Entertainment

Songs About Weed : ต้อนรับกัญชาเสรี ด้วยการพี้ผ่านบทเพลง

By: unlockmen June 15, 2022

นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนักเลงสายเนื้อ เมื่อมีการประกาศปลดล็อคกัญชา ที่ทุกคนสามารถปลูกพืชนี้ในครัวเรือนได้อย่างเสรี เรียกได้ว่าตอนนี้หลายคนคงตลบอบอวลไปด้วยควันแห่งความสุขกันอย่างแน่นอน

แต่ในวงการดนตรีแล้ว กัญชากับดนตรี เป็นของคู่กันมานานแสนนาน มาตั้งแต่ยุคสมัยร็อคแอนด์โรลรุ่งเรือง ยันไปถึงยุคของเพลงฮิปฮอป เรียกได้ว่าสมุนไพรนี้เป็นบัดดี้กับดนตรีก็ว่าได้

UNLOCKMEN จึงขอใช้วาระสำคัญนี้ เสนอ 10 บทเพลงเกี่ยวกับกัญชาที่ดีที่สุดมาเล่าสู่กันฟัง


Miley Cyrus, “Dooo It!” (2015)

“ฉันคิดว่ากัญชาคือยาที่ดีที่สุดในโลก” คือคำกล่าวที่ Miley Cyrus ได้บอกไว้เมื่อปี 2013 “แม้ว่าฮอลลีวู้ดจะเป็นเมืองแห่งโคเคน แต่กัญชาคือเดอะเบสต์” Miley หันมาใช้กัญชาบำบัดหลังจากที่เธอตัดสินใจเลิกบุหรี่ มันทำให้เธอรู้สึกอยู่ติดบ้านมากยิ่งขึ้น สาวแซ่บที่ถือกำเนิดมาจากซีรีส์สำหรับเด็กอย่าง Hannah Montana จึงได้อวยยศสมุนไพรนี้อย่างเป็นทางการด้วยเพลง “Dooo It!” ที่ได้ยอดฝีมือจาก The Flaming Lips มาช่วยแต่งในโปรเจกต์ Miley Cyrus & Her Dead Petz ของเธอ ที่เจือด้วยกลิ่นของไซคีเดลลิกเต็มขั้น ผสานด้วยเนื้อเพลงที่เทิดทูนบูชากัญชาด้วยถ้อยคำว่า “Sing about love / Love is what you need / Loving what you sing / And loving smoking weed”


Amy Winehouse, “Addicted” (2006)

แม้ว่า Amy Winehouse จะเคยสารภาพว่า “กัญชาคือสิ่งที่เธอโปรดปรานน้อยที่สุด” (เมื่อเทียบกับสารเสพติดชนิดอื่น ๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Addicted เพลงแถมในอัลบั้ม Back to Black อันแสนคลาสสิคของเธอ ก็นับเป็นบทเพลงของชาวกัญชาที่สุดงดงาม ซาบซึ้ง และล่องลอยเพลงหนึ่งเช่นกัน แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเธอเคยลิ้มลองมัน

“ฉันเคยติดกัญชางอมแงม แต่เมื่อฉันค้นพบสิ่งที่ดีกว่าฉันก็บอกลามัน” ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนเธอได้นั่นคือการติดสุรานั่นเอง น่าเสียดายที่เธอจากไปด้วยพิษสุรา ด้วยปริมาณปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถึงห้าเท่า ทำเอาเราเผลอแอบคิดไม่ได้ว่า หากเธอยังคงติดสมุนไพรอยู่ เราอาจจะไม่สูญเสียศิลปินในตำนานคนนี้ก็เป็นได้


Snoop Dogg, “Gin and Juice” (1993)

หากถึงกัญชาแล้วไม่พูดถึง Snoop Dogg ก็คงเหมือน Batman ที่ขาด Robin เป็นแน่แท้ เพราะ Snoop Dogg ไม่เคยมิบเม้มว่าเขาภักดีกับพืชสมุนไพรนี้สักครั้งเดียว และ Gin and Juice ก็เปรียบเสมือนเพลงชาติของชาวกัญที่เขาบรรจงแต่งมันเพื่ออวยยศพืชสมุนไพรนี้อย่างออกนอกหน้า จนทำให้เพลงนี้กลายเป็นบทเพลงสุดฮิตและบทกวีตาเยิ้มอันชวนล่องลอย โดย Snoop เผยว่าเขามีชื่อเสียงได้ทุกวันนี้นอกจากสไตล์เฉพาะตัวของเขาแล้ว กัญชาก็มีส่วนให้เขามีทุกวันนี้ได้เช่นกัน…พูดจบก็จัดซักซี๊ดนึง


