อะไรจะร้อนเท่าถ่านไฟเก่า! ฟังคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ เราควรเป็นเพื่อนกับแฟนเก่ามั้ย ?​

ความสัมพันธ์ของคู่รักเมื่อมันจบลง ปัญหามันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ความเสียใจที่ต้องเสียอีกฝ่าย หรือเสียความรักไป แต่มันยังมีปัญหาอีกมากมายที่ตั้งด่านรอเราอยู่ข้างหน้า หนึ่งในนั้นคือ “เราควรเป็นเพื่อนกับแฟนเก่ามั้ย ?” บางคนแค่อ่านก็จุกแล้ว เพราะมันคือปัญหาโลกแตกที่เราไม่อาจแก้ไขมันได้โดยมาตรฐานเดียวกัน ลองนับแค่ตัวเราเอง ลองมองย้อนกลับไปถึงความรักที่ผ่านมา บางคนเรายินดีที่จะเป็นเพื่อนแบบสนิทใจ ยินดีช่วยเหลือ ยินดีพูดคุยให้คำปรึกษา แต่กลับบางคน แค่พูดถึงเรายังไม่อยากเอ่ยชื่อออกมาด้วยซ้ำ นั่นแหละทำให้เราสับสนว่าจริง ๆ แล้วพอย้ายไปอยู่ในสถานะ “แฟนเก่า” แล้ว เราจำเป็นจะต้องเป็นเพื่อนกันอยู่อีกมั้ย ถ้ายังอยากเป็น เราต้องทำตัวยังไง มันมีเส้นบาง ๆ อยู่แค่ไหน

คิดเองไปก็ปวดหัว หนักใจไม่พอยังหนักสมองอีก UNLOCKMEN อยากให้ฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง Rachel Sussman นักวิตวิทยาจาก New York จะมาแนะนำสำหรับคนที่ยังอยากเก็บความสัมพันธ์แบบเพื่อนจริง ๆ ไว้ แต่เขาบอกดักคอเราไว้แล้วว่าอาจทำไม่ได้ทุกคน เพราะมันขึ้นอยู่กับท่าทีของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย เอาเป็นว่ายังไงก็ลองดูไว้เป็นไกด์ให้ตัวเอง ในวันที่หัวใจมันไม่แข็งแรงเอาซะเลย

จะเพื่อนหรือฐานะอะไรก็ไม่เป็นทั้งนั้น!

เมื่อความสัมพันธ์จบลง การเอ่ยปากทำนองว่าไม่มีอะไรจะคุยแล้ว มันเป็นมลพิษทางอารมณ์และความรู้สึกต่อการเป็นเพื่อนกันมาก ๆ แน่นอนว่า พออยู่ในช่วงที่ยังทำใจไม่ได้ อาการหัวเสียมันจะโผล่ถ้ายังอยากให้ความสัมพันธ์มันเป็นปกติ ต้องคิดแล้วคิดอีกเลยล่ะ จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 200 คน พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างแฟนเก่าส่วนมากจะค่อนไปทางติดลบ และมันจะชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าคู่รักคู่นั้น ไม่ใช่คู่ที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน 

Sussman กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “ถ้าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทั้งเรื่องความสนิทและความรัก เราจะกลายมาเป็นเพื่อนกันได้ยังไงล่ะ  Chemistry มันไม่มีทางเปลี่ยนอยู่แล้ว และข้อเสียของการเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า คือ คุณจะติดเอาความรู้สึกเก่า ๆ ไปด้วยในตอนที่เริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่”  

“ถ้าหากเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่ไปแล้ว แล้วคุณไปบอกแฟนของคุณว่า นี่ไง แฟนเก่าผมเอง เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมเลยล่ะ มันดูยุ่งยากเอามาก ๆ และอีกฝ่ายคงไม่ได้รู้สึกยินดีนักที่จะเห็นแฟนเก่าอยู่เคียงข้างคุณเสมอในฐานะเพื่อนสนิท”

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากเลย เพราะความเป็นเพื่อนมันคงไม่เริ่มต้นจากความโรแมนติกในความสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นแน่นอน จากเพื่อนไปเป็นแฟน อันนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่พอเป็นแฟนแล้วกลับไปเป็นเพื่อน 

