Business

เทคนิคบริหารเงินสไตล์ Ed Sheeran แม้ไม่ดังแบบเขา แต่เราก็วางแผนสร้างชีวิตที่มั่นคงได้

By: NTman September 8, 2017

“So you can keep me Inside the pocket of your ripped jeans…” ท่อนคุ้นหูจากเพลง Photograph หนึ่งในเพลงฮิตของพ่อหนุ่มผมแดง Ed Sheeran ที่สื่อความหมายสุดลึกซึ้งว่าภาพถ่ายคืออีกหนึ่งรูปแบบของความทรงจำ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาด ๆ เพื่อนำมาระลึกถึงกันได้เสมอ แต่นอกเหนือจากภาพถ่าย อีกสิ่งหนึ่งที่เรายอมรับว่า Ed Sheeran สามารถเก็บรักษาเอาไว้ในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เขาใช้ความสามารถหามาได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

ในฐานะของศิลปินเจ้าของรางวัลแกรมมี่ เจ้าของเพลงฮิตมากมายจากสตูดิโออัลบั้มทั้ง 3 ชุด และทัวร์คอนเสิร์ตอีกเพียบ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเขาในปีที่แล้วนับเป็นเงินเหนาะ ๆ 33.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คนวงนอกอย่างพวกเราคงคิดว่า Ed Sheeran ต้องมีชีวิตที่อู้ฟู้ ใช้จ่ายเงินกระจุยกระจาย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาดสักเท่าไหร่ กับการที่ Ed เคยให้รางวัลตัวเองด้วยการใช้เงินไปกับการสร้าง Bar ส่วนตัวในบ้านราคาหลายล้านของเขา รวมถึงควักเงิน 2 ล้านเหรียญซื้อฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนจากงานเพลงด้วยวิถีชีวิตหนุ่มชาวไร่

แต่ใช่ว่าคนดังอย่าง Ed Sheeran จะสุรุ่ยสุร่ายถลุงเงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง โดยเขายังคงใช้ชีวิตประจำวันแบบสมถะเรียบง่าย ดูได้จากเครื่องแต่งกายพื้น ๆ อย่างรองเท้าคอนเวิร์ส กางเกงยีนส์ เสื้อฮู้ดธรรมดา ๆ รวมแล้วตั้งแต่หัวจรดเท้ามีราคาค่างวดเพียง 50 เหรียญสหรัฐเท่านั้น

นอกจากนี้ Ed Sheeran ยังเคยให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุคลื่น Capital FM ที่ประเทศอังกฤษว่า เขาได้จำกัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตัวเองด้วยการแบ่งเงินออกมาใช้ในงบ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือกดเงินมาใช้ได้แค่เดือนละประมาณ 33,000 บาทไทย เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เหนือจินตนาการสุด ๆ กับการที่ศิลปินดังระดับโลกจะมีเงินเดือนเพียงแค่ 3 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งในการสัมภาษณ์เขาได้บอกเหตุผลเอาไว้ว่า “ถ้าเงินทั้งหมดของผมมากองอยู่ในบัญชีเดียว ผมคงใช้มันจนเกลี้ยง ดีไม่ดีเงินจำนวน 1,000 เหรียญที่เตรียมเอาไว้ใช้ทั้งเดือน อาจหมดไปกับค่าแท็กซี่แค่เพียงอย่างเดียวก็เป็นได้”

ซึ่งแนวทางการบริหารเงินของ Ed Sheeran นั้นอาจจะดูเหมือนเบสิค แค่แบ่งเงินจำนวนหนึ่งสำหรับเป็นค่าใช้จ่าย กิน อยู่ และซื้อของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน เพราะซูเปอร์สตาร์อย่างเขา คงไม่ต้องมาพะวงเรื่องค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดีไม่ดีคนดังแบบนี้ หากไม่ติดหรู ใช้ชีวิตอู้ฟู่ ก็อาจมีเรื่องให้ต้องควักเงินน้อยกว่าคนธรรมดาอย่างเราเสียด้วยซ้ำ

แต่ใจความสำคัญคือแนวคิดหลักที่เขารู้จักพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเอง ว่าถ้าไม่รู้จักควบคุมแม้จะมีเงินมากเท่าไหร่คงไม่พอ รวมถึงการมีระเบียบวินัยทางการเงินที่ดีเยี่ยม ด้วยการลิมิตค่าใช้จ่ายของตัวเองในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือน ซึ่งใครที่กำลังจะเริ่มต้นวางแผนจัดระเบียบการเงิน เราอยากให้เริ่มวางแผนและวางเป้าหมายอนาคตทางการเงินตั้งแต่วันนี้ หากยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แนะนำให้ทดลองใช้ Plan Your Money เครื่องมือวางแผนชีวิตที่เข้าใจง่ายไม่ยุ่งยากชวนงง

และอย่าลืมลองนำเอาไอเดียการจำกัดค่าใช้จ่ายของพ่อหนุ่ม Ed Sheeran ไปปฏิบัติ เพื่อให้รายได้ที่รับมาต่อเดือนไม่สูญสลายหายไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แถมยังมีเงินเหลือสำหรับเก็บออมเอาไว้ลงทุนสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในยามเกษียณได้เป็นอย่างดี ซึ่งการนำไอเดียการจำกัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนนี้มาใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแค่เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้

