CARS

“History of Skyline” เปิดตำนานเส้นขอบฟ้า ยอดยนตกรรมที่ได้ชื่อว่า ‘ครบเครื่อง’ ที่สุดรุ่นนึงในโลก

By: HYENA October 27, 2016

Nissan Skyline GT-R  ถือว่าเป็นรถสายพันธุ์ดุจากแดนปลาดิบที่ผู้ชายส่วนมากรู้จัก และอยากได้มาครอบครองกันทั้งนั้น เนื่องจาก  Nissan Skyline GT-R  ถูกยกให้เป็นรถที่ครบเครื่องมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์, ความแรง, สมรรถนะในการขับขี่ และรูปทรงที่สวยงามดุดันน่าเกรงขามมัดรวมเอาไว้อยู่ในรถยนตร์เพียงคันเดียว

161027-nissan-skyline-13

Nissan Skyline เดิมทีเป็นรถยนต์ขนาดกลางของ Nissan ซึ่งมีการผลิตครั้งแรกในปี 1957 โดยบริษัท Prince Motor (ในภายหลังถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับบริษัท Nissan ในอีก 9 ปี ต่อมา) โดย Skyline จะถูกเรียกอีกชื่อนึงว่า Infiniti สำหรับในแถบอเมริกาเหนือ Nissan Skyline เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงขับเคลื่อนล้อหลัง ที่มีการผลิตมาอย่างยาวนานถึง 13 Generations  กันเลยทีเดียว

เมื่อพูดถึง  Skyline  หลายคนอาจะจะนึกถึงเครื่องยนต์ 6 สูบ ตระกูล RB ที่โด่งดังขึ้นมาทันที แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? จริงๆ แล้ว  Skyline  ไม่ใช่รถจากแบรนด์ Nissan เสมอไป และไม่จำเป็นว่า  Skyline  จะเป็น  GT-R  ทุกคัน ฉะนั้นเรามาดูข้อมูล และรายละเอียดของ Skyline ในแต่ละ Gen แบบคร่าวๆ กันเลยดีกว่า

161027-nissan-skyline-11

1st Generation (1957-1963)

Skyline 1st Generation คันนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 1957 แต่ทว่า Skyline คันนี้ ไม่ได้ถูกผลิตภายใต้ชื่อของ  Nissan  แต่เป็นแบรนด์  Prince Motor  โดยมีรหัสโฉมนี้ว่า ALSI-1 ใช้เครื่องยนต์ 60 แรงม้า 1,482 cc และมีน้ำหนักตัวรถเพียง 1,300 กิโลกรัมเท่านั้น ตัวถังถูกออกแบบมาให้เลือกถึง 2 แบบก็คือแบบ Sedan 4 ประตู และแบบ Wagon 5 ประตู ต่อมาได้มีการไมเนอร์เชนจ์โดยมีรหัส ALSI-2 อัพเกรดเครื่องยนต์เป็น GA-4 ขนาด 1,484 cc 70 แรงม้า นอกจากนี้ยังเป็น Skyline ที่มีตัวถัง 2 ประตูรุ่นแรกออกมาให้ได้เลือกซื้อกันในรหัส BLRA-3 อีกด้วย

161027-nissan-skyline-10

2nd Generation (1963-1968)

มาถึง Gen นี้ Skyline ก็ยังคงถูกผลิตภายใต้แบรนด์  Prince Motor  อยู่ โดยใช้มีรหัสโฉมนี้ก็คือ S50 ซึ่งในปีต่อมาได้ออกตัว 2 ประตู รหัส  S54 Skyline  ซึ่งโฉมนี้ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามพอๆ กับ Porsche 904 เลยทีเดียว จนกระทั่งในปี 1967 มีการไมเนอร์เชนจ์อีกครั้งเป็นรหัส S57  เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 1,487 cc ที่สามารถผลิตแรงม้าได้ถึง 88 แรงม้า นับว่าเป็นรถญี่ปุ่นในรุ่นไม่เกิน 1,500 cc ที่แรงที่สุดในขณะนั้น

161027-nissan-skyline-7

3rd Generation (1968-1972)

