Work

เข้าแล้วออกเลย! แกะรอยเหตุผลของคนใจไว ทำไมถึงลาออกทันทีทั้งที่เพิ่งได้งาน

By: unlockmen October 1, 2018

พอเปิดประเด็นเรื่องการหางานทำ หลายคนคงโดนกรอกหูมาตั้งแต่เด็กว่า “ไม่เลือกงานไม่ยากจน” จนรู้สึกว่าอาชีพคือสิ่งที่ควรรีบไขว่คว้าไว้ทันทีที่โอกาสมาถึง ไม่งั้นเราก็จะกลายเป็นคนเลือกงานแถมพาลยากจนไปซะ เรียนจบแล้วต้องรีบมีงานทำ ออกจากงานแล้วต้องรีบหางานใหม่ เพราะมุมมองที่มีต่อคนว่างงานนั้นไม่ได้เป็นไปในแง่บวกสักเท่าไหร่นัก เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อบ้าง ขี้เกียจตัวเป็นขนบ้าง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ตัดสินใจวิ่งหางานทำให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากใช้ “อาชีพว่างงาน” กันนานนัก มันอาจทำให้เราลืมไปว่า “คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก” เช่นกัน UNLOCKMEN จะพามาแกะรอยเหตุผลของคนที่รู้สึก “คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก” จนเลือกจะออกจากงานทั้งที่เพิ่งสัญญาไปแบบหมึกยังไม่ทันแห้ง ว่าพวกเขามีเหตุผลอะไรที่เลือกจะหยุดทั้งที่เพิ่งเริ่ม หรืออาจจะยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ

บรรยากาศที่ไม่ใช่

ก้าวขาเข้ามาก็เจอออฟฟิศจริงวันแรก สภาพแวดล้อมที่ไม่น่าหย่อนตูดลงเก้าอี้แล้ว ห้องน้ำเก่าซอมซ่อ บรรยากาศชวนหดหู่ อย่าง ออฟฟิศที่อยู่ชั้นใต้ดิน ลานจอดรถ หรือออฟฟิศที่แสงอาทิตย์เข้าไม่ถึง นอกจากบรรยากาศแล้ว เครื่องใช้ในสำนักงานที่ไม่ได้มีพร้อม ซัพพอร์ตการทำงานได้ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ควรมีติดออฟฟิศอยู่แล้ว ใครที่เคยทำงานในออฟฟิศแบบนั้นจะเข้าใจถึงความหดหู่ที่พูดถึง

แม้จะดูเหมือนคนเรื่องมาก เรื่องเยอะ แต่อย่าลืมว่า เราต้องอยู่ในออฟฟิศนี้ถึงสัปดาห์ละห้าวัน (และบางที่ทำงานหกวันก็มี) ซึ่งถือว่ากินเวลาชีวิตไปเยอะมาก ๆ ที่เราต้องใช้ชีวิตที่นี่ เพราะฉะนั้นบรรยากาศออฟฟิศก็มีผลกับการเลือกงานเช่นกัน หากถามว่าทำไมถึงไม่ตัดสินใจตั้งแต่ตอนมาสัมภาษณ์ เพราะตอนนั้นบางคนอาจไม่ได้เดินเข้าไปในส่วนที่เป็นแผนกของตัวเองจริง ๆ ใครที่ไหวตัวทันตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ก็ดีไป แต่ใครที่มาเห็นทีหลัง ก็ต้องหน้าชา ถ้าแค่มานั่งก็ไม่มีความสุขควรถีบตัวเองออกมาให้ไวที่สุดเหมือนกัน

เพื่อนร่วมงานที่ไม่เข้าขา

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหาสารพัดกับเพื่อนร่วมงานตัวแสบ ที่พร้อมสร้างสารพัดปัญหาให้เราในทุกวันที่ก้าวขาเข้าออฟฟิศ 

ไม่ใข่แค่สาว ๆ เท่านั้นที่เกิดจะไม่ถูกชะตาใครตั้งแต่แรกเจอ หนุ่มอย่างเราเองก็มีอาการนี้ออกจะบ่อย แค่ไม่ได้แสดงออกก็เท่านั้น หลายครั้งที่เจอผู้ชายด้วยกัน แต่มันไม่ถูกชะตา คุยกันไม่ถูกคอ หรือเป็นเราเองที่รู้สึกว่าเข้ากับกลุ่มเดิมไม่ได้ ถ้าเราแข็งมากพอที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง ก็อาจไม่รู้สึกอะไรกับข้อนี้ แต่อย่างที่รู้ว่าความรู้สึกคนเรามันไม่เท่ากัน บางคนอ่อนไหวกับเรื่องนี้ รู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นคนนอกทุกครั้งที่พูดคุยกับคนที่ไม่อาจเข้าขากันได้ อยู่ไปยิ่งมีแต่เคว้งคว้าง จะทำงานแต่ละทีเป็นต้องลำบากใจที่จะเข้าไปคุยด้วย 

