FASHION

Pitti Uomo งานปล่อยของที่กลายเป็นจุดนัดพบและกำหนดทิศทางแฟชั่นของเหล่า Hipster ยุคนี้

By: Thada May 3, 2017

เมือง Florence นอกจากจะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในความงดงามของสถาปัตยกรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแล้ว ยังคงเป็นเมืองที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของศิลปะ วัฒนธรรม เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) โดยอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นสิ่งขึ้นชื่ออีกอย่างคืองานเทรนด์โชว์แสดงสินค้าเครื่องแต่งกายชายที่มาแรงที่สุดไม่แพ้รันเวย์ไหน ๆ อย่าง Pitti Uomo

ballPitti-91_Day-1-168-05

หากจะบอกว่างาน Pitti Uomo คืองานแฟชั่นโชว์กลายๆ ก็ได้เช่นกัน เพราะจะมีสินค้าแบรนด์อิตาลี รวมถึงจากทั่วโลกมานำเสนอคอลเลคชั่นใหม่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ในช่วง fall/winter (มกราคม) และ spring/summer (มิถุนายน) ซึ่งจะมี editor จาก magazine, buyer, retailer, influencer มาเข้าร่วมชมการแสดงโชว์คอลเลคชั่นกันอย่างคับคั่ง

ballNWS_chiusura_2-04

สิ่งที่ทำให้ Pitti Uomo โดดเด่นแตกต่างจากแฟชั่นโชว์อื่น ๆ คือสไตล์เสื้อผ้าที่มีความเป็นมนุษย์ และสามารถใส่ได้ในชีวิตจริงมากกว่าเสื้อผ้าจาก  Runway  และการที่เจ้าของแบรนด์จะได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ซื้อโดยตรง ต่างจากแฟชั่นโชว์ที่จะเน้นในเรื่องของ performance บน stage จนทำให้  designer  กับผู้ซื้อไม่มีโอกาสได้ปฎิสัมพันธ์กันด้วยซ้ำ

ballcopilot-style-201406-street-style-1403271015024_street-style-spring-summer-2015-pitti-uomo-2-15-02

นอกเหนือจากนั้นยังมีประชันสไตล์ของผู้เข้าร่วมงานที่จัดจ้าน หาตัวจับยาก จึงไม่น่าแปลกใจหากภาพจากงาน Pitti Uomo ส่วนใหญ่ล้วนกลายเป็น reference บน Pinterest แทบจะทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการบอกเล่าความเป็นมาของงาน Pitti Uomo ทีมงานจึงได้นำเอาประวัติรวมถึงจุดเริ่มต้นจนกลายเป็นงานเด็กแนวที่ฮอตฮิตอย่างเช่นทุกวันนี้มาฝากกัน

ball1434941478556-01

ย้อนกลับไปยังปี 1951 ชายที่ชื่อว่า Giovanni Battista Giorgini (ว่ากันว่าเขาเป็นคนสร้างแฟชั่นโชว์เป็นคนแรกในประเทศอิตาลี) เขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์ และความต้องการที่จะเผยแพร่แฟชั่นของอิตาลีให้กระจายไปทั่วโลก และเนื่องจากความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทนำเข้าส่งออก ทำให้ Giorgini ได้เชิญชวนผู้ซื้อชาวอเมริกามากมาย เพื่อมาชมความประณีตในการตัดเย็บเสื้อผ้าสไตล์อิตาลี  จึงเกิดเป็นงานแสดงผลงานสินค้าครั้งแรกขึ้นที่เมือง Florence แต่จะมีโชว์เฉพาะเสื้อผ้าของผู้หญิงเท่านั้น จัดขึ้นที่ Sala Bianca ใน Palazzo Pitti

ballgiovanni-battista-giorgini-2268711_0x440-07

Giovanni Battista Giorgini ชายผู้ทำให้เกิดแฟชั่นโชว์ในประเทศ อิตาลี

ball08-g.b.giorgini-modelle-19561-1105164_0x440-09

ballFig.-4-08

งานแสดงผลงานได้ถูกจัดเรื่อยมาจนกระทั่งปี 1972 นับว่าเป็นปีเกิดของงาน Pitti Uomo อย่างแท้จริง โดยที่มาของชื่อ Pitti ก็มาจาก Pitti Immagine ซึ่งเป็นองค์กรที่รับหน้าที่จัดงานแสดงสินค้านี้ ส่วน Uomo ตามภาษาอิตาลีแล้วก็แปลว่าผู้ชาย ดังนั้นงาน Pitti Uomo จึงเป็นงานแสดงสินค้าเครื่องแต่งกายชายอาทิ การตัดเย็บสูท (tailoring) ที่จัดขึ้น 4 วัน 4 คืน มีการเชิญชวนผู้ซื้อจากทั่วโลก (ส่วนใหญ่จากอเมริกาในช่วงแรก) มาเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ ปฎิสัมพันธ์ และกระตุ้นอุตสาหกรรมแฟชั่นภายในประเทศอิตาลี

