GADGETs

POLAROID LAB อุปกรณ์เปลี่ยนรูปในกล้องมือถือให้กลายเป็น POLAROID วินเทจจริง ๆ ในพริบตา

By: anonymK September 13, 2019

คุณชอบฟิล์ม ดิจิทัล หรือโพลารอยด์?

เราว่ายุคนี้มันไม่ต้องไปถามหรือนิยามความคราฟต์แล้วเพราะทุกวันนี้โลกมีอุปกรณ์หลายอย่างให้คุณเทิร์นจากฟากความเร็วมาคราฟต์ หรือจากคราฟต์มาเร็ว ทั้งแอปพลิเคชันแต่งรูปเหมือนฟิล์ม หรืออุปกรณ์ไฮเทคมาช่วยสนับสนุนความคราฟต์อย่างเป็นทางการหลายอย่าง

Polaroid Lab คือตัวอุปกรณ์ตัวล่าสุดจากบริษัท Polaroid Originals สนนราคาประมาณ $129.99 หรือราว 3,955 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง ที่ช่วยเปลี่ยนรูปมือถือจากเหตุการณ์สุดประทับใจของเราให้กลายเป็นภาพโพลารอยด์ในพริบตา

วิธีการใช้งานไม่ยาก แค่หยิบมือถือเปิดรูปที่ต้องการจากจอ นำมาคว่ำหน้ารูปนั้นลงในช่องด้านบนแล้วกดปุ่ม แป๊บเดียวเครื่องจะถ่ายภาพจากจอไปเป็นภาพ Instant ได้สีอย่างโพลารอยด์ในทันที

บางคนเห็น POLAROID LAB แล้วอาจจะรู้สึกคุ้น ๆ ว่าเคยเห็นอะไรที่คล้าย ๆ แบบนี้มาก่อนเมื่อปีที่แล้ว เราจะบอกว่าใช่ มันเคยมีตัวที่หน้าตาคล้าย ๆ กัน วิธีการใช้งานก็คล้าย ๆ แต่เป็นโปรดักส์ที่ชื่อว่า Kiipix ของบริษัท Tomy ประเทศญี่ปุ่น ความแตกต่างอยู่ที่ฟีลลิ่งการใช้งาน ที่ Kiipix ยุ่งยากกว่าหน่อย ๆ ให้ฟีลความคราฟต์กว่านิด ๆ เพราะหลังถ่ายภาพจากจอเสร็จแล้ว คนใช้ต้องหมุนมือจากที่จับด้านข้างเครื่องเพื่อดึงฟิล์มออกมา

kiipix instant photo printer transforms your iphone into a polaroid

Kiipix หน้าตาเหมือนเป็นพี่น้องกับ Polaroid Lab เลย

สำหรับใครที่คิดว่า ถ้าจะซื้อแบบนี้เราไปซื้อกล้องโพลารอยด์มาใช้เลยไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่ปลอมหรือใช้งานหลายทอด อันนี้เรามองว่ามันมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันตามเหตุผลเหล่านี้

ข้อดี

  • ถ้าคุณจับกล้อง Instant โอกาสที่คุณจะควักจะเล็งถ่ายแต่ละทีอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า
  • โพลารอยด์ถ้าถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือแสงมาก มือใหม่อาจจะยังเล็งได้ไม่ดี ภาพที่ออกมาจากการกดแต่ละทีมีโอกาสเสียเยอะกว่าเพราะอาจจะ under หรือ over ได้ตลอดเวลา
  • ราคาฟิล์มถ้าเสียไปอาจจะไม่คุ้ม ความเร็วของการถ่ายอาจจะไม่ได้จังหวะที่ดีและเร็วเท่าที่มือถือทำได้
  • สามารถใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AR การดูรูปจึงทำให้เราดูคลิปเหตุการณ์นั้นได้ด้วย เป็นการบันทึกความทรงจำวินเทจไว้ได้จริง

ข้อเสีย

  • แอปพลิเคชันที่ใช้ร่วมกับ Polaroid Lab รองรับ iPhone 6S และใหม่กว่านั้น โดยซอฟต์แวร์ที่ใช้ต้องเหนือกว่า iOS 11 ขึ้นไป ส่วนระบบ Android รองรับ Android 7 หรือรุ่นที่ใหม่กว่านั้น ส่วนโมเดลที่ใช้ได้มีทั้ง Samsung, Huawei, Google Pixel และ One plus
  • ราคาสูง

 

นอกจากนี้ ถ้าใครมาถามเราว่าถ่ายรูปแล้วจะมานั่งพิมพ์ออกมาอีกทีทำให้มันเปลืองเงิน อันนี้ก็คงต้องย้อนกลับไปว่าปกติรูปพวกน้ีในสมาร์ตโฟนเรา ถึงจะเปิดดูได้ตลอดเพราะมือถืออยู่ในมือ แต่เราเปิดมันบ่อยแค่ไหน? บางครั้งถ้าไม่มีเหตุเราก็แทบไม่ได้รื้อไปดูเลย ดังนั้นการมีภาพเป็นชิ้นเป็นอันในมือ ให้มองได้เสมออาจจะเป็นอีกทางที่น่าสนใจ หรือสามารถส่งต่อความโรแมนติกกับแฟนได้

ใครที่สนใจเจ้าเครื่องนี้ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจ ตอนนี้ยังพอมีเวลาให้ทบทวน เนื่องจากจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า (ตุลาคม) แต่ถ้าใครอยากได้จริง ๆ คิดมาแล้ว ลองไปลงอีเมลเพื่อติดตามและรับส่วนลด 10% ได้ที่นี่เลย

 

Source: 1/ 2

 

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line