World

“มนุษย์สูญพันธุ์ โลกอยู่ไม่ได้ เราต้องย้ายไปดาวอื่น”สตีเฟน ฮอว์คิง เตือนไว้ก่อนไวรัสบุก

By: PSYCAT March 27, 2020

“ถ้าอยากให้มวลมนุษยชาติมีชีวิตรอด เราคงต้องย้ายไปดาวดวงอื่น” ถ้าคุณได้ยินคำพูดทำนองนี้เมื่อ 3 ปีก่อน คุณอาจคิดว่าใครคนนั้นกำลังเขียนนิยาย Sci-Fi พล็อตว่าด้วยหายนะล้างโลก หรือไม่ใครคนนั้นก็อาจเสียสติไปแล้วแน่ ๆ แต่เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากสตีเฟน ฮอว์คิง (Stephen Hawking) ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นักฟิสิกส์ทฤษฎี และนักจักรวาลวิทยา ก็อาจพอกระทุ้งให้ผู้คนหยุดฟังบ้าง

แต่ท้ายที่สุดความคิดที่ว่ามวลมนุษยชาติจะสูญพันธุ์ โลกจะถึงกาลอวสาน จนเราต้องหาอาณานิคมใหม่บนดาวสักดวงในเวิ้งอวกาศก็ดูเป็นเรื่องไกลตัวเราอยู่ดี

อย่างไรก็ตามเมื่อปี 2020 เดินทางมาถึงพร้อมวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดไปทั่วโลกก็ทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึงคำพูดของนักฟิสิกส์ผู้ล่วงลับ โดยครั้งหนึ่งเขาเคยพูดถึงการสูญพันธุ์ของมวลมนุษยชาติด้วยหลายสาเหตุ และหนึ่งในสาเหตุนั้นคือ “ไวรัส”

“ผมเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะถูกกวาดล้างจนสูญพันธุ์ ทั้งจากสงครามนิวเคลียร์ หรือจากไวรัสที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม มนุษยชาตินั้นคงสิ้นอนาคต ถ้าเราไม่ออกไปสู่ห้วงอวกาศ”

นอกจากนั้นเขายังเคยกล่าวไว้ว่าหายนะที่จะกวาดล้างมวลมนุษยชาติ ยังมีอีกหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การโจมตีจากดาวเคราะห์น้อย รวมถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรโลกของเองที่เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงการคุกคามจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ความเป็นนักฟิสิกส์ นักจักรวาลวิทยาและความสงสัยใคร่รู้ของเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่งทำให้เขาครุ่นคิดถึงเรื่องอนาคตของมวลมนุษยชาติอยู่บ่อย ๆ สตีเฟน ฮอว์คิงขึ้นพูดใน Starmus Festival ที่ประเทศนอร์เวย์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017 เรื่องอนาคตของมวลมนุษยชาติเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ

“พื้นที่บนโลกใบนี้กำลังร่อยหรอลงทุกที ๆ และที่ที่เราจะไปได้คือดาวดวงอื่น มันถึงเวลาที่เราจะต้องออกไปสำรวจระบบสุริยะอื่น ๆ การกระจายกันอยู่อาจเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยมนุษย์ให้พ้นภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง ดังนั้นผมเชื่อว่ามนุษย์ต้องออกจากโลกใบนี้”

ขณะนั้นฮอว์คิงเรียกร้องให้นานาชาติ ส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ภายในปี 2020 และไปดาวอังคารภายในปี 2025 เขาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าตอนที่มนุษย์ฝากรอยเท้าไว้บนดวงจันทร์ครั้งนั้นบรรยากาศการออกสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ในอวกาศช่างน่าตื่นเต้น เขามองว่าเราต้องปลุกให้ภารกิจการสำรวจอวกาศนั้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

“มวลมนุษยชาติจะสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ด้วยการไปถึงเป้าหมายเดียวกัน” เขากล่าวย้ำ

“Stephen Hawking: Expedition New Earth” สารคดีที่ออกฉายในปี 2017 ว่าด้วยคำทำนายหรือคำเตือนของเขาเกี่ยวกับกาลอวสารของโลกใบนี้ เขาระบุว่าเราอาจไม่ได้มีเวลาเหลือมากมายอย่างที่เราเคยเชื่อมาก่อน มวลมนุษยชาติอาจเหลือเวลาอีกเพียง 100 ปีเท่านั้นที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการย้ายไปยังดาวดวงอื่น

แม้ก่อนหน้านั้นตัวเขาเองจะเคยพูดเอาไว้ว่ามนุษย์อาจมีเวลาเตรียมตัว 1,000 ปี แต่ในปี 2017 ตัวเลขลดลงมา โดยเวลาลดลงถึง 10 เท่า

Dr Stephen Hawking Physics professor and author at Cambridge University. 1st September 1988. (Photo by Brian Randle/Mirrorpix/Getty Images)

“เมื่อเวลาแห่งภัยพิบัตินั้นมาถึง เราควรกระจายกันออกไปในอวกาศและไปยังดวงดาวอื่นเพื่อไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องสิ้นสุดของ”

“อย่างไรก็ตามเราคงไม่อาจสร้างอาณานิคมที่ค้ำจุนตัวเองในอวกาศได้ภายในหนึ่งร้อยปีนี้ ดังนั้นในช่วงเวลาต่อจากนี้ เราควรใช้ชีวิตโดยระมัดระวังเป็นอย่างมาก”

ฮอว์คิงไม่ใช่คนเดียวในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ออกมาพูดเรื่องนี้ Elon Musk มหาเศรษฐีและ CEO ชื่อดังของโลกเองก็ออกมาเตือนเรื่องภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติเช่นกัน โดยก่อนที่ฮอว์คิงจะลาโลกนี้ไปตัวเขาเองก็มีส่วนสำคัญในโครงการ ‘Breakthrough Starshot’ ที่จับมือกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ​และเศรษฐีชาวรัสเซียเพื่อสร้างยานสำรวจอวกาศขนาดเล็กจิ๋วที่สามารถย่นระยะเวลาเดินทางในอวกาศได้

สตีเฟน ฮอว์คิง เสียชีวิตลงเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2018 เขาไม่ได้อยู่ทันเห็นวันที่โลกถูกวิกฤตไวรัสคุกคามครั้งใหญ่ และใครหลายคนที่เคยฟังเขาผ่าน ๆ เพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่พูดลงมาจากหอคอยงาช้าง จึงมองว่าคำพูดเขาจับต้องอะไรไม่ได้

อย่างน้อยที่สุดสิ่งเขาเตือนไว้คือการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเกิดจากปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อม ๆ กับที่หาหนทางใหม่ ๆ ที่จะมีชีวิตรอดต่อไปในกรณีที่โลกใบนี้นั้นพินาศย่อยยับเกินจะเยียวยา เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ของเราไว้

ในหนังสือเล่มสุดท้ายของฮอว์คิง Brief Answers To The Big Questions มีประโยคสั้น ๆ แต่ได้ใจความที่เขาตอบคำถามเรื่องอนาคตเอาไว้ ประโยคที่ว่าคือ “เชิดหน้ามองท้องฟ้า อย่ามัวแต่ก้มหน้าอย่างเดียว” ประโยคนี้อาจไม่ได้หมายความแค่ว่า อนาคตของเราอยู่บนฟากฟ้าอันไกลโพ้น ไม่ได้อยู่แค่ผืนดินบนดาวเคราะห์ที่เราเหยียบเท่านั้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้การแหงนหน้ามองฟ้าก็อาจหมายถึงการอย่าหมดหวังด้วยเช่นกัน…

SOURCE: 1, 23, 4

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line