Life

SPARTAN MINDSET: วิธีปลดล็อกสัญชาตญาณนักรบ พร้อมชนทุกปัญหา เพื่อชีวิตและหน้าที่การงานที่ดีขึ้น

By: unlockmen August 26, 2021

หลายคนน่าจะเคยดูหนังชีวิตของนักรบสปาตันอันน่าเกรงขาม ความแข็งแกร่ง ความมีระเบียบวินัยของพวกเขาในช่วงยุคกรีก แม้ปัจจุบันนักรบ Spartan จะกลายเป็นตำนานไปแล้ว แต่วิถีชีวิตและแนวคิดของพวกเขา ก็ยังมีแง่มุมที่สามารถนำมาปรับใช้กับผู้ชายในยุคปัจจุบันได้อยู่เหมือนกัน

ในบทความนี้เรามีวิธีการนำ Spartan Mindset การปลดล็อกเลือดนักรบที่พร้อมปะทะทุกปัญหาและความท้าทายอย่างลูกผู้ชาย มาใช้ในการพัฒนาตัวเอง เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตและหน้าที่การงานในยุคที่แสนจะยากเย็น

 

ฝึกฝนทักษะเพียงหนึ่งจนเชี่ยวชาญ

สมัยนี้เราเห็นกลุ่มคนที่เป็น ‘เป็ด’ มากขึ้น เป็ดคือการสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง แต่อาจจะไม่เก่งสักอย่าง หรือ เก่งแบบไม่สุดสักด้าน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร หลายคนก็ประสบความสำเร็จได้แม้จะเก่งแบบเป็ดก็ตาม

ในยุคกรีก เราอาจไม่เห็นคนกลุ่มนี้มากนัก เพราะชาวสปาตันมักจะฝึกฝนทักษะการทำงานหลักของตัวเองจนเกิดความเชี่ยวชาญสูงสุด แม้ว่าคนที่มีอาชีพอื่น เช่น กวี นักดนตรี พ่อค้า หรือ นักปรัชญา จะต้องฝึกต่อสู้เพื่อป้องกันเมืองในยามฉุกเฉิน แต่ก็เทียบไม่ได้กับเหล่านักรบสปาตันที่ทุ่มเทให้กับการฝึกฝนทักษะการต่อสู้อย่างหนักเพียงอย่างเดียวเป็นเวลาหลายสิบปี การทำสงครามกลายเป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของพวกเขา และเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด นักรบสปาตันจึงมีประสบการณ์การทำสงครามมากกว่าใคร

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรพัฒนาทักษะในการทำงานและการใช้ชีวิตไปทีละอย่าง ฝึกสกิลทีละด้านอย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่ลองสัมผัสเพียงผิว ๆ แล้วก็เปลี่ยนทางโดยยังไม่เข้าถึงแก่นกลางของสกิลใด ๆ เลย สุดท้ายก็เสียเวลาผ่านไปเปล่า ๆ อย่างไร้ประโยชน์

เราควรจะพัฒนาสกิลด้านใดด้านหนึ่งจนถึงที่สุดก่อน ทักษะด้านนั้นจึงจะกลายเป็นความโดดเด่นที่เรามีเหนือกว่าใคร ซึ่งจะทำให้เราได้เปรียบและเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานมากขึ้นอีกด้วย


ควบคุมอารมณ์ให้เป็น

การอุทิศตัวเองให้กับวิถีแห่งนักรบ ส่งผลให้เหล่านักรบสปาตันต่อสู้กับศัตรูได้อย่างสุดความสามารถ

ถ้าย้อนกลับไปดูเรื่องราวในอดีต ยุทธการที่เทอร์มอพิลี (Battle of Thermopylae) ซึ่งนักรบสปาตันจำนวน 300 คน สามารถรับมือกับสุดยอดนักรบเปอร์เซียจำนวนหลายพันคนที่เข้ารุกรานกรีกผ่านช่องเขาขนาดเล็กได้อย่างน่ามหัศจรรย์

ถ้าเป็นคนปกติ การเผชิญหน้ากับกองกำลังศัตรูจำนวนมากขนาดนั้นด้วยจำนวนคนอันน้อยนิดย่อมทำให้เสียขวัญกันบ้าง แต่เหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้นกับนักรบสปาตันที่สามารถต่อสู้กับผู้รุกรานได้อย่างใจเย็นและบ้าระห่ำ สามารถตัดกำลังของฝ่ายศัตรูไปได้มากมายมหาศาล ช่วยซื้อเวลาให้ทัพเรือกรีกขับไล่กองทัพเปอร์เซียออกจากกรีกไปได้สำเร็จในที่สุด

การต่อสู้ตามแบบที่ฝึกฝนมาจนเป็นนิสัย ถือเป็นเรื่องที่อยู่ในสายเลือดของเหล่านักรบสปาตันทั้งมวล มันช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเอง สามารถเผชิญหน้ากับศัตรูได้อย่างกล้าหาญ การฝึกฝนที่มากพอจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นแม้ในยามวิกฤต เพราะฉะนั้นการฝึกฝนเพื่อพัฒนาสกิลความสามารถของตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เปรียบในทุกสถานการณ์


