ทิ้งช่วงมา 7 ปี กลับมาคราวนี้คงเป็นการแหกคุกครั้งสุดท้ายของ Prison Break

หลังจากวันนี้ก็จะเป็นตอนสุดท้ายสำหรับซีรีย์ขวัญใจมหาชนอย่าง Prison Break ที่พวกเขาได้นำกลับมาทำใหม่หลังจากทิ้งช่วงไปนานกว่า 7 ปี เพื่อเอาใจแฟน ๆ ให้ได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่ากระแสของพี่น้องแหกคุกในรอบนี้ย่ำแย่ค่อนข้างหนักเอาการ เพราะถ้าเกิดให้เทียบเรตติ้งกับภาคแรกที่สร้างมาตราฐานผู้ชมเอาไว้สูงถึง 12 ล้านคนต่อหนึ่งตอนโดยเฉลี่ย แต่ในครั้งนี้มีจำนวนผู้ชม Prison Break ซีซั่น 5 อยู่เพียง 3 ล้านคนต่อตอน แถมยังลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือเพียง 1 ล้านคนเท่านั้น ทำให้ไม่แปลกใจว่าล่าสุดค่าย FOX ผู้ถือสิทธิ์ผลิตรายการออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่สร้างภาคต่อสำหรับ Prison Break

ก่อนอื่นเลยสำหรับแฟนขาจรที่อาจจะเคยได้ยินชื่อเสียง แต่ไม่เคยได้ผ่านตาสำหรับซีรีย์เรื่องนี้เราจะขอท้าวความสักเล็กน้อย Prison Break หรือชื่อไทยว่า แผนลับแหกคุกนรก ออกฉายครั้งแรกในปี 2004 ในชื่อตอนแรกว่า ” The Pilot”

เรื่องราวโดยย่อคือ ลินคอร์น เบอร์โรวส์ ถูกตัดสินประหารชีวิตจากคดีฆาตรกรรมน้องชายรองประธานาธิบดี ซึ่งถูกส่งตัวไปคุมขังระหว่างรอรับโทษประหารชีวิตที่เรือนจำฟ๊อกซ์ริเวอร์สเตท

ส่วนน้องชายของลินคอล์นผู้เฉลียวฉลาดเป็นวิศวกรโครงสร้างชื่อ ไมเคิล สโคฟิลด์ ได้พยายามจะวางแผนช่วยพี่ชายของเขาหนีออกจากคุก เพราะเขาสืบค้นว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และจัดฉากให้พี่ชายของเขาเป็นแพะรับบาป เขาจึงทำการปล้นธนาคารเพื่อให้ถูกจำคุกที่เรือนจำฟอกซ์ริเวอร์ที่เดียวกับพี่ชาย ซึ่งเป็นแผนที่สร้างให้เขามีโอกาสเข้าไปช่วยลินคอร์น เบอร์โรวส์แหกคุก

จากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจเช่นนี้ทำให้ Prison Break ซีซั่น 1 ถือเป็นปรากฎการณ์ได้รับเสียงวิจารณ์ และการตอบรับที่ดีมาก ๆ มีผู้ชมกว่า 12 ล้านคนต่อหนึ่งตอน ทำให้แต่เดิมที่ Prison Break มีแผนจะสร้าง 13 ตอนขยับขยายไปอีก 9 ตอน เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างสูง ก่อนที่ซีรีย์เรื่องนี้จะถูกสร้างต่อมาเรื่อย ๆ

จนกระทั่งถึงฤดูกาล 4 รวมทั้งสิ้น 79 ตอน ด้วยความที่ Prison Break กลายเป็นซีรีย์ระดับมหาชนที่ไม่ได้รับความนิยมเฉพาะภายในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตจึงสร้าง Prison Break อีกหนึ่งตอนพิเศษชื่อว่า The Final Break ที่มีความยาวกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อเติมช่องว่างสำหรับเนื้อเรื่องในช่วงระหว่างซีซั่นสุดท้าย

ถ้ามองเพียงแค่นี้แล้ว เราเชื่อว่าทุกคนก็คงจะคิดเหมือนกันว่าเนื้อเรื่องได้ดำเนินมาจนจบอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทำไปทำมา หลังจากทิ้งช่วงไปกว่า 7 ปี ด้วยเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ ทำให้นักแสดงนำอย่าง โดมินิก เพอร์เซลล์  (ลินคอร์น เบอร์โรวส์) และ  เวนท์เวิร์ท มิลเลอร์ (ไมเคิล สโคฟิลด์) รวมถึงผู้กำกับอย่าง พอล เชอริง นำโปรเจคต์ Prison Break ไปเสนอกับช่อง FOX เพื่อนำกลับมาทำอีกครั้ง ซึ่งทาง FOX เองก็ไฟเขียวกับโปรเจคต์ โดยอนุมัติการสร้างในรูปแบบมินิซีรีย์ 9 ตอน

*เนื้อหาหลังจากนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์

เริ่มต้นด้วยข่าวลือมากมายถึงการกลับมาสร้างภาคต่อนี้ว่าจะเป็นเรื่องราวภาคแยกของตัวละครอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสองพี่น้องคู่นี้ เพราะเนื่องจากตอนแรกหลายฝ่ายต่างสงสัยว่าจะสามารถนำตัวละครหลักที่ตายไปจากเนื้อเรื่องแล้วกลับมาใหม่ได้หรือไม่

