Life

DON’T GROW OLD, JUST GROW UP! : สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ไม่ใช่โตแค่อายุ

By: PEERAWIT August 27, 2018

สุภาพบุรุษทั้งหลาย เราต่างรู้ว่าการที่เรามีอายุมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นผู้มากขึ้นตามตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเสมอไป เป็นความจริงที่ว่าผู้ชายวัย 30 กว่า หรือ 40 กว่าบางท่านยังคงไม่ค่อยมีวุฒิภาวะเท่าที่ควร อันนี้ไม่ได้ว่าหรือตำหนิกัน แต่ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าตัวเองยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอในบางเรื่อง ก็เลยคิดว่าอยากจะนำแนวคิดที่จะช่วยให้ผู้ชายอย่างเราพัฒนาตัวเองไปด้วยกัน

การโตเป็นผู้ใหญ่ในที่นี่ไม่ใช่การเป็นรุ่นใหญ่หรือมีอำนาจ แต่เป็นการซื่อสัตย์กับตัวเอง พัฒนาคาแรกเตอร์ และใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะและศีลธรรม มาดูด้วยกันว่าพวกเรามีสัญญาณแห่งความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วกี่ข้อ ขาดเหลือตรงไหนได้พัฒนาไปพร้อม ๆ กัน

 

ทุกคนเชื่อมั่นว่าคุณจะทำตามสัญญา

สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เรียนรู้จากการเป็นผู้ใหญ่ก็คือ ความน่าเชื่อถือนั้นเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล้ำค่า คุณคงไม่อยากจะมานั่งกุ้มใจเวลาที่มีใครมาลับหลัง โดยเฉพาะบรรดา hater ทั้งหลาย ลองจินตนาการดูว่าเวลาที่เราไม่อยู่ในวงสนทนา ผู้คนในกลุ่มนั้นจะพูดถึงเราว่าอย่างไร คุณอยากเป็นคนที่เชื่อมั่นในคำพูดไม่ได้ ​? คุณอยากเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ ? หรือคุณอยากเป็นคนที่ทุกคนต่างไว้เนื้อเชื่อใจ ? คนที่ทำอย่างที่ให้คำมั่นไว้ ? ใช่ เราควรพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ทุกคนเชื่อใจอย่างไร้ข้อกังขา

 

แต่งตัวเหมาะสม

การลงทุนจ่ายเพื่อซื้อเสื้อผ้ารองเท้ามาแต่งตัวให้ดีไม่ได้เป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัว หรือการทำตัวเองให้น่าสนใจเสมอไป แต่การแต่งตัวให้ดูดีและเหมาะสมไม่ได้ช่วยส่งเสริมบุคลิกเท่านั้น แต่มันยังเปลี่ยนความรู้สึกของเราได้อีกด้วย หากเราหมั่นใส่ใจและสนใจในการรักษาลุคของเราในทุกรายละเอียด ก็จะทำให้เรามีระเบียบวินัยมากขึ้น คล้าย ๆ กับการเซ็ตเอาไว้ว่าต้องออกกำลังกายเป็นประจำแล้วทำตามจนคุ้นชิน หากห่างหายก็จะรู้สึกขาดหายไปด้วย

Tom Ford เคยบอกไว้ว่า “การแต่งตัวดีเท่ากับเราเคารพตัวเองและผู้คนรอบข้าง”  เราอาจจะเคยคิดว่าผู้คนอาจไม่ตัดสินกันแค่ลุคภายนอก แต่เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เราจะรู้ว่าทุกคนล้วนตัดสินใจว่าจะเปิดหนังสื่อเล่มไหนอ่านจากปกทั้งนั้น มนุษย์กับมุนษย์ก็เช่นกัน ถ้าเกิด first impression ขึ้นมาก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะฉะนั้น เราก็ควรนำเสนอตัวตนของเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดออกมา

 

