World

UNLOCKMEN WORLD CUP GUIDE: วิเคราะห์เจาะลึกรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018

By: PERLE July 10, 2018

การแข่งขันเข้มข้นดุเดือดผ่านไป มีทั้งผู้แพ้ที่ต้องกลับบ้านและผู้ชนะที่ได้ไปต่อ ในที่สุดฟุตบอลโลก 2018 ก็ดำเนินมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว เหลือการแข่งขันอีกแค่ 4 นัดเราก็จะรู้กันแล้วว่าทีมใดจะคว้าถ้วยแชมป์ไปครอง แม้ตอนนี้ทั้ง 4 ทีมจะเป็นทีมจากทวีปยุโรปทั้งหมด จนหลายคนออกมาล้อว่านี่คือ ‘ฟุตบอลยูโร 2018’ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความสนุกจะน้อยลงแต่อย่างใด เพราะทั้ง 4 ทีมนี้คือ 4 ทีมที่ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้

ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, อังกฤษ, โครเอเชีย ทีมใดจะได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เราขออาสาเป็นกูรูวิเคราะห์แมทที่ดุเดือดนี้กัน

France vs Belgium

ฝรั่งเศส – ฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ทีมเต็งลำดับสูง ๆ ต่างพร้อมใจกันเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันอย่างรวดเร็ว มีเพียงฝรั่งเศสทีมเดียวเท่านั้นที่อยู่ในทีมเต็ง 5 อันดับแรกที่สามารถฝ่าฟันเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางในกลุ่ม C ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่โหดมาก แต่กลับโชว์ฟอร์มได้กระท่อนกระแท่น กว่าจะชนะได้แต่ละนัดค่อนข้างหืดจับ จนแฟนบอลและสื่อออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘จะไหวเหรอ?’

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็สามารถผ่านเข้ารอบได้ด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องเจอกับอีกหนึ่งทีมเต็งอย่างอาร์เจนตินาที่นำทัพมาด้วย Lionel Messi และนัดนี้ก็เป็นนัดแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าทีมตราไก่โชว์ฟอร์มได้ดี พวกเขาไล่ต้อนอาร์เจนตินาไปด้วยสกอร์ 4-3 ทะลุสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเจอกับทีมจอมโหดอุรุกวัยที่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้โชว์ฟอร์มได้โหดสมชื่อ เป็นทีมที่มีแนวรับแข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ของโลก แต่กลายเป็นว่าฝรั่งเศสโชว์ฟอร์มได้สุดยอด สอนบอลทีมจอมโหดจนไม่มีเค้าความโหดเหลืออยู่เลย เก็บชัยชนะได้แบบสบาย ๆ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

สำหรับนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดต้องยกให้ N’Golo Kanté ถึงแม้ว่าเขาจะไม่หวือหวาเหมือนเหล่าซูเปอร์สตาร์ภายในทีมอย่าง Antoine Griezmann หรือ Kylian Mbappé ด้วยสไตล์และตำแหน่งการเล่น แต่เขาเป็นคนที่ทีมจะขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด เหมือนเฟืองชิ้นสำคัญที่สุด คอยขับเคลื่อนทั้งเกมรุกและเกมรับ

เบลเยี่ยม – นี่คือยุคทองของทีมชาติเบลเยี่ยม ทีมนี้คือทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ และหลังจากเป็นหมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อมมานาน ฟุตบอลโลกครั้งนี้พวกเขาก็มาได้ไกลเสียที ถึงแม้ชื่อชั้นของทีมอาจจะไม่ใช่มหาอำนาจลูกหนัง แต่ถ้ามองไปที่ขุมกำลังนักเตะบอกได้เลยว่านี่คือทีมรวมซูเปอร์สตาร์จากลีกยักษ์ใหญ่ยุโรปชัด ๆ

เบลเยี่ยมอยู่ในกลุ่ม G ซึ่งถือว่าไม่ใช่งานยาก เพราะนอกจากอังกฤษ เพื่อนร่วมกลุ่มอีก 2 ทีมอย่างตูนิเซียและปานามาเป็นเพียงสมันน้อยในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งก็ตามคาดพวกเขาเก็บได้ 9 คะแนนเต็มพร้อมถล่มประตูได้อย่างถล่มทลาย

ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาเจอกับทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งถ้าเทียบชื่อเทียบชั้นกันเบลเยี่ยมดูเหนือกว่าชัดเจน แต่ในนัดนี้ทีมซามูไรบูกลายเป็นหมูสู้มีด ออกนำไปก่อน 2-0 อย่างไรก็ตามเบลเยี่ยมก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ พวกเขาสามารถลุกขึ้นจากหลุมที่ถูกฝังกลบเกือบมิดได้สำเร็จ พลิกเอาชนะไปได้ 3-2

รอบก่อนรองชนะเลิศเบลเยี่ยมโคจรมาเจอกับทีมเต็ง 1 ของการแข่งขันอย่างทีมชาติบราซิล ถึงแม้จะดูเป็นรองแต่พวกเขาอาศัยความใจสู้และโชคช่วยนิด ๆ คว้าชัยชนะมาได้อย่างหวุดหวิด ทะยานสู่รอบรองชนะเลิศแบบหักปากกาเซียน

ถึงแม้ว่า Romelu Lukaku จะเป็นนักเตะของเบลเยี่ยมที่ทำประตูได้เยอะที่สุด (4 ประตู) แต่นักเตะที่โดดเด่นที่สุดยังไงก็ต้องเป็น  Eden Hazard  ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เขาทำไปแล้ว 2 ประตู 2 แอสซิสต์ เขาเป็นนักเตะที่ไปกับบอลได้ดี จบสกอร์เฉียบคม และสร้างความแตกต่างได้เสมอเมื่ออยู่ในสนาม

วิเคราะห์: ทั้งสองทีมมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ฝรั่งเศสจะเน้นการเล่นตามระบบแบบแผนชัดเจน มีเกมรับเหนียวแน่นเสียประตูยาก ฉวยโอกาสจากจังหวะสวนกลับได้ดี ส่วนเบลเยี่ยมเป็นทีมที่เน้นเกมรุกมากกว่า อาศัยความวูบวาบและความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกในการทำประตู เป็นคู่ที่วิเคราะห์ผลลัพธ์ยากมาก ๆ เพราะทั้ง 2 ทีมมีศักยภาพใกล้เคียงกันเหลือเกิน แต่ถ้าต้องเลือก 1 ทีม คิดว่าฝรั่งเศสที่มีประสบการณ์ในเกมระดับสูงมากกว่าเกมรับมั่นคงกว่าจะสามารถเฉือนชนะและผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ทีมที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ: ฝรั่งเศส

England vs Croatia

อังกฤษ – ทีมขวัญใจมหาชนชาวไทย พวกเขาเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2018 ด้วยคำสบประมาท ‘นี่คือทีมชาติอังกฤษที่ห่วยที่สุดตลอดกาล’ เพราะถึงแม้ว่าขุมกำลังทุกคนจะค้าแข้งกับทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่ก็มีส่วนน้อยที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น

ในรอบแบ่งกลุ่มทีมสิงโตคำรามอยู่กลุ่ม G กลุ่มเดียวกับเบลเยี่ยม ถึงแม้ว่าขุมกำลังจะดูด้อยกว่าทีมเต็งทีมอื่น แต่ถ้าเทียบกับทีมร่วมกลุ่มอย่างตูนิเซียและปานามาพวกเขาก็ดูดีกว่าหลายขุม ซึ่งก็เป็นไปตามคาดพวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้แบบสบาย ๆ

รอบ 16 ทีม อังกฤษเจองานที่ยากกว่าเดิมเพราะคู่ต่อสู้คือทีมชาติโคลอมเบีย ยอดทีมจากทวีปอเมริกาใต้ เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีต้องสู้กันจนถึงฎีกาดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกันในเวลา 1-1 และก็เป็นฝั่งอังกฤษที่สามารถล้างอาถรรพ์การไม่เคยชนะการดวลลูกจุดโทษในฟุตบอลโลกได้สำเร็จ