Bob Marley, “Kaya” (1978)

หลังจากอัลบั้ม Exodus อันแสนหนักอึ้งซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องของศาสนา ศรัทธา และการเมือง Bob Marley ก็ตามต่อด้วยอัลบั้ม Kaya อัลบั้มที่สุดผ่อนคลายและแสนสบายของเขา โดยเพลงไตเติ้ลแทร็คชื่อเดียวกับ Kaya นี้ ก็มาจากคำแสลงของชาวจาไมก้าที่เรียกพืชสมุนไพร และอัลบั้มนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ท่ามกลางการต่อสู้อันหนักอึ้งทางอุดมการณ์ทางการเมือง สิ่งที่ผ่อนคลายได้อย่างดีก็คือสมุนไพรสายควันนี้เอง


Neil Young, “Roll Another Number (for the Road)” (1975)

หลังจาก Danny Whitten มือกีตาร์ และ Bruce Berry หัวหน้าฝ่ายแรงงานประจำทัวร์คอนเสิร์ตของวง Crazy Horse จากไปจากการเล่นโคเคนเกินขนาด Neil Young ก็อยู่ในภาวะเศร้าโศกและโดนตราหน้าว่า “เป็นหัวหน้าวงขี้ยาที่พาเพื่อนไปตาย” เขาจมจ่ออยู่กับการดื่มเหล้าอย่างสิ้นหวัง จนกระทั่งมีคนชักพาเขาเข้าสู่วงการกัญชา ทำให้เขาค้นพบแสงสว่าง และ “Roll Another Number” ก็เป็นการขับเลคื่อนชีวิตของเขาอีกครั้งเพื่อบอกว่ากัญชาได้นำพาหลุดพ้นจากหุบเหวแห่งความเศร้าตรม และมันช่วยนำพาชีวิตของเขาค้นพบแสงสว่างแห่งชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ


Black Sabbath, “Sweet Leaf” (1971)

แม้เสียงไอในตอนต้นของ Tony Iommi มือกีตาร์ประจำวงแบงค์สามบาทในตำนานอย่าง Black Sabbath และเนื้อเพลงของ Sweet Leaf จะพูดถึงรักแรกในวัยเยาว์ที่ไม่สมหวัง แต่ริฟท์กีตาร์อันโดดเด่นจนวงรุ่นน้องรุ่นลูกอย่าง Beastie Boys และ Red Hot Chili Peppers ขอเอาไปเป็น Sampling ในเพลง “Rhymin’ and Stealin’ ” “Give It Away” ตามลำดับแล้ว มีหลายคนสังเกตว่า “ใบไม้อันแสนหวาน” นี้ ที่ Ozzy Osbourne นำมาจากยี่ห้อของบุหรี่ในไอร์แลนด์นั้นมันสื่อถึงกัญชาอย่างไม่ต้องสงสัย…ก็ใบไม้ที่ไหนจะหวานเท่ากัญชา ไม่มีหรอกจริงไหม


Bob Dylan, “Rainy Day Women #12 and 35” (1966)

“ผมไม่มีทาง และไม่มีวันที่จะแต่งเพลงเกี่ยวกับยาเสพติด” Bob Dylan เคยกล่าวอย่างแข็งกร้าวกลางคอนเสิร์ตที่เขาเล่นที่รอยัลอัลเบิร์ตฮอลล์ที่กรุงลอนดอนในปี 1966 แต่ถึงกระนั้น เหล่าสาวกสายเขียวก็ยืนยันว่าเพลง “Rainy Day Women #12 and 35” เพลงเอกในอัลบั้ม Blonde on Blonde ที่เคยขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดสูงสุดถึงอันดับที่ 2 นี้ มีนัยยะเกี่ยวข้องกับกัญชาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคำกล่าวอ้างถึงหญิงสาวเปียกฝนนั้นมันคือสแลงของกัญชา และดนตรีเนิบช้าด้วยเครื่องเป่าที่อ่อนละโหยโรยแรง และเสียงประกอบของคนที่ร่าเริงผิดปกติ นั้นมันอาการของคนที่กำลังไฮกัญชาชัด ๆ แต่เทพเจ้าหัวฟูบอกอย่างนั้น ก็เป็นอันเข้าใจนะว่ามันไม่ใช่เพลงเกี่ยวกับกัญชาจริง ๆ


