PARIS SAINT-GERMAIN สโมสรที่ HYPE ที่สุดในโลกเวลานี้จากการนำฟุตบอลและแฟชั่นมาบรรจบกัน

โลกลูกหนังปัจจุบันได้เปลี่ยนสถานะที่เป็นมากกว่ากีฬาเพื่อหาความบันเทิง แต่มันได้กลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงินสะพัดจำนวนหลายพันล้านเหรียญต่อปี แถมเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมมากมายอย่างน่าเหลือเชื่อ

ซึ่งหากย้อนกลับไป 10-20 ปีก่อน ฟุตบอลก็ได้รับและส่งต่ออิทธิพลในโลกแฟชั่นอยู่แล้ว มีการแต่งตัวแบบ Terrace Culture ที่มีรากฐานมาจากฟุตบอล และเป็นต้นกำเนิดให้แบรนด์อย่าง Stone Island, Palace, Fred Perry

ในปัจจุบันและเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนโลกก็เปลี่ยนตามไปเช่นกัน ฟุตบอลยิ่งกลายเป็น Sub-culture หนึ่งของแฟชั่น และตัวของนักฟุตบอลเองก็มีสถานะไม่ต่างจากดารา Influencer ชื่อดัง ที่สามารถนำแฟชั่นมาใช้โปรโมตในชีวิตประจำวันหรือบนสนามหญ้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องเดินบนเวทีหรือพรมแดง ทำให้หลายสโมสรหรือธุรกิจมองเห็นโอกาสและพยายามจะโยงทั้งสองเรื่องนี้เข้าไว้ด้วยกัน

เป็นการปรับภาพลักษณ์ในเชิงพาณิชย์ให้สโมสรกลายเป็นแบรนด์สินค้าอย่างหนึ่ง สามารถหาเงินได้หลากหลายทางมากขึ้น อาทิ สโมสร Manchester United ที่ผันตัวเองเป็นบริษัทมหาชนอย่างเต็มตัว ทำการค้านอกสนามและสนใจเม็ดเงินกำไรมากกว่าผลการแข่งขันในสนามเสียอีก

แต่หนึ่งสโมสรที่ยกระดับและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับยุคฟุตบอลพาณิชย์ ต้องยกให้ทีมนี้ Paris Saint Germain หลังจากการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มมหาเศรษฐีตะวันออกกลาง QSI เมื่อปี 2011 ที่มีเป้าหมายใหญ่คือการทำให้ ปารีส นั้นเป็นมหานครแห่งฟุตบอลและแฟชั่น PSG จะต้องเป็นสโมสรระดับโลกและแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นแนวหน้า ทำให้เกิดการรีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ มีการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

พวกเขาเริ่มปรับปรุงจากในสนามแข่งก่อน พร้อมทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อเซ็นสัญญาคว้าซุเปอร์สตาร์ของโลกอย่าง เดวิด แบคแฮม , ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เนย์มาร์ มายกระดับผลงานในสนามให้น่าตื่นตาตื่นใจ และไร้เทียมทาน ดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาและฐานแฟนบอลใหม่ๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนดิ้งที่ชื่อว่า Paris Saint Germain

ด้านภาพลักษณ์พวกเขาก็ใส่ใจอย่างพิถีพิถันออกแบบชุดแข่งให้สวยงามอยู่สม่ำเสมอ แต่ที่พลิกวงการชนิดที่ไม่เคยมีสโมสรใดทำได้มาก่อน คือการนำสตรีทแบรนด์แฟชั่นอย่าง Air Jordan มาผสมผสานได้อย่างลงตัว นับเป็นปรากฎการณ์ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน

การโคจรมาพบกันของทั้งคู่เหมือนเรื่องบังเอิญที่เหมาะเจาะทั้งช่วงเวลาและเรื่องราว เมื่อ Micheal Jordan ต้องการขยายแบรนด์ของตัวเองให้ไปไกลกว่ากีฬาบาสเก็ตบอลและตลาดในสหรัฐอเมริกาฯ ซึ่งเขาได้มองหาเมืองที่จะมีร้านสแตนอโลนในยุโรป กระทั่งในปี 2016 ที่มีช้อป Air Jordan แห่งแรกในปารีส

ในปี 2018 เวลาของทั้งคู่ก็โคจรมาบรรจบกัน เมื่อโปรเจคของทั้งคู่ดันมาลงล็อค PSG ต้องการเป็น Global Brand และต้องการขยายฐานไปยังฟุตบอล ดังนั้นคงจะไม่มีที่ไหนดีไปกว่า ปารีส เมืองที่ Micheal Jordan หลงรัก เมื่อดีล win-win ทุกฝ่ายในปีเดียวกันก็มีการเปิดคอลแลป์สินค้าร่วมกับ Air Jordan  ซึ่งมีทั้งเสื้อผ้าบาส หรือแม้แต่ไอเทมเด่นอย่างสนีกเกอร์ การ crossover ทั้งสองแบรนด์ที่มีฐานนักกีฬาเป็น Trend Setter จึงทำให้พวกเขาใช้เวลาเพียงไม่นาน PSG ก็ได้สร้างอิมแพคให้กับวงการแฟชั่นที่เพื่อยอดขายอย่างน่าเหลือเชื่อ จากการเปิดเผยของ Forbes สโมสร PSG เป็นสโมสรกีฬาที่เติบโตในรอบ 10 ปีหลังสูงถึง 992 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

การออกนอกกรอบเดิมๆ เปิดมุมมองใหม่พร้อมเปิดผลิตmerchandise ภายใต้แบรนด์ Jordan ซึ่งปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่า 50 คอลเลคชั่น รวมถึงการไปคอลแลป์กับแบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ อาทิ Bape, Hublot หรือแม้แต่วงดนตรีอย่าง The Rolling Stone

ด้วยเสน่ห์ทั้งผลงานในสนามและภาพลักษณ์ที่ทรงพลังเช่นนี้ บวกกับความโรแมนติกของเมืองปารีส จึงไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะเชิญเชื้อบรรดาเซเลประดับโลกมายังสนาม Parc des Prices อาทิ GiGi Hadi, Kendall Jenner, Travis Scott, Justin Timberlake, Jay-Z แม้แต่ Micheal Jordan ที่ต่างสวมใส่ยูนิฟอร์มของเขาพวกเขา ก็เป็นการพีอาร์ไปในตัว

แม้ว่าปัจจุบันพวกเขาอาจจะยังไม่มีความสำเร็จหรือถ้วยแชมป์ยุโรปมาประดับตู้โชว์สโมสรได้ แต่การก้าวกระโดดครั้งนี้ของแบรนด์ที่ชื่อว่า Paris Saint Germain  การปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้ทำให้สโมสรฟุตบอลแห่งนี้มีจำนวนฐานแฟนคลับที่กว้าง และขยายไปมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ซึ่งเชื่อว่าความนิยมและร้อนแรงของแบรนด์ PSG คงจะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ๆ แล้วก็ต้องยกเครดิตให้กับวิสัยทัศย์อันยอดเยี่ยมของคนเบื้องหลัง และผู้บริหารทั้งหลายที่ผลักดันให้แบรนด์ PSG กลายเป็นหนึ่งสโมสรที่ฮิปและคูลที่สุดในโลกเวลานี้