อย่าสูญเสียความหวัง

ในยุทธการที่เทอร์มอพิลี (Battle of Thermopylae) แม้นักรบสปาตันจะยอมตายเพื่อประเทศชาติของตัวเอง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สู้ด้วยความคิดที่ว่าพวกเขาจะต้องตาย

กลับกัน พวกเขาใช้ความปรารถนาที่อยากจะกลับไปหาครอบครัวและมีชีวิตอยู่ต่อไป เป็นแรงขับเคลื่อนในการทำสงคราม พวกเขาต่อสู้ด้วยความคิดที่เชื่อว่าจะต้องได้รับชัยชนะเท่านั้น ไม่มีความคิดที่จะถอยหนีหรือพ่ายแพ้อยู่ในหัวของพวกเขาเลย ความปรารถนาอันแรงกล้า การฝึกฝนการทำสงครามอย่างหนักหน่วงมากกว่ากองทัพใดในโลก ทำให้พวกเขามีพลังในการต่อสู้อย่างไม่ลังเล

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาทำธุรกิจ เราจึงไม่ควรเสียเวลาไปคิดหาทางลัดสู่ความสำเร็จ หรือวิตกกังวลกับผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจของเรามากเกินไป เราควรทุ่มเทให้กับความรู้ความสามารถ การพัฒนาทักษะการทำธุรกิจอย่างจริงจัง จนเกิดความเชี่ยวชาญ จากนั้นจึงค่อยเดินหน้าลงทุนให้กับธุรกิจของตัวเอง เพื่อไม่ให้เราคิดฟุ้งซ่าน และสามารถลงมือพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้ในที่สุด


ฝึกฝนความอดทน

นอกจากการฝึกฝนอย่างหนัก ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ และความปรารถนาอันแรงกล้าแล้ว ความอดทนก็ถือเป็นลักษณะสำคัญของนักรบสปาตันและกองกำลังที่เราเห็นในปัจจุบัน

นักรบสปาตันต้องผ่านการฝึกฝนความอดทนมามากมาย จนพวกเขาสามารถปรับตัว สร้างความทนทานที่ดีเยี่ยมต่อความเจ็บปวดและการเปลี่ยนแปลง หน่วยซีลเองก็มีช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนที่เรียกว่า ‘สัปดาห์นรก’ (Hell Week) เช่นกัน พวกเขาต้องไม่นอนหลับเป็นเวลา 5 วันครึ่ง แถมยังต้องเอาตัวไปกลิ้งกับทรายจนเม็ดทรายปกคลุมทั่วทั้งตัว ไม่เว้นแม้แต่เปลือกตา หากพวกเขาไม่มีทรายติดตัวทุกซอกทุกมุม ก็จะถูกผู้ฝึกลงโทษ

การฝึกฝนความอดทนเป็นการสร้างนิสัยให้โฟกัสที่ผลลัพธ์ของภารกิจ มากกว่าความเครียดหรือความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นชั่วคราว ซึ่งเป็นสภาพจิตใจที่เหมาะสมกับช่วงสงครามที่เหล่าทหารต้องเจอกับอันตรายถึงชีวิตมากมาย

ในด้านการทำธุรกิจเราก็ต้องเจอกับปัญหาและความเครียดมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการโดนสั่งรื้อทั้งโปรเจค จำนวนงานที่มาก กับ deadline ที่คอยบีบหัวใจ แม้มันจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่การฝึกฝนความอดทน และการมองเห็นเป้าหมายและความรับผิดชอบของตัวเองที่ชัดเจน ก็สามารถช่วยให้เรารับมือกับความกดดันได้ดีขึ้นแน่นอน


พูดน้อยแต่มาก

ภาษาพูดของนักรบสปาตันมักสั้นกระชับ และเรียบง่าย ยกตัวอย่างเช่น ตำนานของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย ได้ส่งข้อความไปหาเหล่านักรบสปาตันว่า“ถ้าเราเข้าเขตลาโคเนีย เราจะกำจัดพวกสปาตันให้สิ้น” แต่เหล่าสปาตันตอบกลับข้อความนี้ด้วยคำเดียวเท่านั้น คือ “ถ้า”

การพูดสไตล์มินิมอลตามแบบฉบับของนักรบสปาตันนั้น นักปรัชญาโบราณอย่าง โสกราตีส มองว่าเป็นกลยุทธ์ในการปกปิดความฉลาดของพวกเขา และเป็นการทำให้ศัตรูประเมินความสามารถของพวกเขาต่ำกว่าความเป็นจริงอีกด้วย เพราะการพูดน้อยทำให้พวกเขาดูโง่เขลาในสายตาของศัตรู ทำให้ศัตรูประมาท เมื่อศัตรูเปิดช่องว่างเมื่อไหร่ พวกเขาก็สามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การพูดน้อยยังเป็นแสดงให้เห็นถึงการคิดก่อนพูด และการพูดอย่างตรงประเด็น ซึ่งเป็นทักษะที่ผู้นำ และนักธุรกิจควรมี เพราะมันจะช่วยให้การสื่อสาร และการเจรจาทางธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกฝนทักษะ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ การรักษาความหวัง ความอดทน รวมถึงการพูดเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ล้วนเป็นทักษะที่ผู้ชายทุกคนควรมีติดตัวเอาไว้ เพราะมันจะทำให้เราเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันแค่ไหนก็ตาม


 

Appendix: 1 / 2

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line