จัดระเบียบสภาวะแวดล้อมได้

ถ้าคุณรู้สึกเหมือนกำลังจะบ้าและยุ่งเหยิงตลอดเวลา คุณอาจต้องตั้งใจทบทวนตารางชีวิตและตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง แต่ต้องอย่าลืมดูแลสถาวะแวดล้อมรอบตัวด้วย เพราะว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณเป็นอย่างไร มันคือภาพสะท้อนของสิ่งที่อยู่ภายในใจ เมื่อข้างนอกยุ่งเหยิง ข้างในก็มักจะยุ่งเหยิงเช่นกัน ลองจัดระเบียบสิ่งรอบตัวในชีวิตของคุณให้ดี จิตใจจะได้ไม่รกรุงรัง ส่งผลให้มีสมาธิมากขึ้น

 

เปลี่ยน FOMO เป็น JOMO

เมื่อตอนที่เราเป็นวัยรุ่น เรามักจะซึมซับสิ่งที่คนรอบข้างทำ และใส่ใจกับความคิดของผู้อื่น ทำให้เราตกหลุมกับดักแห่ง FOMO (Fear Of Missing Out) หรือความกลัวที่จะถูกลืม เช่นเดียวกับการไปปาร์ตี้ที่คุณไม่ได้อยากจะไปจริง ๆ และจริง ๆ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้สนใจคุณสักเท่าไหร่ แต่คุณไปก็เพราะว่าไม่อยากเป็นผู้ที่ถูกลืม ไม่อยากตกข่าวอะไรไป กลัวคุณกับเขาไม่รู้เรื่อง

เพื่อเราเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เราจะเริ่มรู้ว่าการตัดสินใจด้วยพื้นฐานแห่งความกลัวเป็นสิ่งที่ไม่เวิร์ก และรู้ว่าการตัดสินใจจากตัวตนและความชอบของตัวเองจะทำให้เรามีความสุขในระยะยาว เปลี่ยน FOMO ให้กลายเป็น JOMO (Joy Of Missing Out) ซะ รู้จักการปฏิเสธอย่างสุภาพ และใช้เวลาคุณภาพในแบบของตัวเองในคืนวันศุกร์ แบบนี้แฮปปี้กว่าเยอะ

 

จริงจังกับทุกงานที่ขวางหน้า

มีชายหลายคนที่ทุ่มเทเวลาไปกับการทำงานเพื่อพัฒนาหน้าที่การงานและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อเราโตขึ้นเราจะเข้าใจประโยคที่ว่า “อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา”​  ไม่ว่างานหลักหรืองานเสริมที่เราทำอยู่ หากเป็นอาชีพที่สุจริตก็ให้ลุยเต็มที่ไปเลย อย่าไปสนคำคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว (วรรคหนึ่งของเพลง ผู้ชนะ / ศิลปิน โลโซ) แบบนี้สิคือคาแรกเตอร์ของชายรุ่นใหญ่ตัวจริงที่ไม่หวั่นไหวกับคำดูแคลน ทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ให้เต็มที่ ผลดีจะอยู่กับเราเอง คนที่เดือดร้อนคือคนที่กังขา ไม่ใช่เรา

 

รู้จักการเปย์อย่างมีเหตุผล

พอเราเริ่มมีความมั่นคงทางการเงิน เริ่มที่จะสามารถเลือกสรรสิ่งดี ๆ ได้ก็ควรที่จะใช้เงินอย่างมีเหตุผล ซึ่งมันไม่ใช่การฟุ่มเฟือย แต่มันคือการลงทุนในสิ่งที่คุ้มค่า ของหลายอย่างในโลกนี้ถูกแต่ไม่ทน อาหารบางอย่างถูกแต่ไม่ดี การบริการบางที่ก็ถูกแต่ไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นการพิจารณาใช้จ่ายในสิ่งที่มีประโยชน์และมีคุณค่าถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปัจเจก แต่ก็พอยกตัวอย่างได้บ้าง อย่างเช่น :