ถามตัวเองให้ดีก่อนว่าเราจะทำแบบนั้นได้จริง ๆ มั้ย เราจะไม่นึกถึงที่ที่เคยไปด้วยกัน ไม่เผลอมองเห็นเขาในฐานะแฟน ไม่มองเห็นอดีตในตัวเขา ไม่เผลอทำอะไรเกินเลยเมื่ออยู่ใกล้กันได้มั้ย นอกจากจะคิดถึงจากมุมของตัวเองแล้ว ลองมองเผื่อนาคตอีกหน่อย ถ้าคุณยังติดต่อกับแฟนเก่าอยู่เสมอ แล้วแฟนใหม่ของคุณจะคิดยังไง

เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ

บางครั้งไม่ใช่เราเองหรอกที่อยากจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า แต่อะไรหลาย ๆ อย่างมันบังคับ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนรอบข้าง หรือแม้แต่การแต่งงาน มีลูก มีครอบครัว แต่ถ้าหากมันไปไม่รอด เราก็ยังต้องอยู่ในฐานะพ่อแม่อีกอยู่ดี การหลีกเลี่ยงไม่เจอหน้ากันเลย มันคงเป็นเรื่องยากอีกนั่นแหละ 

Sussman เองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ คู่ที่หย่าร้างกันโดยที่มีลูกด้วยกันแล้ว ควรจะเก็บเอาวันเวลาดี ๆ เอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้มันจะเป็นเรื่องยากก็ตาม แต่มันจะส่งผลดีกับลูก ๆ มากที่สุด 

ทำยังไงถึงจะเป็นเพื่อนได้สนิทใจ ?

ถ้าตัดสินใจจะเป็นเพื่อนกันจริง ๆ แล้วล่ะก็ Sussman แนะนำให้ทั้งคู่ห่างกันจริง ๆ ชนิดที่ว่าไม่ติดต่อกันสักพัก แล้วค่อยกลับมาพูดคุยกันในช่วงที่ทั้งคู่พอจะทำใจได้แล้ว นั่นเป็นทางออกที่ทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันได้จริง ๆ เธอกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “เวลาจะช่วยเยียวยา หลายสิ่งที่อยู่ข้างในมันจะหายไปตามเวลาเอง”

ที่บอกให้ห่างกันนั้น นั่นไม่ได้หมายถึงแค่ในชีวิตจริงเท่านั้น แต่ยังหมายถึง Social Media อีกด้วย “ฉันแนะนำให้ทั้งคู่ unfollow หรือ unfriend กันและกันสักพักหลังเลิกกัน” Sussman แนะนำในเรื่องนี้ “นั่นเป็นเพราะคุณจะเอาแต่เช็ก Instagram ของอีกฝ่าย ว่าชีวิตของเขาเป็นอย่างไรเมื่อไม่มีคุณ จนคุณไม่มีเวลาเหลือให้ทำใจได้เลย”

นั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะก่อนอื่นที่จะมาเป็นเพื่อนกัน (ถ้าต้องการ) ก่อนอื่นต้องทำใจให้ได้ก่อน การที่เราจะก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราก็ต้องเลิกร้องไห้ฟูมฟายถึงวันเก่า ๆ ซะก่อน ให้เวลากับตัวเอง ใช้เวลากับตัวเองให้มาก ๆ แล้วเราอาจจะเข้าใจปัญหานี้มากขึ้น มองเห็นทางออกได้ไวขึ้น เมื่อทำใจได้แล้ว การกลับมาคุยในฐานะเพื่อน แบบไม่ลากดราม่าด้วยอารมณ์ มันจะทำให้เราสามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้แบบไม่แอบด่ากันอยู่ในใจ

แต่พอเป็นเพื่อนกันแล้วขอบเขตคืออีกเรื่องสำคัญ เขาต้องเป็นเพือนในฐานะเพื่อนจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อนคนสนิท คนพิเศษ ที่คุณจะต้องดูแลหรือปฏิบัติตัวเป็นพิเศษเพราะลึก ๆ แล้วคุณรู้อยู่แก่ใจว่าเขาคือแฟนเก่า ทำตัวให้ปกติเหมือนที่คุณทำกับเพื่อนคนอื่นแบบนั้นเวิร์คกว่ากันเยอะ 

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่ สิ่งสำคัญคือการก้าวเดินต่อไปแม้ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาจะจบลง เสียใจได้ แต่อย่าจมอยู่กับมันตลอดไป ชีวิตเราไม่ได้ยาวพอที่จะนั่งจมอยู่กับเรื่องที่ไม่อาจหวนคืนมาหาเรา เข้มแข็งไว้หนุ่ม ๆ นี่ไม่ใช่โอกาสสุดท้ายของเราซะหน่อย

SOURCE