แต่จนแล้วจนรอดทางผู้สร้าง และค่ายผลิตคงไม่กล้าเสี่ยงที่จะสร้างเส้นเรื่องใหม่ จึงได้ทำการกลืนน้ำลายตัวเองหยิบเอาเรื่องของ ไมเคิล สโคฟิลด์ และ ลินคอร์น เบอร์โรวส์ มาเล่าเพิ่มเติมต่อจากภาคเดิม ซึ่งได้ย้ายโลเคชั่นไปที่ประเทศตะวันออกกลาง ดังนั้นทีมงานจึงขอรวมประเด็นที่น่าสนใจของซีรีย์ Prison Break ซีซั่น 5 ที่เป็นตัวช่วยตัดสินใจว่าควรจะติดตามต่อหรือไม่มาฝากกัน

ไมเคิล จะฟื้นคืนชีพอย่างไร

เราเชื่อข้อนี้น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ทุกคนตัดสินใจที่จะดู Prison Break เนื่องจากอย่างที่ทราบกันแล้วว่าฉากจบของซีซั่น 4 ไมเคิลได้เสียชีวิตจากการเข้าไปช่วย ซาร่า แทนเครดี้ แต่ทั้งภาพตัวอย่าง และการโปรโมตระบุเห็นชัดว่า ไมเคิล สโคฟิลด์จะกลับมีบทบาทสำคัญอย่างมากในครั้งนี้ ทำให้เราต้องมาลุ้นกันว่า ไมเคิลจะฟื้นคืนในรูปแบบไหน หรือจะหลุดโลกแบบหนัง Sci-fi ไปเลยก็เป็นได้

ทีแบคยังอยู่

เรียกได้ว่าเป็นคู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อกับไมเคิล สโคฟิลด์ที่อยู่คู่กับซีรีย์เรื่องนี้มาตั้งแต่ซีซั่น 1 ชนิดที่ว่ากัดกันอย่างถึงพริกถึงขิง และจะว่าไปก็แทบจะเป็นบทบาทแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวให้กับนักแสดงโรเบิร์ต เน็ปเปอร์ ซึ่งจากการคอนเฟิร์มว่าเขาจะกลับมารับบทนำในภาคนี้อีกครั้ง ทำให้เป็นจุดน่าสนใจว่าการกลับมาของทีแบค จะยังคงพิษสงอยู่หรือเปล่า

วายร้ายตัวใหม่

แน่นอนว่าซีซั่นนี้ต้องมีตัวร้ายตัวใหม่เข้ามาเพิ่มสีสันของเรื่องอย่างแน่นอน เพราะว่าในซีซั่น 4 ไมเคิล สโคฟิลด์ได้ปราบองค์กรระดับชาติอย่างคอมปานีแบบถอนรากถอนโคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้วายร้ายตัวใหม่จะต้องไม่น้อยหน้ากว่าคอมปานีอย่างแน่นอน หากต้องการจะต่อกรกับพี่น้องคู่นี้

โลเคชั่นใหม่ และเพื่อนใหม่

ไม่ใช่ว่าเป็นมินิซีรีย์แล้วจะได้เงินทุนในการผลิตน้อย เพราะจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ยืนยันว่าถึงแม้จะมีเพียง 9 ตอน แต่ทีมสร้างก็ยกกองถ่ายไปถ่ายทำถึงประเทศโมร็อคโก รวมถึงแคนาดา เพื่อให้ได้ฉากตามที่ต้องการ ทำให้เมื่อมีการย้ายโลเคชั่นขนาดนี้บวกกับนักแสดงชุดเก่าที่กลับมาไม่ครบครัน ไมเคิล สโคฟิลด์ จะต้องพบกับเพื่อนใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในเรื่อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะดีหรือร้ายขนาดแค่ไหน

สรุป : ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้

หลายอาจจะตกใจว่าทำไมเราถึงบอกว่าดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เหตุผลก็เพราะเนื้อเรื่องสำหรับ Prison Break ก่อนหน้านี้มันจบสมบูรณ์ในตัวของมันเองดีอยู่แล้ว แม้ว่าตอนจบอาจจะไม่ได้ถูกใจใครหลาย ๆ คนเสียเท่าไหร่

สำหรับคนที่พอใจกับตอนจบแบบเดิมอยู่แล้วก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องมาดูต่อเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกที่เคยมีกับตัวละครนั้น ๆ ไป อีกทั้งมินิซีรีย์ชุดนี้ตัวละครจากภาคเก่า ๆ ก็ไม่ได้กลับมาพร้อมหน้ากันทุกคน

ดังนั้น Prison Break ซีซั่น 5 จึงเหมือนการเลี้ยงรุ่นที่เพื่อนมางานกันไม่ครบ ทำให้จากมุมมองของตัวเราเหมือนทำออกมายังไม่สุด ส่วนคนที่ไม่ซีเรียสอะไรมากมาย และเป็นแฟนของ ไมเคิล และ ลินคอร์น ก็แกล้งทำเป็นลืมตอนจบเมื่อ 7 ปีที่แล้วไปเราก็จะได้ซีรีย์อีกเรื่องไว้นอนดูในวันว่าง ๆ เช่นนี้