ประเมินรายรับ – รายจ่าย : เราไม่ได้บอกให้ทุกคนจำกัดค่าใช้จ่ายเอาไว้ที่เดือนละ 3 หมื่น เหมือนกับที่ Ed Sheeran ทำ แต่ประเด็นคือควรเลือกจำกัดค่าใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งทางเดียวที่จะรู้ว่าต้องจำกัดเงินค่าใช้จ่ายรายเดือนเป็นจำนวนเท่าไหร่ จำเป็นต้องเริ่มจากการจดบันทึกรายรับ – รายจ่าย เพื่อที่จะประเมินได้ถูกว่าควรจะแบ่งเงินจากรายได้ทั้งหมด มาเป็นงบค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ โดยที่ไม่กระทบต่อสภาพคล่องของตัวเองมากจนเกินไป เพราะต้องไม่ลืมว่าการจำกัดค่าใช้จ่าย คือการบริหารเงิน ไม่ใช่การอด

ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น : หลังจากที่พอจะกำหนดงบประมาณสำหรับใช้จ่ายต่อเดือนแบบคร่าว ๆ ได้แล้ว เราแนะนำให้ย้อนกลับมาทบทวนดูบัญชีรายรับ – รายจ่ายอีกครั้ง เพื่อสแกนหารายจ่ายไร้สาระ ประเภทที่ว่าหากไม่ใช้จ่ายไปกับสิ่งเหล่านี้ ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไปได้ตามปกติ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้จิตใจที่มุ่งมั่น และความซื่อสัตย์ต่อตัวเองพอสมควร อยากให้พยายามนึกถึงเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนเงินออมเข้าไว้ เชื่อเถอะว่ายังไงก็ต้องเจอรายจ่ายที่สามารถตัดทิ้งไปได้ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถจำกัดงบประมาณให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น จนได้เป็นตัวเลขสุทธิสำหรับยอดเงินที่ต้องแบ่งออกมาเพื่อใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งเงินส่วนที่เหลือจะได้นำไปเก็บออมเอาไว้เพื่อความอุ่นใจ เป็นค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน

ทำเงินออมให้งอกเงย : สเต็ปนี้ถือเป็นคำแนะนำเพิ่มเติม แม้เราทุกคนอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียง ร่ำรวยมหาศาลขนาด Ed Sheeran แต่แนวทางการจำกัดค่าใช้จ่ายของเขาถือเป็นตัวอย่างที่ดี ที่จะทำให้เราเพิ่มจำนวนเงินออมได้อย่างสม่ำเสมอในทุกเดือน อีกทั้งยังสามารถต่อยอดสร้างเงินออมให้งอกเงย เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิตได้ในระยะยาว ซึ่งวิธีการทำให้เงินออมงอกเงยนั้นมีอยู่หลากหลาย ทั้งการฝากธนาคารกินดอกเบี้ยที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่องผลตอบแทนที่ไล่ตามอัตราเงินเฟ้อไม่ทัน

ในปัจจุบันหลายคนจึงมองหาลู่ทางที่จะนำเงินออมไปลงทุน เพราะเงินออมเหล่านี้คือกุญแจสำคัญ ที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นทุนในการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ถ้ามีทุนมากพอและเลือกลงทุนได้ถูกช่องทาง ถูกจังหวะ ก็จะสามารถปล่อยให้เงินทำงาน สร้าง Passive Income ให้เรารอรับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ตอบโจทย์เป้าหมายปลายทางที่แทบทุกคนคต้องการคือ ชีวิตที่มีอิสระทางการเงิน

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และมีลักษณะเฉพาะตัวที่ควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน เพราะการลงทุนเพื่อสร้างรายได้แบบ Passive Income นั้นมีหลากหลาย ทั้งการลงทุนผ่านอสังหาริมทรัพย์, ลงทุนในสินทรัพย์ เช่น หุ้น หรือ กองทุนต่าง ๆ นอกจากนี้สำหรับมือใหม่ รวมถึงผู้ที่รับความเสี่ยงในการลงทุนได้น้อย ก็ยังมีทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจอย่าง กองทุนรวม ซึ่งในขั้นเริ่มต้นเราอยากให้ลองไปหาความรู้ด้านการลงทุนสร้างเงินออมให้งอกเงย กับ Krungsri Guru เว็บไซต์แนะนำการลงทุน ที่มีข้อมูลการลงทุนตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงการลงทุนขั้นสูง เต็มไปด้วยเทคนิคการลงทุน และการบริหารการเงิน รวมถึงข้อมูลการลงทุนประเภทต่าง ๆ เพื่อเริ่มต้นหาความรู้ ค้นหาแนวทางการลงทุนที่ถูกจริต ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าเงินออมให้มีผลตอบแทนมากกว่าแค่เก็บเงินไว้กับตัว หรือทิ้งเอาไว้นิ่ง ๆ ในบัญชีเงินฝากธนาคาร

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line