GADGETs

ทุบอีก เอาอีก! เปิดตัวกีต้าร์ไฟฟ้าพันธุ์อึดตัวแรกของโลกเพื่อชาวร็อก ฟาดยังไงก็ไม่พัง

By: anonymK April 20, 2019

อดีตที่ผ่านมาสอนให้เรารู้ว่า พอเจอเพลงในคอนเสิร์ตทีไร ความรู้สึกของร็อกเกอร์บนเวทีมันจะพลุ่งพล่านมาก จับหรือคว้าอะไรได้ โดยเฉพาะถ้าเจอกีต้าร์เหมาะมือก็เข้าสูตร คว้ามากระหน่ำฟาด ๆ ให้พังไปแบบไม่รู้ตัว ใครที่คิดภาพไม่ออกลองมาดูภาพมันส์ ๆ บนเวทีจากคลิป iconic ด้านล่างในดวงใจของเรากันก่อน ใจไม่ถึงแนะนำว่าไม่ต้องกดดู เพราะบางทีอาจต้องร้องโอดโอยไปด้วยความเสียดายแทน

SUB CULTURE แห่งการทุบทำลายกีต้าร์

ทุบทำไมวะ? นี่คือเรื่องที่หลายคนต้องเคยแวบความคิดนี้ในหัว และสงสัยว่าทำไมนักดนตรีถึงชอบทุบทำลายกีต้าร์หรือเครื่องดนตรีเสียอ่วมให้ได้เห็น จริง ๆ แล้วเราไม่อยากพูดว่ามันคือวัฒนธรรมจำเป็นสำหรับนักดนตรี เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ทำอย่างนี้ แถมเรื่องแบบนี้ก็ไม่ค่อยเกิดกับในบ้านเรา เว้นแต่ข่าวบาง ๆ ที่เคยมีร็อกเกอร์เบอร์ใหญ่เคยทุบแล้วเอ่ยวลี “เครื่องดนตรีเสียงไม่ดี” เพื่ออธิบายเหตุผลนี้กันบ้าง ซึ่งคนก็ไปไล่ตามสืบแล้วกล่าวกันว่าตัวที่ทุบพังราคาเบา ๆ ตัวหลักที่ใช้ประจำแพง ๆ ร็อกสตาร์เขายังเก็บไว้ออกงานอย่างดีเหมือนเดิม

ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกก่อนเรื่องความผิดถูก สำหรับคนที่ไม่ชินตาหรือคิดว่าทำไม่ถูก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบ้านเรามีวัฒนธรรมบูชาเครื่องดนตรี ยังจำได้ว่าสมัยยังเรียนดนตรีไทย ขลุ่ยบ้านเราห้ามวางต่ำระดับเท้า และต้องยกมือจบเวลาเล่นเพื่อไหว้ครูของเครื่องดนตรีแทบทุกครั้ง แต่ชาวยุโรปส่วนใหญ่เขาไม่ได้ใช้วัฒนธรรมเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มีโอกาสเห็นเครื่องดนตรีโดนจับไปทำอะไรแผลง ๆ ทั้งเลีย ทุบ กระทืบให้ได้เห็น

แต่เรื่องเหตุผลของการทำลาย ก็มาจากหลายสาเหตุ บ้างก็ว่าเสียงเครื่องห่วย บ้างก็หงุดหงิดวงว่าเล่นห่วยจนโมโห แต่ส่วนมากเรามองว่าเขาทำลายกีต้าร์ในรูปแบบของการสร้างอรรถรสการชม เป็นหนึ่งในการแสดงบนเวทีที่ทำให้คนดื่มด่ำกับเสียงเพลงมากขึ้นหรือสร้างภาพจำให้กับนักดนตรีคนนั้น ๆ  หนึ่งในเหตุการณ์ที่ยังตรึงใจคอดนตรีทั้งโลกที่จัดว่าทั้งโหด ทั้งดุ จนติดตา ก็มาจากการการเผากีต้าร์ของ Jimmy Henrix ที่ทิ้งไว้พร้อมประโยคตำนานอย่าง

“You sacrifice the things you love. I love my guitar.”
“คุณเสียสละสิ่งที่คุณรัก ผมรักกีต้าร์ของผม”

ประโยคนี้ทำให้ไฟที่เผาท่วมกีต้าร์ Stratocaster ของ The God of guitar อย่าง Jimmy Henrix ซึ่งถูกจุดขึ้นด้วยน้ำมือของเขาเองบนเวที Monterey Pop Festival กลายเป็นเรื่องเท่และกินใจคนที่ร่วมชมทุกคนทันที เพราะความรู้สึกที่ส่งมาพร้อมจิตวิญญาณและการเผาของรักมันบ่งบอกว่าเขาทุ่มสุดจิตสุดใจให้กับการแสดงในครั้งนั้น

