EVENT

SINGAPORE GRAND PRIX 2019 สัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าการแข่งขัน FORMULA 1

By: SPLESS August 16, 2019

นอกจากชีวิตที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ผู้ชายอย่างเรามักเลือกเติมเต็มความสุขให้ตัวเองด้วยกิจกรรมที่ทำหัวใจต้องเต้นรัวพร้อมอะดรีนาลีนในร่างกายที่สูบฉีด เพราะคนมันส์ ๆ แบบพวกเราไม่เคยปล่อยให้ไลฟ์สไตล์ขาดความตื่นเต้นและท้าทายของกีฬา การแข่งขัน และประสบการณ์แบบสุดขั้วแต่ละครั้ง ที่มีโอกาสพบเจอในชีวิตก็ทำให้เราได้เติมฮอร์โมนชนิดนี้เข้าไปเสมอ

แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ความชื่นชอบในกีฬามอเตอร์สปอร์ต แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรจะเจ๋งไปกว่านี้ กับการมีโอกาสได้นั่งชมการแข่งขันรถยนต์ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของวงการ นั่นคือการแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” หรือ Formula 1 ซึ่งแค่การนั่งชมอยู่หน้าทีวีก็ยังทำให้ลุ้นกันจนตัวโก่งได้ แต่จะเจ๋งแค่ไหนถ้าวันหนึ่งคุณเลือกจะเดินทางไปนั่งชมสัมผัสบรรยากาศเต็มทุกโสตประสาทแบบติดขอบสนามด้วยตัวเอง และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพราะหนึ่งในสนามแข่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการแข่งขันนี้อยู่ใกล้แค่เพียงประเทศสิงคโปร์เพื่อนบ้านของเรานี่เอง

Getty Images

Formula 1 (F1) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ FIA Formula One World Championship การแข่งขันรถระดับสูงสุดที่มีจุดเริ่มต้นขึ้นในปี 1950 เป็นการแข่งขันรถยนต์ที่นั่งเดี่ยวที่ถูกสร้างขึ้นมาตามกติกา ปัจจุบันใช้ความเร็วสูงสุดในการขับขี่ได้ถึง 360 กิโลเมตร/ต่อชั่วโมง ทำให้มันกลายเป็นทัวร์นาเมนต์แห่งความเร็วที่น่าตื่นตาตื่นใจ เสียงเครื่องยนต์ที่คำราม กลิ่นของยางและเบรกที่สร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี และการไล่บี้กันชิงตำแหน่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งผู้ชนะจะไม่มีคำว่าโชคช่วยเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะนี่คือการแข่งขันที่ทั้งทีมเบื้องหน้า เบื้องหลัง และแม้แต่ตัวนักแข่งเองต้องทำงานหนักกันครบทุกตำแหน่ง ตั้งแต่นักขับที่เป็นเหมือนหัวใจหลัก ไปจนถึงทีมช่าง และทีมโค้ช ก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกัน ด้วยมนต์เสน่ห์นี่เองก็ทำให้แต่ละปีมีคนทั่วโลกตั้งตารอชมการแข่งขันมากกว่า 600 ล้านคน และตัวเลขผู้ชมก็ดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี

โดยเฉพาะสำหรับฤดูกาลของปี 2019 ถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับแฟน ๆ ชาวไทยที่จะได้ลุ้นเชียร์ไปกับนักแข่งอย่าง Alexander Albon สังกัดทีม Red Bull Racing ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าแข่งขัน Formula 1 นับตั้งแต่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชเคยเข้าร่วมการแข่งขันในช่วงปี 1950 ซึ่งนี้เป็นฤดูกาลแรกของเขา หลังจากปี  2018 ที่ผ่านมาเจ้าตัวโชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมใน Formula 2 ด้วยการคว้าแชปม์ไปถึง 4 สนาม มีอันดับในโพเดียมอีก 4 สนาม พร้อมคว้าอันดับที่ 3 ไปครอง ก่อนก้าวขึ้นมาแข่งขันในสังเวียนของ Formula 1 ในปีนี้ซึ่ง Alexander สามารถเก็บคะแนนได้จากถึงสนาม 3 และหวังว่าคนไทยตามเป็นกำลังใจให้เขารักษาฟอร์มยอดเยี่ยมแบบนี้ไปจนจบฤดูกาล