ballpitti_immagine-uomo-06

นอกจากนั้นยังมีการชวนคนดังมาเพื่อกระตุ้นความสนใจจากสื่ออีกด้วย เพียงแค่ปีแรกงานก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากจนทำให้ Pitti Immagine สร้างงาน Pitti Bimbo ที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าเด็ก Pitti Filati งานแสดงสินค้าจากผ้าถัก Taste งานโชว์เคสเกี่ยวกับอาหาร และวัฒนธรรมต่อมา (จะว่าไปงานที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่ต่างจากงานแฟร์บ้านเราเสียเท่าไหร่) Pitti Uomo จึงเปรียบดังเวทีแจ้งเกิดสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษทั้งหลายในอิตาลีไม่ว่าจะเป็น Giorgio Armani หรือ Ermenegildo Zegna ล้วนเริ่มจากบู้ทเล็ก ๆ  ภายในงานก่อนจะขยับขยายเป็นห้องเสื้อระดับไฮเอนด์

กระทั่งยุค 80s สไตล์การแต่งตัวแบบอิตาเลี่ยนเริ่มเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทุกสายตาเริ่มจับจ้องมาที่ประเทศอิตาลี ทำให้พื้นที่จัดงานเดิมอย่าง Sala Bianca ใน Palazzo Pitti คับแคบจนเกินไปเสียแล้ว ทางทีมจัดงานจึงได้ย้ายสถานที่จัดไปที่ the Fortezza da Basso เพื่อจัดงาน Pitti Uomo แฟร์ ด้วยสถานที่อันกว้างขวางทำให้แต่ละแบรนด์สามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน งาน Pitti Uomo จึงเปรียบดังศูนย์กลางแฟชั่นของอิตาลีอย่างแท้จริง

balldati_chiusura_img-10

the Fortezza da Basso สถานที่จัด Pitti Uomo

ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีบางแบรนด์เลือกที่จะโยกย้ายไปยัง Milan ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางแฟชั่นแห่งใหม่ของอิตาลี มากกว่าจัดงาน Pitti Uomo ในเมือง Florence จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญขึ้น บู้ทที่เคยเป็นของแบรนด์อิตาลีเดิมว่างลง ทำให้ผู้จัดงานต้องเริ่มมองหาแบรนด์จากต่างประเทศเพื่อมาเติมให้เต็ม จากแต่เดิมที่กว่า 100% จะเป็นแบรนด์อิตาลี แต่หลังจากยุค 90s เป็นต้นมา บู้ทแสดงสินค้าภายในงาน  Pitti Uomo แบ่งเป็น 60 % ของชาวอิตาลี และอีก 40% มาจากแบรนด์ทั่วโลก

ballPitti-Uomo-SS17-Street-Style-1-03

ความจริงแล้วงาน Pitti Uomo ก็เป็นเพียงงานแฟร์แสดงสินค้าที่ดูไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไร แต่เพราะกระแสสตรีทแฟชั่นที่นิยมอย่างกว้างขวางในช่วง 4-5 ปีหลัง บวกกับภาพถ่ายสตรีทสไตล์ที่ได้นำเสนอแฟชั่นรูปแบบใหม่โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของแม๊กกาซีน หรือรันเวย์อีกต่อไป ทำให้งาน Pitti Uomo ที่มีความเป็นสตรีทตามคอนเซ็ปของมันอยู่แล้ว ยิ่งทวีคูณความน่าสนใจเพิ่มขึ้นไป

ball19UOMO-A-master1050-01

ballPorts+1961+Men+Fashion+Show+Spring+Summer+qq-QC3D_9oKl-03

ซึ่งในปัจจุบันงาน Pitti Uomo ก็จัดมาถึงครั้งที่ 91  แล้วสำหรับคอลเลคชั่น Fall / Winter เมื่อวันที่ 10 -13 มกราคม 2017 มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 30,000 คน และบู้ทแสดงสินค้ามากกว่า 1,200 บู้ท ซึ่งคาดว่ายอดผู้เข้าร่วมจะเพิ่มขึ้นทุกปีตามลำดับ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Pitti Uomo จะกลายเป็นพื้นที่สำหรับ celeb ในการปล่อยของ นัดพบ รวมถึงกำหนดทิศทางของแฟชั่นในปีนั่น ๆ อีกด้วย เราเองก็อยากให้ในประเทศไทยมีงานรวมตัวแฟชั่นแบรนด์ไทยแบบนี้บ้าง จะได้เป็นการโชว์ของ และรวมตัวกลุมลูกค้าที่สนใจ ทำให้เกิดความแข็งแรงในวงการแฟชั่นประเทศไทยมากกว่าต่างคนต่างขาย ต่างคนต่างซื้อ แบบในปัจจุบัน

ballcopilot-style-201406-street-style-1403358150766_street-style-spring-summer-2015-pitti-uomo-3-01-02

ballwalkabout-pitti-038-04

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line