RICHARD MILLE RM 50-04 นาฬิกาอินดี้แรงบันดาลใจจาก FORMULA 1 ที่มีแค่ 30 เรือนในโลก

ใคร ๆ ก็รู้ว่านาฬิกาทุกเรือนมีไว้เพื่อบอกเวลา แต่สิ่งที่ทำให้นาฬิกาทุกเรือนแตกต่างกันคือคอนเซ็ปต์ เช่นเดียวกับแบรนด์นาฬิกาแบรนด์หนึ่งนามว่า Richard Mille มีจุดขายคือความแพง แต่เมื่อก่อนยังถือเป็นแบรนด์ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักและไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ Rolex หรือ Patek Philippe ทว่าด้วยเหตุผลบางประการทำให้ในตอนนี้คนไทยส่วนมากจดจำชื่อรวมถึงรูปร่างหน้าตาของ Richard Mille ได้แล้ว 

ด้วยเหตุผลที่ว่า Richard Mille เริ่มเป็นที่จดจำ UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกคนไปพบกับนาฬิกาเรือนล่าสุดของแบรนด์ว่าอะไรคือความพิเศษที่ทำให้นาฬิกาสุดอินดี้แบรนด์นี้กลายเป็นของหายากมีราคาเหยียบล้าน

Richard Mille เป็นนาฬิกาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ได้แรงบันดาลใจจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1999 ซึ่งแต่ละรุ่นก็โดดเด่นต่างกันไป บางรุ่นชูเรื่องความแข็งแรงมาพร้อมกับน้ำหนักแสนเบา อย่าง RM 50-03 Mclaren F1 มีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก 6 เท่าแต่แข็งแกร่งมากกว่าถึง 200 เท่า ด้วยส่วนประกอบของไทเทเนียมและอื่น ๆ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีราคาสูงถึง 1 ล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยราว 33 ล้านบาท 

RM27-02 Rafael Nadal Edition ชูเรื่องน้ำหนักสุดเบา ด้วยนาฬิกาทั้งเรือนมีน้ำหนักเท่ากับเหรียญ 1 ดอลลาร์ แต่ราคาไม่เบาเพราะแพงถึง 800,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว

นาฬิกาแต่ละรุ่นของ Richard Mille จะมีจุดเด่นกับคอนเซ็ปต์แตกต่างกันไป สำหรับนาฬิกา RM 50-04 ที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตอีกเช่นเคยกับการทำโปรเจกต์ร่วมกันของ Richard Mille กับ Kimi Raikkonen นักแข่งรถ F1 ชาวฟินแลนด์ ผู้เคยอยู่บนจุดสูงสุดของวงการด้วยการคว้าแชมป์โลกมาแล้ว

RM 50-04 คือนาฬิกาโมเดลใหม่เปิดตัวในงาน Singapore Formula 1 Grand Prix 2019 แข็งแกร่งด้วยโครงสร้างเรือนเป็นสีดำทำจาก Carbon TPT และไทเทเนียมทำให้ Richard Mille ขึ้นชื่อเรื่องน้ำหนักเบาแถมยังแข็งแรงทนทาน ขอบนาฬิกาสีขาวโดดเด่นทำจากวัสดุที่มีชื่อว่า Quartz TPT มาพร้อมกับระบบกลไกไขลาน In-house cal.RM50-03 ความถี่ 3Hz หรือ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ร่วมกับกลไกการทำงานแบบ Tourbillon ซึ่งเป็นกลไกระดับสูง ต้องใช้ต้นทุนการผลิตแสนแพงและได้รับการยอมรับจากเหล่านักทำนาฬิกาทั่วโลก

นอกจากกลไก Tourbillon แล้ว Richard Mille RM 50-04 ยังมีระบบการจับเวลาแบบ Split-Seconds Chronograph หรือบางคนเรียกว่า Doppel Chronograph สามารถแยกจับเวลามากกว่าสองรายการในครั้งเดียว โดยจะแยกเข็มวินาทีเป็นสองเข็ม สามารถแยกความแตกต่างด้วยสีเหลืองและสีแดงที่แต้มอยู่ปลายเข็ม เป็นกลไกที่ต้องผ่านกระบวนการสร้างซับซ้อน สามารถจับเวลาต่อเนื่องได้สูงสุด 30 นาที เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นาฬิกาที่มี Split-Seconds Chronograph ราคาสูงกว่านาฬิกาจับเวลารุ่นธรรมดา 

เม็ดมะยมของ Richard Mille RM 50-04 จะประกอบอยู่ตรงตำแหน่ง 4 นาฬิกา เช่นเดียวกับตำแหน่งเกียร์รถยนต์ พร้อมกับสลักชื่อของ Kimi Raikkonen กับหมายเลข 7 ซึ่งเป็นเลขประจำตัวเวลาลงสนามของเขาไว้ตรงบริเวณ 7 นาฬิกาของหน้าปัด นอกจากนี้ยังมีเข็มบอกพลังงานสำรอง กระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผ่านการทดสอบเรื่องแรงกระแทก สามารถกันน้ำลึก 50 เมตร สำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง

RM 50-04 มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 44.50 มิลลิเมตร หนา 16.10 มิลลิเมตร (ด้านหลังของตัวเรือนประกอบด้วยซิลิคอน 600 ชั้น) แต่กลับมีน้ำหนักเบา อีกหนึ่งความโดดเด่นของ RM 50-04 คงหนีไม่พ้นสายนาฬิกาสีแดงสดทำจากกราฟีนและยางชนิดพิเศษ ทำให้สายนาฬิกามีน้ำหนักเบา เข้ากับสีหน้าที่แต่งแต้มอยู่ภายในหน้าปัด Skeleton ได้เป็นอย่างดี 

ถึงจะต่างกัน แต่สิ่งที่นาฬิกาทุกรุ่นของ Richard Mille มีเหมือนกันคือจุดขายทำให้มูลค่าพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดย Richard Mille RM 50-04 มีน้ำหนักเพียง 7 กรัมเท่านั้น ด้วยจุดขายทั้งเรื่องคอนเซ็ปต์ดีไซน์ ระบบเวลาที่เสถียร กลไกแสนซับซ้อน และความแข็งแรงทนทาน รวมถึงจำนวนการผลิตแสนน้อยนิดเพียง 30 เรือนเท่านั้น ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้นาฬิกา RM 50-04 มีราคาอยู่ที่ 1,063,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 33 ล้านบาท

สำหรับหนุ่มกระเป๋าหนักคนไหนที่เป็นแฟนคลับของ Richard Mille สนใจอยากมีนาฬิกาเรือนพิเศษที่ได้นักแข่งรถระดับแชมป์โลกร่วมดีไซน์อย่าง Richard Mille RM 50-04 Tourbillon Split-Seconds Chronograph Kimi Raikkonen Limited Edition จาก Alfa Romeo Racing Team สามารถสั่งจองได้ที่ Richard Mille Boutique ทุกสาขาทั่วโลก 

SOURCE: 1 / 2