การแข่งขัน Formula 1 คือการแข่งขันประจำปีที่แบ่งออกเป็นหลายสนาม โดยการแข่งขันในแต่ละสนามจะถูกเรียกว่ากรังด์ปรีซ์ (Grand Prix) ก่อนที่จะหาผู้ชนะจากการรวมคะแนนสะสมจากทุกสนาม ซึ่งในปีนี้แบ่งเป็น 21 สนาม กระจายตัวไปตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยนับตั้งแต่ถูกจัดขึ้นไม่เคยมีการแข่งขันที่จัดขึ้นในเวลากลางคืนมาก่อน จนกระทั่งเมื่อ 11 ปีก่อนที่ Singapore Grand Prix ได้อุบัติขึ้นก็ทำให้โลกของการแข่งขันและการชม Formula 1 เปลี่ยนแปลงไปทันที

Singapore Grand Prix ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2008 ถือเป็นมิติใหม่ของการแข่งรถสูตรหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะไม่มีสนามไหนในโลกที่จัดการแข่งขันขึ้นในตอนกลางคืน และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Singapore Grand Prix ได้รับความสนใจจากคนที่คลั่งไคล้ความเร็วทั่วโลกคือการ “ปิดเมืองซิ่ง” ด้วยการเปลี่ยนถนนเส้นสำคัญให้กลายเป็นสนามแข่ง ตัดผ่านแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศไม่ว่าจะเป็น Marina Bay, Merlion Park และโรงละคร Esplanade

การออกแบบตำแหน่งอัฒจันทร์ที่กระจายตัวตามจุดสำคัญต่าง ๆ จนเกิดเป็นสนามแข่งขันที่มีโค้งถึง 23 โค้งมากที่สุดในสนามแข่งทั้งหมดของปัจจุบันที่มีความยาวต่อรอบ 5.063 กิโลเมตร โดยใช้ชื่อว่า Marina Bay Street Circuit หรือ Singapore Street Circuit ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามปราบเซียนที่ไม่เคยคาดเดาผลการแข่งขันได้เลย และคนที่ติดตามคงจำกันได้ดีสำหรับการชนที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันในปี 2017 โดย Max Verstappen นักแข่งสังกัดทีม RedBull Racing ที่ถูก Sebastian Vettel และ Kimi Räikkönen สองคู่หูจากทีม Ferrari ขนาบข้างก่อนจะพลาดชนกันเองจนต้องออกจากการแข่งขันซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแข่งขันในปีนั้นเลยทีเดียว

อีกจุดเด่นสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Formula 1 Night Race กับการแข่งขันที่เริ่มขึ้นในเวลา 20.10 น. (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งสนามจะถูกจัดแสงสปอตไลท์เต็มรูปแบบที่ให้แสงสว่างราวกับช่วงเวลากลางวัน ตัดกับบรรยากาศอันสวยงามจากค่ำคืนของเมืองสิงคโปร์ ทำให้การแข่งขันในสนามนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาผู้เข้าชม รวมถึงตัวนักแข่งระดับตำนานเจ้าของแชมป์โลกสมัยล่าสุดอย่าง Lewis Hamilton ที่เคยโชว์สุดยอดฝีมือการขับขี่ใน Pole Lap ด้วยเวลาเพียง 1 : 36.015 นาที/ต่อรอบ แสดงให้เห็นถึงความสนุกและความท้าทายที่นักแข่งได้จากสนามแข่งขันแห่งนี้ และสำหรับ 2019 Singapore Grand Prix ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 กันยายนปีนี้ เชื่อว่าทุกคนจะได้เห็นการต่อสู้อันดุเดือดบนสนามจากเหล่ายอดนักขับที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างแน่นอน

