ว่ากันว่าการทำการค้าขายหากจะประสบความสำเร็จก็ควรจะต้องทำการ “Research” เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องในการวางแผน เช่นเดียวกับการทำค่ายเพลง ในบางครั้งก็มีการทำอัลบั้มรวมศิลปินเพื่อดูกระแสว่าวงไหนควรจะได้ไปต่อ และตัวอย่างอีกหนึ่งเคสที่ชัดเจนที่สุดคือ “Showroom Vol.1” ของ genie records ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2004 อัดแน่นไว้ทั้งหมด 7 วง ประกอบไปด้วย

DAY TRIPPER

วงดนตรีแนวบริตป๊อป ที่มี 2 สมาชิกดูโอ้คือ “อู” และ “ทวน” พวกเขาได้ชื่อวงมาจากเพลงของ The Beatles สำหรับผลงานที่ฝากไว้ใน “Showroom Vol.1” มีด้วยกัน 2 เพลงคือ “อยากอยู่ตรงนี้ตลอดไป” และ “คนที่คุณเฝ้ารอ” โดยทั้ง 2 เพลงมีโทนที่แตกต่างกัน เพลงแรกจะมาในอารมณ์ของความเศร้าหมอง ส่วนเพลงที่ 2 จะอยู่ในอารมณ์ของความสดใส

หลังจากผลงานดังกล่าว Day Tripper ก็มีอัลบั้มออกมาอีก 2 ชุดได้แก่ “The Day Tripper” (2005) และ “Guilty” (2007) อย่างไรก็ตามทางวงต้องเจอเรื่องน่าเศร้า เมื่อ “อู” ได้มาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2016 แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ Day Tripper ที่นำโดย “ทวน” เพิ่งกลับมาแสดงสดอีกครั้งในคอนเสิร์ตเด็กเทป

SATURDAY SEIKO

วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่มีแฟชั่นการแต่งตัวสุดขั้ว โดยเฉพาะ “ก้อย” ฟรอนต์เกิร์ลของวงที่ถูกยกย่องให้เป็นเจ้าแม่เด็กแนวในช่วงนั้น ทาง Saturday Seiko มาพร้อมกับเพลง “เต็มใจจะบ้า (อีกครั้ง)” ที่เริ่มต้นด้วยบรรยากาศล่องลอย ก่อนจะปล่อยสาดความอัดอั้นด้วยเสียงกีตาร์แตกพร่าพร้อมไดนามิคเสียงร้องกระแทก เพื่อเพิ่มความสะใจให้มากขึ้น

Saturday Seiko จริง ๆ แล้วสร้างชื่อมาตั้งแต่อัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับวง (2002) ซึ่งมีเพลงดังอย่าง “ถามหน่อย” ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี

ตูน วศิน

ศิลปินแนวป๊อป/ร็อกใส ๆ ที่ออกมาให้ฟังทั้งหมด 2 เพลงได้แก่ “เธอคงไปมีใครแล้วจริง ๆ” และ “เดท” ภาพรวมหากเทียบกับวงอื่น ๆ ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นอินดี้น้อยที่สุด

ปัจจุบันชื่อของตูน วศิน หายไปจากวงการแล้ว และไม่ได้เห็นผลงานของเขาออกมาเพิ่มเติมแต่อย่างใด

SKABERRY

วงที่นำเสนอแนวดนตรีสกา/พังก์ ซึ่งมาก่อนช่วงที่กระแสเรกเก้/สกาในบ้านเราจะบูมซะอีก พวกเขาเป็นอีก 1 วงที่ได้เลือกให้ทำ 2 เพลงลงในโปรเจกต์ “Showroom Vol.1” ด้วยเพลง “โรคจิต” เพลงช้ากับซาวด์หลอน ๆ บรรยากาศสุดกดดัน และ “แค่มอง” สกา/พังก์ เข้มข้น เด่นด้วยเครื่องเป่ากับจังหวะยกชวนเต้น