กีต้าร์ตัวแรกของโลกที่ทุบให้มือหักก็ไม่พัง

จากเสียงสายที่ครางกระหึ่มจากแรงกระแทกผ่านลำโพงเรียกเสียงฮือฮาให้กับพวกเราด้านล่างเวที บรรยากาศความดุเดือดยิ่งกระตุ้นเลือดร็อกให้ร้อนผ่าวสะใจ Sandvik บริษัทสัญชาติสวีเดนที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิศวกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงและเชี่ยวชาญการให้บริการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโลหะผสมกับสเตนเลสมีโอกาสเห็นได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้เข้าจึงผุดไอเดีย ลุกขึ้นมาสร้างโปรเจกต์ผลิตกีต้าร์มหาอุตม์ไว้แก้ปัญหา เพื่อให้ร็อกเกอร์ได้มันส์กว่าโดยกีต้าร์ยอดรักไม่พัง เขาจึงคิดค้นกีต้าร์ที่ผลิตจากผงไทเทเนียม และทำให้มันกลายเป็นกีต้าร์ตัวแรกของโลกที่โคตรถึกทน ไม่พังแม้จะใส่อารมณ์กับมันแค่ไหนก็ตามที (แต่ไอ้ที่พังน่ะมันคือของที่กีต้าร์ฟาดใส่นะ พังราบไม่มีเหลือ)

โลหะที่ Sandvik เลือกมาใช้คือผงไทเทเนียม นำไปผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติมที่เรียกว่า Direct Metal Laser Sintering ไม่เพียงเท่านั้น ส่วนคอกีต้าร์ที่พวกเขาวิเคราะห์แล้วว่าเป็นตำแหน่งที่เปราะที่สุดและมักจะพังเวลาฟาด เขายังแก้เกมด้วยการเปลี่ยนแนวการผลิต โดยใช้วิธีผสมเป็นแผ่นเหล็กที่เรียกว่า hyper-duplex เชื่อมต่อมันเข้ากับลำตัวเป็นเนื้อเดียวกันเพื่อเพิ่มความแข็งแรง จนทำให้มันคงทนหนังเหนียวยิ่งกว่าลงยันต์กันกระสุนมา กระแทกแรงแค่ไหนก็พัง

ความพีคไม่ใช่แค่เรื่องกีต้าร์ที่สวยสุด ๆ เล่นแล้วเสียงออกมาชัดเจน คอตรงพร้อมเกาหรือลีดเท่านั้น แต่ Sandvik โชว์ความเก๋าเกมด้วยการเอาคู่ปรับกีต้าร์ตลอดกาลอย่าง Yngwie Malmsteen มาร่วมทดสอบและวิจัยในครั้งนี้ด้วย ใครที่ตาม Yngwie อยู่ก็คงพอจะรู้ว่าเขาเซียนเรื่องกีต้าร์มาก และเซียนเรื่องทำลายกีต้าร์ด้วยเช่นกันเพราะเคยมีคนสถิติว่าจำนวนกีต้าร์ที่พังคามือ Yngwie นั้นจำนวนมากถึงกว่า 100 ตัว! แถมหลายตัวในนั้นยังมีราคาเฉียดแสนด้วย แต่ดูเหมือน Yngwie คงต้องรามือแล้ว เพราะไม่งั้นเค้าคงต้องเสียแอมป์ เสียลำโพง เผลอ ๆ มืออาจจะเคล็ดหรือพังก่อนกีต้าร์พังแบบนี้

เห็นอย่างนี้แล้ว ชาวร็อกขาทุบคงถูกใจ แต่แฟนเพลงอย่างพวกเราอย่าเพิ่งคิดจะรวมตัวไประดมทุนกันเพื่อซื้อให้นักดนตรีสายเดือดในดวงใจล่ะ เพราะ Sandvik เขายังไม่ระบุว่าจะขาย แถมความยากเรื่องการผลิตระดับนี้ถ้าขายจริงราคาของมันคงเอาเรื่องอยู่ ถือเสียว่านวัตกรรมนี้ออกมาเป็นอาหารตาของพวกเราแล้วกัน นาน ๆ ทีกีต้าร์เสียงดี หน้าตาหล่อ ๆ จะไม่พัง แถมเฮีย Yngwie แกยังปาดเหงื่อยอมแพ้กีต้าร์อย่างนี้ นับว่าเป็นบุญตาจริง ๆ

 

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line