมของ 9GAG

แล้วเพจนัดเป็ดมีอะไรที่อยากจะ UNLOCK อีกไหม

อยากลองให้ นัดเป็ด เป็น animation ดู มีความรู้สึกว่าแบบอยากเห็น ก็อาจจะต้องใช้ความพยายามในการศึกษามันหน่อย ก็มีความอยากริเริ่มว่าอยากศึกษาโปรแกรมภาพเคลื่อนไหว อยากรู้ว่าพอเวลามันขยับมันมีเสียงจะเป็นยังไง เพราะแบบเราทำเพจมันมานานเราก็เห็นมันแค่ยิ้มๆ ตากลมๆ ก็แค่นั้น เราไม่รู้ว่าเวลามันขยับมีเสียงมันเป็นยังไง ถ้าเราได้เห็นมันก็น่าจะเป็นความสุขของคนทำ ว่าเออ character ที่เราออกแบบมา มันก็ได้พัฒนาอีกขั้นนึง อันนี้ก็คงเป็นสิ่งที่อยาก UNLOCK อันดับต้นๆ ของเพจ

มีอีกอันด้วย คืออยากให้เพจมันขึ้นชื่อว่าเป็นเพจที่คนติดตามถึง 1 ล้านคน  เหมือนเราคุยกับคู่หูมาตลอดว่า คือมันพึ่ง UNLOCK มาไม่นานมานนี้ตอนเราคิดว่า  คือตอนเพจที่อยู่ในหลักหมื่น เราคิดว่า เราเคยมีจุดที่แบบว่าเราอยาก UNLOCK ให้ถึงแสน แล้วพอมันถึงแสนจริงๆ ปุ๊บ  คือพอเป้าหมายต่อไปเราก็เริ่มคิดใหญ่ขึ้นละ แสนมาได้ล้านก็ต้องมาได้ สิ่งที่อยากจะ UNLOCK  อีกอย่างก็คือไปให้ถึง หนึ่งล้านคน จะได้รู้ไปเลยว่าเมืองไทยมันไร้สาระ (หัวเราะ)

ถ้าให้มองแบบว่าเพจมันมีอิทธิพลกับคนในสมัยนี้ยังไงบ้าง

จริงๆ ถามว่ามีไหม มันมี มีเยอะมากด้วยเพราะว่า เพจเราไปอยู่ในรูปแบบที่มันนิยมที่สุดในโลกก็คือ facebook คือ 70% ของการใช้ชีวิตของคนวัยรุ่นทุกวัน  แสดงว่าเราเข้าไปอยู่ในชีวิตส่วนใหญ่ของวัยรุ่น อย่างว่าบางทีเราก็ลง Content ที่แบบความรู้สึกว่ามันตลกได้ แต่หลักๆ  คือต้องตลกอย่างมีจริยธรรมอยู่ เหมือนบางทีมันมีมุกที่เราลงและรู้สึกว่า มันต้อง ไปแน่ๆ แต่เราก็ยังไม่มั่นใจกับคู่หูว่า  จะไปในรูปแบบไหน จะเป็นการไปที่แบบสร้างความเดือดร้อน ความเข้าใจผิด ให้กับวัยรุ่นหรือเปล่า  อันนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คนที่จะทำเพจต่อไปต้องคิดคำนวนให้มันถี่ถ้วน  เหมือนคล้ายๆ ว่าเวลาเราเป็นคนพูดที่มี โทรโข่ง  ที่ใหญ่มากๆ เวลาพูดแล้วเราอาจจะต้องคิดหน่อย เพราะว่าคนที่ได้ยินมันมีจำนวนไม่ใช่น้อยๆ

ช่วยออกแบบ character ให้ UNLOCKMEN สักหน่อยได้ไหมครับ

สุดท้ายครับสิ่งที่คนอ่านจะได้จากเพจคุณก็คือ . . .?

ได้อ่านแหละ ก็คงได้ดูแหละ (หัวเราะ) ก็คงแล้วแต่คนดูว่าอยากได้อะไร

ยังมีมุกกวนๆ อีกมากครับโดยสามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ นัดเป็ด ได้เลยนะครับ
ถ้าใครอยากได้สติ๊กเกอร์ไลน์กวนๆ จากเพจนี้ก็เข้าไปดูกันได้ใน stickershopNutped ครับผม

ขอขอบคุณสถานที่ถ่ายทำกับร้านกาแฟรสชาติเยี่ยม Grind Size Bangkok  ครับ