The Beatles, “Got to Get You Into My Life” (1966)

แม้หลายคนจะตีความเพลงของคณะสี่เต่าทองอันแสนสดใสในอัลบั้ม Revolverนี้ เปรียบได้ดั่งความรักของหนุ่มสาว หากแต่ Paul McCartney ก็ให้สัมภาษณ์ในตอนหลังว่า “หลายคนตีความเพลงนี้ผิดกันไปหมด เพลงนี้ไม่ได้พูดถึงความรักสักนิดเดียว เพลงนี้ป๋าอุทิศให้กับการดูดบ้องครั้งแรกต่างหาก” โดย Sir Paul ให้สัมภาษณ์ในปี 1997 ว่า “เราเริ่มต้นอาชีพนักร้องและโด่งดังในเวลาอันสั้น ในตอนนั้นเหล้ายายังเป็นสิ่งที่วัยรุ่นอย่างเรายังหวาดกลัว แต่เมื่อเราได้ลิ้มลองดูดบ้องแล้ว มันพบว่านอกจากมันไม่ติดแล้ว ยังช่วยขยายจินตนาการในการเขียนเพลงของเราให้กว้างไกลอีกด้วย ดังนั้น “สิ่งที่เข้ามาในชีวิตของฉัน” จากชื่อเพลง มันคือกัญชา หาใช่ความรักไม่นะหนู ๆ


Wiz Khalifa, “Still Blazin’” (2010)

“นิทานที่กล่าวขานไม่รู้จบของหญิงสาวและควันกัญชา” คือเนื้อหาของเพลงที่บูชาพืชสมุนไพรนี้อย่างตรงไปตรงมา โดย Wiz Khalifa ใช้จังหวะ Jamaica Afro Beat อธิบายการพันลำและยำเนื้อ เพื่อจะเปลี่ยนเมืองอันแสนจอมปลอมนี้ให้เป็นเมืองแห่งหมอกควันด้วยท่อน “Just get up out my face and lemme roll my weed.” และจังหวะเนิบช้าชวนล่องนี้ก็กลายเป็นเพลงชาติยุคใหม่ของสายเขียวไปในบัดดล


P-Hot ft. F. Hero, ปู่จ๋าน, RachYo, “รำวงในดงชบา” (2020)

ข้ามกลับมาเพลงไทยกันบ้าง แม้ว่าเราจะมีเพลงชาติของสมุนไพรอย่างเพลง “กัญชา” ของคาราบาว เป็นเพลงหลักเวลากล่าวถึง แต่เพลงนั้นก็จงใจพูดถึงพิษร้ายได้ชวนหลอนมากกว่าชวนยิ้ม

จนกระทั่งมีเพลง “รำวงในดงชบา” ของ P-Hot ที่ผสมผสานดนตรีฮิปฮอปแบบไทย ๆ เข้ากับเพลงรำวงสามช่าได้อย่างกลมกลืน โดยเพลงรำวงในดงชบานี้ นอกจากจังหวะดนตรีจะสนุกสนานชวนโยกแล้ว ยังมีเนื้อหาชวนขันที่บอกเล่าบรรยากาศในยุคก่อนกัญชาเสรีได้อย่างน่ารักน่าชังอีกด้วย


 

และนี่คือ 10 เพลงที่บูชากัญชาได้อย่างยอดเยี่ยมอมตะนิรันดร์กาล แต่ถึงแม้ว่ากฎหมายจะเสรีกัญชาแล้ว แต่กัญชาก็ไม่ต่างกับเหล้ายาที่เราเองต้องใช้สติในการเสพย์แบบพอประมาณ เอาแค่ครึ้ม ๆ ก็พอนะจ๊ะ

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line