Skaberry ได้มีผลงานตามมาออกมาอีก 1 อัลบั้ม ก่อนจะแยกย้ายกันไป โดยโย-มือเบส ไปเล่นให้กับ Teddy Ska Band ก่อนจะมาอยู่กับ Mad Pack It ในปัจจุบัน ส่วนตุ๊กตา-ร้องนำ ปัจจุบันเป็นสมาชิกวง Trix ‘O’ Treat

SENORITA

วงดนตรีที่คว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีฮอตเวฟ มิวสิค อวอร์ดส ครั้งที่ 6 และได้มีผลงานชิมลางในโปรเจกต์นี้ด้วยเพลง “ฮู…ลา…ลา…ลา” ที่นำเสนอสไตล์ฟัง์กี้สนุกสนาน

Senorita มาโด่งดังอย่างสุดขีดกับเพลง “Miss Call” ผลงานจากอัลบั้มแรกที่มีชื่อเดียกับเพลงนี้ ถูกเผยแพร่เมื่อปี 2005

SWEET MULLET

แม้ผลงานในช่วงที่ยังตะลุยเล่นตามงานใต้ดินจะเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด โดยเฉพาะผลงานจากอีพี “Panaphobia” แต่สำหรับในโปรเจกต์ “Showroom Vol.1” พวกเขาเลือกที่จะทักทายโลกใบใหม่ด้วยเพลงซึ้ง ๆ ที่มีชื่อว่า “ตอบ” ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะเพลงนี้ทำให้ชื่อวงของ Sweet Mullet เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

สุดท้ายพวกเขาก็ได้ฉายตัวตนออกมาในอัลบั้มแรก “Light Heavyweight” ตามมาด้วย “Sound Of Silence” ซึ่งทั้ง 2 อัลบั้มเต็มไปด้วยเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เพลงของคนโง่”, “หลับข้ามวัน”, “คมมีด”, “สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” และ “พลังแสงอาทิตย์” เป็นต้น

จนถึงปัจจุบันพวกเขาเป็นวงที่สามารถยืนหยัดในวงการดนตรีมาได้อย่างยาวนาน และไม่สูญเสียตัวตนไปแต่อย่างใด

RETROSPECT

เพลงที่หนักที่สุดในโปรเจกต์นี้ตกไปเป็นของวง Retrospect กับเพลง “ไม่มีเธอ” ถึงแม้จะหนักหน่วงและมีเสียงสครีมให้ฟัง แต่ด้วยความแปลกใหม่ ณ เวลานั้นของวงการเพลงไทย ก็ทำให้เพลงนี้เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นกระแสที่เลี้ยงมาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งมาถึงอัลบั้ม “Unleashed” นั่นคือจุดที่ทำให้ Retrospect ก้าวขึ้นไปเป็นวงระดับประเทศในเวลาอันรวดเร็ว เท่านั้นยังไม่พอแฟชั่นเสื้อลายสก็อต, การหวีผมปาดข้าง และการเจาะตามร่างกาย ของแน็ป-นักร้องนำ ก็ได้สร้างเทรนด์ให้วัยรุ่นในยุคนั้นแต่งตัวตามกันเต็มไปหมด กลายเป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลงไทยโดยแท้จริง

ปัจจุบันแม้แน็ปจะออกจากวงไปแล้ว แต่สมาชิกวงที่เหลือได้แก่ บอม-เบส, นอต-กีตาร์ และเบิร์ธ-กลอง ก็ยังคงช่วยกันพยุงให้วงยังคงเดินหน้าต่อไปได้ และน่าจะได้ทราบกันเร็ว ๆ นี้ว่าใครจะเข้ามาทำหน้าที่ร้องนำแทน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับโปรเจกต์ “Showroom Vol.1” ซึ่งทุก ๆ คนคงได้เห็นแล้วว่ามันได้สร้างศิลปินวงไหนบ้างให้กลายเป็น 2 วงร็อกสุดยิ่งใหญ่ และยังยินหยัดในวงการดนตรีได้จนถึงปัจจุบัน