ตาดีได้ ตาร้ายเสีย อ่านก่อนช้อป Tips เบื้องต้นสำหรับมือใหม่สายวินเทจ

มีใครเคยรู้สึกสะใจเวลาที่ไปเดินตามตลาดของวินเทจ และได้ของสวยๆ ในราคาถูก แบบที่เราเป็นบ้าง การเลือกซื้อของเก่าเก็บ เป็นเหมือนเสน่ห์อย่างหนึ่งของการช้อปปิ้ง บางทีกำเงินไปเท่าไหร่ก็ไม่พอจ่าย เพราะของเก่ามักจะเป็นของหายาก ซึ่งหากคุณได้ครอบครองก็จะเป็น item ที่คุณมีเพียงคนเดียวไม่ซ้ำใคร ต่างจากไปซื้อของใหม่แบรนด์เนมแม้ว่าคุณมีตัวเลือกให้เลือกเยอะแยะ แต่ของชิ้นนั้นก็จะเป็นสินค้า Mass แบบที่ใครๆ ก็ใส่กัน

กลับกันของวินเทจ คุณต้องเจอชิ้นที่ใช่จริงๆ ด้วยเรื่องของไซส์ คุณภาพ การตัดเย็บแบบที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์โบราณ ที่ไม่ใช่ระบบเครื่องจักรในการผลิต แถมได้เรื่องราวของสินค้าชิ้นนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำการซื้อเสื้อผ้าวินเทจ ยังคงได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ สำหรับคนที่ไม่เคยมีความรู้ด้านวินเทจเลย อาจโดนหลอกขายของได้ง่ายๆ เราจึงมี Tips เบื้องต้นเพื่อช่วยในการช้อปปิ้งสินค้าวินเทจของคุณในครั้งต่อ

ต้องแยกแยะให้ออกระหว่างของวินเทจ กับของมือสอง

สินค้าที่จะใช้คำว่าวินเทจได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีขึ้นไป ถึงจะถือว่าเป็นของเก่าเก็บมีเรื่องราว รายละเอียดต่างๆ บนสินค้าจะมีลายเส้นที่ชัดเจน ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้ออะไรให้เช็คที่บริเวณตอกปีให้ชัดเจนเสียก่อนว่ามาจากยุคไหน ศึกษาข้อมูลของสินค้าที่จะซื้อให้ดี ว่าไม่ใช่ของที่เป็นเพียงมือสอง มาย้อมแมวขายเป็นของวินเทจในราคามหาโหด แล้วต้องทำใจไว้เนิ่นๆ สำหรับการเป็นวินเทจช้อปเปอร์ หากคุณไม่ได้ไปยังแหล่งต้นทาง ราคาเสื้อผ้าวินเทจที่ตามสวนจตุจักร หรือตลาดนัดทั่วไปจะมีราคาสูงกว่าของใหม่เสียอีก

ความอดทนคือกุญแจสำคัญสำหรับการช้อปของวินเทจ

ก่อนที่จะคิดเดินเข้าไปช้อปปิ้งยังร้านวินเทจ คุณต้องทำใจเพื่อเวลาไปเยอะๆ เพราะบางทีคุณต้องใช้ความอดทนในการคุ้ยเสื้อผ้าเป็นพันๆ ตัว กว่าจะเจอตัวที่ใช่สำหรับคุณ และที่สำคัญพอได้ตัวที่ต้องการ ลองไซส์อะไรให้เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลากับมัน นั่งเช็คทีละจุดว่า มีตำหนิอะไรตรงไหน เพราะของวินเทจส่วนใหญ่ผ่านการใช้งานมายาวนาน หากเห็นจุดที่เป็นตำหนิ และประมวลแล้วว่าไม่สามารถนำมาซ่อมแซมได้ ขอให้ทำใจปล่อยมันไป แม้ว่าจะสวยถูกใจแค่ไหน เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะซื้อมาเสียเงินเปล่า

รอบคอบที่สุดกับรายละเอียด

สิ่งนี้ต้องระวังให้ดี เพราะของเมื่อยิ่งเก่าจะหาสินค้ามาเปรียบเทียบว่าเป็น Authetic ได้ยาก และยิ่งในยุคนั้นจะมีสินค้าประเภท Bootleg อยู่เยอะ ซึ่งของอย่างนี้ต้องใช้ความชำนาญ จากประสบการณ์ในการเลือกซื้อเพียงอย่างเดียวที่ช่วยคุณได้ นักสะสมต้องเจ็บตัวมาไม่น้อยกว่าจะดูสินค้าเป็น แต่วิธีดูที่ง่ายที่สุดคือของวินเทจจะมีคุณภาพสูง เพราะมักถูกผลิตอย่าง craft ด้วยมือ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพจะสูงกว่างานในปัจจุบัน ยิ่งลองหางานโรงงานไทยที่มาเทียบดูจะยิ่งเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

รู้ราคากลาง

ร้าน Thrift Shop (ของมือสอง) ของต่างประเทศทุกร้านจะตั้งราคาที่เป็น Standard ทุกตัวจะเฉลี่ยๆ เท่ากัน ไม่มีราคามโนตามใจพ่อค้าแบบคนไทย ดังนั้นก่อนที่จะซื้อของวินเทจ ควรศึกษาเรื่องราคาก่อนว่า ราคาตลาดอยู่ที่เท่าไหร่ จะได้ไม่โดนพ่อค้าฟันกำไรเกินควร เพราะร้านขายของวินเทจในไทย ส่วนใหญ่มักจะตั้งราคาตามใจฉัน หากมองแล้วว่าราคาไม่สอดคล้องกับตลาดก็ขอให้ปล่อยผ่านไป อย่าได้เสียดาย เพราะเราอาจจะเจอของชิ้นอื่นในราคาที่ถูกกว่าก็เป็นได้

ตีซี้พ่อค้า

หากเราเจอร้านที่ขายของเจ๋งๆ และมีสไตล์เดียวกับการแต่งตัวเรา ให้พยายามตีซี้พ่อค้าไว้ โดยช่วงแรกอาจจะต้องลงทุนอุดหนุนเขาหน่อย มิตรภาพที่ดีจะทำให้คุณได้ของชิ้นต่อไปในราคาถูกลง รวมถึงคุณจะได้สิทธิ์คุ้ยก่อนคนแรก เพราะของวินเทจส่วนใหญ่จะมาเพียงชิ้นเดียว หากเราช้าไปเพียงนาทีเดียว ของชิ้นนั้นอาจจะหลุดลอยไป และต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะตามหามันได้อีกครั้ง

นี่เป็น Tip เบื้องต้นสำหรับการเลือกซื้อสินค้าวินเทจสำหรับชาว UNLOCKMEN ที่กำลังหันมาสนใจเสื้อผ้าวินเทจ เพราะกระแสเทรนด์ตอนนี้เสื้อผ้า Retro / Vintage กำลังเป็นที่นิยม แต่การจะไปซื้อของใหม่แบรนด์ดัง ก็ต้องเสียเงินจำนวนมาก การเลือกซื้อสินค้วินเทจจึงเป็นทางเลือกในการประหยัดเงินและยังมีคุณค่าทางกาลเวลาอีกด้วย