Life

การเมืองยิ่งดุ คนยิ่งเดือด! คุยเรื่องการเมืองแบบไหนช่วยลดความบาดหมาง ไม่ให้เสียเพื่อน

By: PSYCAT February 15, 2019

เราล้วนแต่เติบโตมาพร้อม ๆ กับคำกำชับสั่งสอนของผู้ใหญ่ว่า “ห้ามคุยกันเรื่องการเมืองและศาสนา ถ้าไม่อยากมีความบาดหมาง ขัดแย้ง” แต่ในทางกลับกัน UNLOCKMEN คิดว่าการซุกปัญหาไว้ใต้พรมเหมือนปัญหาและความขัดแย้งไม่เคยมีอยู่ต่างหากที่จะยิ่งทวีพลังความอัดอั้นในตัวเราแล้วระเบิดออกสู่สังคมอย่างรุนแรง

เมื่อความรุนแรงของการเมืองปะทุขึ้นเรื่อย ๆ เราเลยอยากชวนผู้ชายทุกคนปลดล็อกตัวเองไปอีกขั้น ด้วยการพูดคุยเพื่อแสดงความคิดเห็นของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็รับฟังทัศนคติทางการเมืองของผู้อื่น เพื่อเรียนรู้แลกเปลี่ยนและนำข้อมูลที่มีเพิ่มขึ้นใช้ตัดสินใจลงคะแนนเสียงเพื่อชี้ชะตาประเทศได้อย่างมีวิจารณญาณที่สุด

โดยเฉพาะในจังหวะที่บรรยากาศทางการเมืองและการหาเสียงกำลังดุเดือดเลือดพล่านแบบนี้ บางขณะที่เราก็ยังไม่พร้อมพูดคุยเรื่องนี้กับใคร แต่ก็อาจมีบางคนพยายามชวนเราคุยเรื่องนี้อยู่ดี นี่จึงเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความฉลาดทางอารมณ์ไว้ล่วงหน้า ไม่ให้เราระเบิดอารมณ์ใส่ใครเพียงเพราะคุยกันเรื่องการเมือง

ไม่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น

เราจะเชียร์ใคร สนับสนุนใคร หรือฟากการเมืองใดก็ได้ เช่นเดียวกันกับที่คนอื่นก็มีสิทธิ์สนับสนุนความคิดเห็นทางการเมืองของฝั่งที่เขาเลือก ดังนั้นขั้นตอนแรกที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจคือทุกคนคือมนุษย์ที่มีสิทธิและมีเสียงเท่า ๆ กันกับเรา หลีกเลี่ยงการยัดเยียดว่าใครเป็นควาย เป็นเหี้ย เป็นหมา ฯลฯ เพียงเพราะเขาไม่สนับสนุนฝั่งเดียวกับเรา หรือสนับสนุนฝั่งที่เราไม่ชอบ

การลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น และการเพิ่มความเกลียดชังทางคำพูด ไม่ทำให้บทสนทนาราบรื่นแน่นอนไม่ว่าจะเรื่องทางการเมืองหรือเรื่องไหน ๆ

บทสนทนาคือการพูดและฟัง ไม่ใช่แค่การหักล้าง

การสนทนาเรื่องการเมืองกับใครก็ตาม อาจไม่ได้หมายถึงแค่การเอาชนะ กดดันหรือโน้มน้าวใจอีกฝั่งให้เชื่อเหมือนเรา คิดเหมือนเรา หรือเชื่อเหมือนเราเท่านั้น

การสนทนาเรื่องการเมืองอาจหมายถึงการแลกเปลี่ยนโดยเราได้พูดเพื่อแสดงความคิดเห็นของเรา ในขณะเดียวกันเราก็รับฟังความคิดเห็นของคนที่คิดต่างจากเรา เราอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดออกมา แต่เราควรรับฟังเพื่อรู้ว่าเขาคิดอะไร โดยใช้เหตุและผลคุยกันมากกว่าอารมณ์และความเกลียดชัง

ถ้าเจอคนเกรียนใส่ จงเลี่ยงออกมา

บทสนทนาเรื่องการเมืองจะไปข้างหน้าได้ก็ต่อเมื่องทั้งเราและคนในวงสนทนาต้องการแลกเปลี่ยน เข้าใจและรับฟังซึ่งกันและกัน