นอกจากการแข่งขันอันร้อนระอุที่ชวนให้อะดรีนาลีนสูบฉีดจากสนามแล้ว Singapore Grand Prix ยังถูกจดจำทำในฐานะอีเว้นท์ที่ไม่เคยหลับใหล อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย ที่มอบความรู้สึกพิเศษให้ผู้รวมงานไม่น้อยกว่าการติดขอบสนาม ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลกซึ่งปีนี้นำทีมโดยป๊อบสตาร์อย่าง Gwen Stefani ผนึกกำลังกับวงร็อกสุดเก๋าอย่าง Red Hot Chili Peppers และ Muse รวมถึงขวัญใจสายปาร์ตี้อย่าง Fatboy Slim ที่จะขึ้นโชว์บน Padang Stage เวทีใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน Zone 4 ของการแข่งขัน

singaporegp.sg

ส่วนอีกหนึ่งเวทีใหญ่ในงานที่ตั้งอยู่ใน Zone 1 ของงานอย่าง Wharf Stage ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเพราะมีวงเร็กเก้สัญชาติจาไมก้า Toots And The Maytals และเจ้าพ่อ Soundtrack ภาพยนตร์อย่าง Hans Zimmer รวมถึง Fatboy Slim ที่จะข้ามเวทีไปโชว์ในวันที่สองอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคู่ดูโออย่าง Larkin Poe รวมถึงศิลปินท้องถิ่นและต่างชาติกว่า 20 ชีวิต กระจายไปตามเวทีน้อยใหญ่ที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่ของ Circuit Park คอยหมุนเวียนสร้างความสุขให้ผู้ร่วมงานกันแบบไม่รู้จบ

singaporegp.sg

รวมไปถึงโซน Downtown ที่ตอบโจทย์ด้วยสไตล์ดนตรีอันหลากหลาย จากวงดนตรีท้องถิ่นและต่างชาติ ที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาสร้างความสนุกตลอดทั้งคืน และ Zone 3 ในจุด Uptown ก็มี Line-Up แนวเพลงแบบผสมผสานให้เลือกเสพ รวมไปถึงเครื่องดื่มเย็น ๆ ร้านอาหารรสชาติดีและซุ้มเกมให้นั่งเล่นพักผ่อนกันได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าทั่วทุกพื้นที่ของ Singapore Grand Prix 2019 จะอัดแน่นไปด้วยความสนุกสนานเหมือนกับการรวมเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่เข้ากับการแข่งขัน Formula 1 เลยก็ว่าได้

แต่ถ้าติดลมและต้องการฉลองชัยชนะให้กับนักแข่งที่คุณชื่นชอบกันแบบสะใจไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ภายนอกบริเวณ Circuit Park เราแนะนำให้มุ่งไปยังคลับชั้นนำของอย่าง Amber Lounge, ZOUK Singapore และ MARQUEE Singapore ซึ่งแต่ละที่จัดเตรียม After Party สุดมันส์ที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Grand Prix Season Singapore (GPSS) เอาไว้แบบจัดเต็ม ซึ่งแต่ละที่จะทำให้คุณฉลองชัยชนะอย่างสนุกสนานจนลืมการหลับใหลในช่วงค่ำคืนไปอย่างอย่างแน่นอน

ถือเป็นอีกหนึ่งงานประจำปีที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะหนุ่มที่หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตและแฟน ๆ ของการแข่งขัน Formula 1 เพราะ Singapore Grand Prix 2019 จะมอบความประทับใจให้คุณ ทั้งจากการได้นั่งดูการแข่งขันติดขอบสนาม  คอนเสิร์ตจากสุดยอดศิลปินระดับโลก และกิจกรรมมากมายที่มีให้เลือกทำแบบไม่รู้จบตลอดทริป

สำหรับคนที่สนใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันรถสุดยิ่งใหญ่ในครั้งนี้สามารถซื้อบัตรได้ที่ www.singaporegp.sg  หรือ ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แล้วมาสูบฉีดอะดรีนาลีนไปพร้อมกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันล้ำค่าครั้งนี้ไปด้วยกัน

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line