อ้าวเห้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า

เคยคุยกันไว้ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สุดท้ายกลายเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่เหยื่ออย่างเราตกหลุมพรางเข้าเต็ม ๆ อาจจะหมายถึงขอบเขตการทำงาน ผลประโยชน์ สวัสดิการ การเลื่อนตำแหน่ง โบนัส หรืออะไรก็ตามเราควรได้ข้อมูลที่ตรงกับความจริง เพื่อการตัดสินใจของเรา ไม่ใช่คำโฆษณาสวยหรู แต่เข้ามาไม่ทันไรก็เห็นถึงเนื้อในที่ไม่ได้สวยอย่างที่คิดและอย่างที่ได้ยินซะแล้ว 

เคสแบบนี้แนะนำให้หนีให้ไว เพราะเหมือนโดนขายฝันอยู่ไม่น้อย ว่าเราจะได้นู่นนี่มากมาย สุดท้ายก็กลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟด้วยความเร็วสูง เพราะเห็นแก่ภาพลวงตาอีกต่างหาก

เหนื่อยกว่าที่ควรจะเป็น 

ข้อนี้อาจจะเกิดจากการประเมินที่ผิดพลาดของเราเอง ที่คิดไว้ว่างานเท่านี้ เงื่อนไขแบบนี้ เราน่าจะไหว แต่พอถึงเวลาจริง ๆ มันไม่ไหวขึ้นมา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราคิดจะลาออก เราคงไม่อาจทนความเหนื่อยที่รู้สึกว่ามัน “เกินไป” ได้ในทุกวันหรอก สำหรับการทำงานหนัก หรือเกินเวลา ถ้าเป็นบางช่วงที่งานเดือด อันนี้ยังพอเข้าใจได้ เพราะทุกที่ก็มีช่วงเดือดกันทั้งนั้น แต่ถ้าต้องมาเหนื่อยเป็นพิเศษกันตลอดเวลา นอกจากสภาพจิตใจจะแย่แล้ว สภาพร่างกายก็คงทรุดโทรมกันตามกันไปติด ๆ 

อย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป ฝืนเกินไป การออกจากงานเพราะมันเหนื่อยไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนัก อย่าไปกลัวคำพูดคนอื่นเสียจนอดทนกับอะไรที่ทำร้ายตัวเอง

งานเพิ่ม เงินเงียบ

อยู่ไปอยู่มา อยู่ดี ๆ หน้าที่ก็งอกมาเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ถ้าเจรจากันได้ว่าเพิ่มเงินตามหน้าที่ หรือทำหน้าที่เท่าที่ตกลงไว้ได้ ก็วินวินกันทั้งคู่ แต่ถ้าเจรจาไม่ลงตัว อีกฝ่ายตุกติก อ้างเอาสปิริตในการทำงาน “ถือว่าช่วย ๆ กันนะ” มาค้ำคอ จนเราต้องทำงานล้นมือไปหมด พอทำไม่ทันก็โดนตอกว่านี่คือหน้าที่เราแล้วอีกต่างหาก ถ้าเจอแบบนี้ก็ไม่แนะนำให้ทนเช่นกัน ถ้าเจรจาไม่ได้ ขยับขยายไปที่อื่นที่ใจกว้างกว่านี้ ดูจะสบายกายสบายใจมากกว่ากันเยอะ

อันนี้ไม่นับการปฏิเสธไม่เป็นนะ บางคนเอ่ยปากขัดคำขอของใครไม่ได้เลย ใครขอให้ช่วยอะไรเป็นต้องรับไว้หมด จนตัวเองเดือดร้อน งานตัวเองยังไม่เสร็จ งานคนอื่นก็เข้ามาแทรก อันนี้ต้องแก้ที่ตัวเองแล้วนะหนุ่ม ๆ

ทุกคนเหนื่อย ท้อ ในจุดที่ตัวเองยืนได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเอาบรรทัดฐานคนอื่นมาตัดสินตัวเราเอง จนเหมือนเรากลายเป็นคนไม่ได้เรื่องอะไรเลย ในเมื่อเจอสิ่งที่มันทำให้ “คับที่อยูได้ คับใจอยู่ยาก” การเดินออกมาก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ผิดนัก

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line