รอบ 8 ทีมพวกเขาต้องเจอกับทีมคู่รักคู่แค้นและถือว่าเป็นม้ามืดในการแข่งขันครั้งนี้อย่างสวีเดน หลายสื่อออกมาทำนายก่อนเกมว่าการแข่งขันจะเป็นไปอย่างสูสี แต่สุดท้ายก็ผิดคาด เพราะอังกฤษเป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้ทั้งหมดและเอาชนะไปแบบไม่ยากเย็น 2-0

ในส่วนนักเตะที่โชว์ฟอร์มโดดเด่น ยังไงก็หนีไม่พ้น Harry Kane ศูนย์หน้าว่าที่ดาวซัลโวประจำฟุตบอลโลก 2018 ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ ซัดไปแล้วถึง 6 ประตู อังกฤษจะสามารถทำประตูในรอบรองชนะเลิศนี้ได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับเขาเป็นสำคัญ

โครเอเชีย – นี่คือทีมม้ามืดตัวจริงประจำฟุตบอลโลก 2018 ถึงแม้ว่าชื่อชั้นนักเตะก็ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ถ้าเทียบกับทีมเต็งอื่น ๆ ก็ดูยังเป็นรองอยู่พอสมควร แต่พวกเขากลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่นัดประเดิมสนาม และพีคสุด ๆ ในนัดที่ถล่มอาร์เจนตินา 3-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ทีมตราหมากรุกชุดนี้ผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างสบาย ๆ ในฐานะแชมป์กลุ่ม

ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟอร์มของโครเอเชียแผ่วลงนิดหน่อย พวกเขาทำได้แค่เสมอในเวลา 120 นาทีกับเดนมาร์ก 1-1 แต่ยิงจุดโทษได้แม่นยำกว่าจึงผ่านเข้ารอบต่อไปได้แบบหวุดหวิด เช่นเดียวกับในรอบก่อนรองชนะเลิศ โครเอเชียโคจรมาเจอกับเจ้าภาพรัสเซีย และก็เช่นเดิม ทั้ง 2 ทีมกินกันไม่ลงใน 120 นาที แต่โครเอเชียก็ยังทำได้ดีกว่าในการดวลจุดโทษทำให้พวกเขาก้าวมาไกลถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

นักเตะฟอร์มโดดเด่นของทีมตราหมากรุกจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Luka Modric ผู้ที่ ‘เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว’ สำหรับโครเอเชียอย่างแท้จริง ทั้งเกมรุก เกมรับ สปิริตภายในทีมมีเขาเป็นศูนย์กลางแทบทั้งสิ้น โครเอเชียจะมาไกลขนาดนี้ไม่ได้แน่นอนถ้าขาดกัปตันทีมร่างเล็กคนนี้

วิเคราะห์: เป็นทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีและมาไกลเกินความคาดหมายด้วยกันทั้งคู่ ถึงแม้ว่าชื่อชั้นทีมและนักเตะอังกฤษจะดูดีกว่า แต่ถ้าเทียบตำแหน่งต่อตำแหน่งบอกได้เลยว่ากินกันไม่ลง เป็นเกมที่เดาผลการแข่งขันยากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้เลยก็ว่าได้ ทั้ง 2 ทีมมีจุดเด่นจุดด้อยกันคนละอย่าง แต่ถ้าต้องเลือกทีมที่ชนะผู้เขียนขอเลือกโครเอเชีย พวกเขาโกงความตายมาแล้ว 2 ครั้ง นี่คือสตอรี่ของทีมที่จะเป็นแชมป์โลกชัด ๆ สำหรับอังกฤษพวกเขามาเกินเป้าหมายมาไกลแล้ว ถึงจะแพ้ก็ไม่มีอะไรให้เสียดาย

ทีมที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ: โครเอเชีย

นี่คือบทวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2018 รอบรองชนะเลิศของ UNLOCKMEN ถ้าเป็นไปตามนี้นัดชิงชนะเลิศจะเป็นการเจอกันระหว่างฝรั่งเศสกับโครเอเชีย อาจจะเป็นคู่ชิงชนะเลิศที่ไม่มีใครคาดคิดและดูชื่อเสียงด้อยกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ทั้ง 2 ทีมเป็นทีมที่คุณภาพสูงด้วยกันทั้งคู่ เชื่อได้เลยว่าเราต้องได้ดูนัดชิงชนะเลิศสุดมันส์อย่างแน่นอน

 

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line