Entertainment

สวมบทชาวแก๊งแบบคาวบอยให้ดุเดือดเลือดพล่านใน RED DEAD REDEMPTION 2

By: TOIISAN November 16, 2018

Rockstar Games คือผู้ผลิตเกมชาวแก๊งขาโหดชื่อดังที่รู้จักกันดีอย่าง GTA และเคยออกเกมแนวคาวบอยอย่าง Red Dead Redemption มากวาดรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลเกมแห่งปี, ออกแบบเกมยอดเยี่ยม, เสียงเกมยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีเกมยอดเยี่ยม จากงาน Game Developers Choice Awards 2011 และรางวัลเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลของเครื่อง PlayStation 3 จากนิตยสาร PlayStation 3 magazine UK ด้วยรางวัลการันตีรวมถึงยอดขายกว่า 15 ล้านชุด จึงทำให้ Red Dead Redemption กลายเป็นเกมคาวบอยที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

หลังจากภาคแรกในปี 2010 กับการรอคอยที่ยาวนานถึง 8 ปี Red Dead Redemption เกมคาวบอยที่ดีที่สุดได้กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในภาคต่ออย่าง Red Dead Redemption 2 หรือแปลแบบตรงตัวคือ แดง ตาย ไถ่ถอน 2 ที่แปลกและไม่ค่อยเท่เท่าไหร่ เหล่าเกมเมอร์จึงนิยมเรียกว่า แดงโหด ณ ทุ่งสังหาร มากกว่า

ในภาคนี้จะนำเสนอสังคมอเมริกาก่อนปี 1899 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนภาคแรก 21 ปี ช่วงปลายของสังคมเวสเทิร์นคาวบอยก่อนเข้าสู่ช่วงยุคอุตสาหกรรม อเมริกาเริ่มมีการจัดระเบียบสังคมใหม่ ทำให้ยุคสังคมไร้กฎหมายของเหล่าสิงห์ปืนไวที่ตัดสินกันด้วยปืนต้องจบลง แก๊งคาวบอยต่าง ๆ ถูกรัฐไล่กวาดล้าง แต่ก็ยังมีบางแก๊งที่ลอยนวลอยู่

ในภาคนี้ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Arthur Morgan คาวบอยหนุ่มหนึ่งในหัวหน้าแก๊ง Dutch Van Der Linde กลุ่มโจรชื่อดังของยุค ซึ่ง John Marston พระเอกในภาคแรกก็อยู่ในแก๊งนี้เช่นกัน เนื้อเรื่องจะเล่าถึงกลุ่มโจร Dutch ที่พึ่งทำภารกิจใหญ่จาก Black Water แต่ดันผิดแผนนำเงินกลับมาด้วยไม่ได้ ซ้ำยังต้องหนีการไล่ล่ามาซ่อนตัวอยู่ในเมืองเล็ก ๆ อย่าง Valentine ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นวิถีคาวบอยที่แท้จริงของ Arthur ตัวละครหลัก เพื่อทำให้แก๊งของตัวเองมีความยิ่งใหญ่

ถึงแม้จะไม่เคยเล่น Red Dead Redemption ภาคแรกก็สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องในภาคสองได้อย่างง่ายดาย ด้วยเวลากว่า 100 ชั่วโมง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสังคมในยุคคาวบอยได้อย่างยอดเยี่ยมสมจริง ทำให้เข้าถึงประเด็นต่าง ๆ ในสังคมยุคนั้นได้อย่างชัดเจน เช่น เรื่องการเหยียดสีผิว กลุ่มชนพื้นเมืองที่ถูกเอาเปรียบ และการดวลปืนเดือดของเหล่าคาวบอย ที่ถูกหยิบมาเล่นได้อย่างเจ็บแสบ

Red Dead Redemption 2 เป็นเกมแนว Open World ที่สามารถเลือกเส้นทางให้แก่ตัวละครได้อย่างอิสระ เติมเต็มโลกของ Red Dead ได้อย่างมีชีวิตชีวา ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีภาพความละเอียดสูงแบบ High Dynamic Range (HDR) ที่กล้าพูดได้เลยว่าภาพโครตสวย ทั้งระบบแสงและเงา ปรากฏการธรรมชาติที่สมจริง รวมถึงการเปลี่ยนมุมกล้องได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกมุมมอง First Person (FPS) เหมือนอย่างเกม GTA V Remastered หรือมุมมองมาตรฐานแบบ Third Person (TPS) และนอกจากนี้ยังได้เพิ่มระบบมุมมองแบบ Eagle Eye สำหรับแกะรอยที่ไม่มีในภาคแรกอีกด้วย

ผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางให้กับตัวละครว่าจะเป็นสุภาพบุรุษจอมโจรคอยช่วยเหลือสังคม หรือเป็นหัวหน้าโจรสุดโหดไล่ปล้นทุกย่าน ยิงทุกอย่างที่ขวางหน้าก็ได้ ซึ่งฉากจบก็จะแตกต่างกันไปตามเส้นทางที่เราได้เลือก นอกจากเนื้อเรื่องหลักของเกมแล้ว อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ เรื่องเครื่องแต่งกายแบบคาวบอยที่โครตเท่ และกิจกรรมยิบย่อยที่ให้เลือกเล่นได้หลากหลายทั้ง เล่นไพ่ ทอยลูกเต๋า ตั้งแคมป์กลางป่า ล่าสัตว์ ฯลฯ จึงไม่ใช่เพียงแค่ควบม้าไปเรื่อย ๆ และไล่ยิงกับแก๊งคู่อริเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้เล่นเข้าถึงไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของคาวบอยได้อย่างลึกซึ้ง ก้าวข้ามขีดจำกัดของเกม Open World ในแบบเดิม เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคคาวบอยจริง ๆ

นอกจากนี้บริษัทผู้สร้างอย่าง Rockstar Games ก็ได้คอนเฟิร์มว่าโหมดออนไลน์ของเกม Red Dead Redemption 2 จะเปิดให้ทดลองเซิร์ฟแบบ Beta ในเดือนพฤศจิกายนนี้ แถมยังมีการเล่นโหมดเนื้อเรื่องแบบ PvP และแบบ PvE อีกด้วย

ความสนุกสมจริงรวมถึงจังหวะของเกมที่ไม่เร็วไปและไม่ยืดยาดจนน่าเบื่อ ทำให้ Red Dead Redemption 2 สามารถขึ้นแท่นหนึ่งในสุดยอดเกมแบบ Open World ได้อย่างง่ายดาย และคะแนนรีวิวจากสำนักต่าง ๆ อย่าง Championship Gaming Series, IGN Entertainment, Electronic Gaming Monthly, Game Informer และ Easy Allies ต่างก็เทใจให้คะแนนเต็มสิบกันอย่างท่วมท้น ทำให้เหล่าเกมเมอร์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line