sneakers of the week : รองเท้าที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับถ่ายสำเนามา

เราเชื่อว่าในสมัยก่อนที่อินเตอร์เน็ตยังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้ การหาข้อมูลข่าวสารถือเป็นเรื่องยาก ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คนเล่นรองเท้าเจ็บกันมาเยอะ เนื่องจากโดนหลอกขายรองเท้ารุ่นที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน แต่ไม่ใช่แบบที่ต้องการ ซึ่งทีมงาน UNLOCKMEN เองก็ไม่ค่อยเข้าใจกลยุทธ์ในสมัยก่อนของแบรนด์รองเท้าว่าจะทำรองเท้าที่หน้าตาเหมือนกันออกมาขายทำไม เพื่อเป็นการขยายความในจุดนี้ Sneakers of the weeks สัปดาห์นี้ได้หยิบยกเอารองเท้าที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับถ่ายสำเนาก๊อปปี้ออกมา ให้ทุกท่านลองพิจารณาตัดสินใจกันดูว่าเหมือนหรือเปล่า

adidas Gazelle = adidas Campus

สืบเนื่องจากความโด่งดังเป็นพลุแตกของ adidas Gazelle ในยุคคาบเกี่ยว 80-90 เมื่อวัฒนธรรม Brit pop กลายเป็น mass culture และหนึ่งในไอเทมที่จะขาดไม่ได้เลยคือ adidas Gazelle ที่ฮิตจนถึงขั้นของขาดตลาด แต่แทนที่ adidas จะผลิตโปรดักส์ซ้ำออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการ พวกเขากลับหยุดผลิต Gazelle ซะอย่างนั้น  จากนั้นก็ใช้เทคนิคทางการตลาดส่งรองเท้ารุ่นอื่นที่มีหน้าตาคล้ายกันเกิดเป็นการรวมร่างระหว่าง Gazelle และ Stan Smith จนกลายเป็น adidas Campus เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุให้ไลน์รองเท้าของ adidas Original มีรองเท้าสองรุ่นที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับฝาแฝดให้คนได้งงเล่น

Air jordan 1 = Nike Dunk High

ถ้าใครไม่ได้เป็นแฟนตัวจริงของรองเท้าตระกูล Air Jordan คงต้องมีงงกันบ้าง เพราะรองเท้าทั้งสองคู่นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับกีฬาบาสเก็ตบอลทั้งคู่ หากย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของรองเท้าทั้งสองรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นในปี 1985 โดย Air Jordan 1  ถูกผลิตออกมาก่อนเพื่อยอดนักบาสอย่าง Michael Jordan ก่อนที่ Nike จะเกิดไอเดียบรรเจิดทำรองเท้าบาสราคาย่อมเยาเพื่อเด็กนักเรียนนั่นคือ Nike Dunk High ซึ่งอิงดีไซน์มาจาก Air Jordan 1 ก่อนที่ในเวลาต่อมาทั้งสองไลน์รองเท้าจะแตกกิ่งก้านสาขาออกไปแบบเช่นในปัจจุบัน

Puma Clyde = Puma Suede

ในปี 1986 บริษัท Puma ได้ผลิตรองเท้าไลฟ์สไตล์รุ่น Puma Suede ซึ่งในปีเดียวกันเกิดกระแสสนั่นวงการเมื่อนักวิ่งที่ชื่อ Tommie Smith ขึ้นไปรับเหรียญรางวัลแสดงสัญลักษณ์การต่อต้านการเหยียดผิวพร้อมถือรองเท้า Puma Suede อยู่ในมือจนทำให้รองเท้าคู่นี้กลายเป็นที่นิยมสำหรับคนผิวสีที่ใส่รองเท้าเพื่อแสดงออกถึงสิทธิความเท่าเทียม ก่อนที่ในปี 1975 ทาง Puma เองจะออกรองเท้ารุ่น Clyde ซึ่งหน้าตาเหมือนกับ Suede อย่างมาก จะต่างกันที่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ  ของทั้งคู่ และ Puma Clyde ถูกใช้ในจุดประสงค์การเล่นกีฬาบาสเก็ตบอลเป็นหลัก

Reebok Workout plus = Reebok Ex-O Fit Low

ในส่วนของ Reebok เองก็มีรองเท้าที่รูปร่างหน้าคล้ายกันอยู่หลายรุ่น แต่เราจะขอยกมาแค่สองคู่เท่านั้นคือรุ่น Ex-O Fit Low และ Workout ซึ่งทั้งคู่เกิดขึ้นในยุค 80s ช่วงที่ Reebok พยายามทำตลาด พวกเขาได้ออกจำหน่ายรองเท้ารุ่น Ex-O Fit Low สำหรับกิจกรรมฟรีสไตล์ที่มีจุดเด่นในเรื่องหนังที่นิ่มเบาสบายใส่แบบไลฟ์สไตล์ได้อย่างชิล ๆ แต่สำหรับรองเท้ารุ่น Workout เกิดขึ้นภายหลังจากทีมดีไซน์ของ Reebok ต้องการทำรองเท้าสำหรับกีฬาเทนนิส จนได้เทคโนโลยีพิเศษที่ล็อคบริเวณข้างเท้า แต่ Workout ดันไปโดนใจชาวสเก็ตบอร์ดแทนที่จะเป็นนักเทนนิส จึงทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีความเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นในอังกฤษแทน

Nike Waffle Trainer = Nike Cortez

ทั้งคู่ถือเป็นรองเท้าต้นตระกูลของ Nike ที่ผลิตออกมาในยุคบุกเบิกของพวกเขาเลยก็ว่าได้ เริ่มจาก Nike Waffle Trainer ที่เกิดขึ้นในปี 1971 จากความอุตริของ Bill Bowerman ที่เอายางไปยัดใส่เครื่องทำ Waffle ของเมียตัวเอง จนเกิดเป็นรองเท้าคู่ดังกล่าว แต่สำหรับรองเท้า Nike Cortez อาจจะเรียกได้ว่าเป็นรองเท้าต้นกำเนิดอย่างแท้จริง เพราะแต่เดิมรองเท้าคู่นี้ Bill Bowerman ได้พัฒนาขึ้นมาจากต้นแบบของรองเท้า ASICS ก่อนที่เขาจะสร้างแบรนด์ Nike เองเสียอีก โดยเขาได้เริ่มจากการนำพื้นรองเท้าสองรุ่นของ ASICS มาประกบสอดไส้เข้าไว้ด้วยกัน โดยให้พื้นที่แข็งและทนทานของรองเท้ารุ่นหนึ่งประกบกับแผ่นโฟมที่นุ่มและเด้งกว่าจากรองเท้าอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดเป็น ASICS Cortez แต่ในภายหลังจาก Bill Bowerman แยกตัวมาเปิดบริษัท Nike เป็นของตัวเอง สามารถฟ้องร้องจนได้ลิขสิทธิ์เป็น Nike Cortez ส่วนทาง ASICS ต้องเปลี่ยนไปใช้ชื่อรุ่น Corairs แทน