  • ที่นอนคุณภาพดี เตียงที่แข็งแรง (เราใช้เวลาอยู่บนเตียงตั้ง 1 ใน 3 ของชีวิต)
  • รองเท้าดี ๆ ที่ถูกใจ ช่วยเซฟเข่าและข้อเท้าของคุณ ความคงทนอยู่ในเกณฑ์ดี
  • อาหารการกินดี ๆ สะอาด มีคุณค่า เพื่อร่างกายของตัวคุณเอง
  • ลงทุนกับประสบการณ์ชีวิตใหม่ ๆ ไปในที่ที่ไม่เคยไป ฝึกในสิ่งที่ไม่เคยทำ เรียนรู้ในเรื่องที่อยากเชี่ยวชาญ สิ่งเหล่านี้มีค่ามากกว่าเงินทอง

 

ตระหนักดีว่าพรสวรรค์ต้องคู่กับพรแสวง

การทำงานหนักเป็นสิ่งสำคัญ อย่าให้พรวรรค์และความอัจฉริยะของคุณกลายเป็นกับดักแห่งการพัฒนาตนเอง คนที่มีวุฒิภาวะจะรู้ว่า แม้หัวจะไวก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อปลดล็อกศักยภาพตัวเองออกมาให้ได้อย่างเต็มที่ และเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากคนมีพรสวรรค์แต่ขี้เกียจ ให้กลายเป็นคนที่ขยันและมีประสิทธิภาพ

 

ให้เวลากับครอบครัว

แม้ว่าตอนเด็กเราจะใกล้ชิดกับพ่อแม่เรามาก แต่พอโตขึ้น เราต่างโหยหาอิสระและหนทางของตัวเองเพื่อการก้าวไปข้างหน้า ซึ่งมันทำให้เราห่างเหินจากที่บ้านไปมากพอสมควร ไม่ว่าจะช่วยไหนของชีวิต ทั้งตอนเรียน เรียนจบ และมีงานทำ โดยเฉพาะช่วงที่สร้างตัวตน แต่ไม่ว่าคุณจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแค่ไหน พ่อแม่ของคุณก็ยังคิดว่าคุณเป็นลูกน้อยของเขาเสมอ

รุ่นใหญ่มักจะเข้าใจความรู้สึกของคนในครอบครัว แบ่งเวลาให้กับพ่อแม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปเที่ยวหาในวันหยุด พาออกไปทานข้าว หรือโทรคุยกันระหว่างวัน แม้ว่าจะมีแฟนหรือครอบครัวแล้ว เขายังรู้จักให้ความสำคัญกับพ่อแม่เสมอ อย่าลืมว่าทั้งสองท่านคงไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป จงใช้เวลากับครอบครัวของคุณให้มีคุณภาพมากที่สุด

 

ความล้มเหลวคือบัตรคิวที่จะกลับมาสู้ใหม่

เมื่อครั้งเรายังประสบการณ์น้อยนิด เราจะรู้สึกกลัวความผิดพลาดไปหมด จำได้ใช่มั้ยว่ารสชาติของความล้มเหลวครั้งแรกในตอนโตนั้นเป็นอย่างไร ใช่ มันรู้สึกโคตรแย่กับตัวเอง รู้สึกโง่เง่า เหมือนกับทั้งโลกเกลียดเรา