เมื่อใดก็ตามที่ในวงสนทนานั้นมีคนเกรียนใส่ไม่ยั้ง ไม่ได้ต้องการจะคุยกันด้วยเหตุผล แต่ต้องการยั่วโมโหให้ฝั่งตรงข้ามโกรธจนระเบิดอารมณ์และคำด่าออกมา เพื่อใช้เป็นข้ออ้างโจมตีความคิดเห็นทางการเมืองที่คนคนนั้นเชื่อ ก็เลี่ยงออกมาให้ไกล เพราะนี่ไม่ใช่การคุยกันเรื่องการเมือง แต่เป็นการสาดคำพูดแย่ ๆ ต่อกันและจงใจกวนอารมณ์ ต่อให้เราใจเย็นแค่ไหนคนที่เกรียนใส่ก็ไม่พร้อมรับฟังอะไรจากเราอยู่ดี เราจึงไม่ควรเสียอารมณ์และสุขภาพจิตกับการสนทนาแบบนี้

ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แค่ต้องสุภาพและมีเหตุผล

เราอาจโตมาในสังคมที่สอนเราว่าความสงบสุขคือการไม่มีความขัดแย้ง แต่จริง ๆ แล้วความขัดแย้งคือเรื่องปกติของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมนุษย์มีความหลากหลาย มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบังคับให้ทุกคนคิดหรือเชื่อไปในทิศทางเดียวกันหมด

ความขัดแย้งจึงเป็นเรื่องปกติ การถกเถียงแลกเปลี่ยนกันก็เป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ปราศจากความรุนแรงทั้งทางร่างกายและคำพูด ดังนั้นถ้าในวงสนทนาจะมีความขัดแย้ง มีประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงก็ขออย่าตื่นตระหนก แต่ให้ดำเนินบทสนทนาต่อไปด้วยเหตุผลและความสุภาพ

ตรวจสอบความเชื่อของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการกระจายข่าวปลอม

การคุยเรื่องการเมืองหลายครั้งที่เราคุยกับคนที่คิดไม่เหมือนเรา แต่หลายครั้ง (หรืออาจจะบ่อย ๆ ) ที่เรามีโอกาสได้คุยแค่กับคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองเหมือนกันกับเรา การคุยกับคนที่คิดต่างก็มีข้อกังวลแบบหนึ่ง

ในขณะที่การคุยแต่กับคนที่คิดเหมือนกันก็มีแนวโน้มจะทำให้เราแชร์ข้อมูลต่อกัน หรือแชร์ความเชื่อคล้าย ๆ กันจนเราไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูล ที่สำคัญคือจะทำให้เราจมอยู่กับความคิดแบบเดียวจนเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราเชื่อคือความจริงสูงสุด

ดังนั้นในวงสนทนาที่คุยเรื่องการเมืองและมีแต่คนที่คิดเหมือนกันเต็มไปหมด จงอย่าเชื่ออะไรที่เขาแชร์มาหรือส่งต่อทันทีเพียงเพราะว่าเขามีความเห็นทางการเมืองตรงกับเรา หรืออย่ายอมให้เขาลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนอื่น สร้างการยั่วยุ เกลียดชังใส่ เพียงเพราะว่าเราอยู่ฝั่งเขา และคนที่ถูกกระทำอยู่คนละฝั่ง จงหมั่นตรวจสอบสิ่งที่ตัวเองเชื่ออยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ในวงสนทนาแบบไหน

 

การเมืองไม่ใช่แค่เรื่องของนักการเมือง แต่เป็นเรื่องของทุกคน นโยบายของรัฐฯ ไม่ว่าออกมาในรูปแบบไหนก็ส่งผลกับชีวิตประจำวันของผู้ชายทุกคน ดังนั้นอย่าเห็นเป็นเรื่องสกปรกแล้วปล่อยผ่านเลยไป ถ้าเราไม่อยากให้การเมืองเป็นเรื่องสกปรก ก็ต้องปลดล็อกตัวเองเพื่อร่วมตรวจสอบ พูดคุย แลกเปลี่ยน และเรียนรู้ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกันให้ได้

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line