แต่พอเรามีความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เราจะเรียนรู้ว่าชีวิตมันจะยากมากหากมัวแต่มากลัวความผิดพลาด เราจะรู้ว่าบทเรียนที่ดีนั้นเกิดจากความล้มเหลว ต้องเจ็บก่อนถึงจะจำ พอเราพลาด เราก็จะพัฒนาตัวเองให้กลับมาพร้อมรบอีกครั้ง ล้มได้ก็ลุกได้ คนที่มีชื่อเสียงอย่าง Walt Disney ยังเคยถูกไล่ออกจากสำนักหนังสือพิมพ์ด้วยเหตุผลที่ว่า “ขาดความคิคสร้างสรรค์” แถมบริษัทแอนิเมชั่นแห่งแรกของเขาก็เจ๊งไม่เป็นท่า แต่ปัจจุบันรากฐานของเขาก็สร้างความสุขให้กับทุกคนได้ ขณะที่ Thomas Edison กว่าจะผลิตหลอดไฟได้สำเร็จ ก็ทำการทดลองล้มเหลวไปกว่า 1,000 ครั้ง การเป็นผู้ใหญ่จะรู้ว่าความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรายอมแพ้ แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เราลุกขึ้นมาคิดว่าพลาดตรงไหนไป เรียนรู้อะไรจากมัน และถีบตัวเองให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

 

สามารถพูดคุยกับคนที่เห็นต่าง

อีกหนึ่งองค์ประกอบของความเป็นผู้ใหญ่ก็คือการเข้าใจว่ามนุษย์นั้นย่อมมีความต่าง มากจากล้านพ่อล้านแม่ มีความหวังกับความฝันไม่เหมือนกัน และมองโลกต่างกับคุณ ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าคนที่คิดต่างจะไม่ควรค่ากับการรับฟัง

หนึ่งในความสุขอันแท้จริงของความเป็นผู้ใหญ่ ก็คือการเปิดใจยอมรับ และนั่งสนทนากับคนที่มีความคิดไม่เหมือนคุณอย่างออกรส แม้ว่าในบางครั้งความเห็นของเราจะตกลงไป แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเราได้ปลดล็อกอีโก้ของเราเพื่อเรียนรู้แล้ว ยิ่งเราอดทนอดกลั้น เปิดหูเปิดตา ก็จะยิ่งพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้นได้

 

พอใจในสิ่งที่มีอยู่

 

ตอนเด็ก ๆ เราอาจจะรู้สึกน้อยใจว่าทำไมเราไม่มีจักรยานเจ๋ง ๆ แบบเพื่อน ไม่มีเครื่องเกมมันส์ ๆ อย่างเขา แต่เมื่อเราโตขึ้น เราจะเริ่มคิดได้ว่าควรพอใจในสิ่งที่มีอยู่ และดูแลมันให้ดีที่สุด ทั้งยังรู้ว่าไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบกับคุณค่าของมิตรภาพ ครอบครัว ความรัก และประสบการณ์ได้ ซึ่งมันจะทำให้คุณปลาบปลื้มและภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่ แม้ว่าจะไม่แพงเหมือนกับใคร ๆ เขา แต่มันก็น้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ เราจะเริ่มไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใคร เราจะทำบ้านหลังย่อม ๆ ของเราให้น่าอยู่ที่สุด ดูแลรถคันโปรดอย่างเต็มที่ด้วยความพอใจในสิ่งที่มี ซึ่งแก่นของสิ่งนี้คือนิสัยของคุณที่รักการดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทำให้ทั้งตัวคุณ ผู้คน และสิ่งที่รายล้อมมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

หวังว่าทุกท่านคงจะรู้ว่าตัวเรานั้นเข้าข่ายการโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวมากแค่ไหน และมีมุมในที่ควรจะพัฒนาอีกบ้าง อย่างไรก็ตาม ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง ย้ำว่า “พัฒนาตัวเอง” ไม่ใช่ไปตัดสินคนอื่น ยิ้มเข้าไว้ ค่อย ๆ เป็นค่อยไป วันหนึ่งก็จะกลายเป็นชายรุ่นใหญ่เต็มตัวแน่นอน ส่วนใครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนก็อย่าหยุดก้าวไปข้างหน้า หวังว่าจะเจออะไรดี ๆ ในขีวิตอีกเรื่อย ๆ

รุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง เป็นคนจริงต้องใจกว้าง

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line