รุ่นนี้มีชื่อโฉมอย่างเป็นทางการว่า C10 และยังใช้คำว่า GT-R และ GT-X ออกมาเป็นครั้งแรก โดยมีเครื่องยนต์ที่อัพเกรดกระโดดไปไกลเป็น 1,958 cc และถือว่าเป็นรถยนต์ประเภท  sports car  อย่างเต็มตัว ชื่อของ Skyline เริ่มเข้าไปสู่ตลาดรถสปอร์ต และรถหรู ต่างจากรถครอบครัวแบบใน 2nd Generation ก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ทำให้ Skyline โฉมนี้โกยยอดขายไปได้มากถึง 310,447 คัน พุ่งสูงกว่าเดิมเกือบ 2 แสน คันเลยทีเดียว

161027-nissan-skyline-8

4th Generation (1972-1977)

โฉมนี้ใช้ชื่อว่า C110 และได้เปลี่ยนผู้ผลิตจาก Prince มาเป็น Datsun แทน คนทั่วไปจะรู้จักมันในชื่อ Datsun K-Series และยังมีรุ่น GT-R ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่สุดออกมา ทำให้ C110 กลายเป็น Skyline โฉมที่ขายดีมากที่สุดตั้งแต่มีการเปิดตัว Skyline มา โดยกวาดยอดขายไปที่ 670,562 คัน นั่นทำให้ทางผู้ผลิตเริ่มที่จะเข้าใจแล้วว่า ผู้บริโภค Skyline นั้นต้องการจะเห็นมันพัฒนาไปในทิศทางไหน

161027-nissan-skyline-9

5th Generation (1977-1981)

มาถึงใน Generation ที่ 5 โดยมีชื่อโฉมว่า C210 ในคราวนี้ได้มีการพัฒนาทั้งโครงสร้าง และเครื่องยนต์ให้แตกต่างออกไปจากเดิม โดยทางผู้ผลิตได้ออกแบบให้ Skyline มีฝากระโปรงหน้าที่ยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อที่จะยัดขุมกำลังใหม่ซึ่งเป็นแบบ 6 สูบเรียง เข้าไปแทนที่ นอกจากนี้ยังมีการผลิตรุ่นย่อยออกมาชื่อว่า GT-EX  ที่มีการเอาระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์เข้ามาติดตั้งเพื่อเรียกแรงม้าให้มากขึ้น แต่ทว่าใน Generation ที่ 5 นี้กลับไม่มีรุ่น GT-R ออกมาให้แฟนๆ ได้เป็นเจ้าของกันแต่อย่างใด

161027-nissan-skyline-4

6th Generation (1981-1985)

เป็นจุดเริ่มต้นความระห่ำของรหัส R เลยก็ว่าได้ โดย Generation ที่ 6 นี้ เปิดตัวมาพร้อมกับชื่อใหม่ในนาม Nissan พร้อมทั้งสร้างรหัสขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็คือ Nissan Skyline R30 แถมยังเป็นโฉมเดียวในตระกลู R ที่มีการทำตัวถังแบบ Hatchback 5 ประตูออกมาด้วย ถึงแม้ว่า R30 จะไม่มีรหัสตัวแรงอย่าง GT-R แต่มันก็มีรุ่นพิเศษที่มีความแตกต่างจากรุ่น R30 ปกติทั่วไป นั่นก็คือ รุ่น Paul Newman Version ซึ่งออกมาเพื่อเป็นรุ่นที่ทำให้ระลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Nissan กับ Paul Newman ผู้กำกับ และนักแสดงชื่อดังในเวลานั้น เพราะ Paul Newman มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการขายของ Nissan มาอย่างยาวนาน โดยรถ Skyline รุ่น Paul Newman นี้ จะมีลายเซ็นของ Paul Newman บนกระโปรงหน้ารถ และยังเป็นที่ต้องการของนักสะสมจากทั่วโลกในปัจจุบันอย่างมากอีกด้วย

161027-nissan-skyline-2

7th Generation (1985-1989)

มาถึงโฉมที่ 7 ซึ่งถือว่าเป็นโฉมที่ทำให้หลายๆ คนเริ่มที่จะเหลียวมอง Skyline กันชนิดที่คอแทบเคล็ด มันมีรหัสว่า R31 ซึ่งใน R31 นี่เองที่ทาง Nissan ได้ทำการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายมาใส่เอาไว้ นอกจากนี้รูปลักษณ์ภายนอกยังมีความแตกต่างจาก Generation ที่ 6 อยู่ไม่น้อย และในรุ่นนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องยนต์สุดคลั่งตระกูล RB แต่ถึงอย่างไรก็ดี ทาง Nissan ก็ยังไม่ได้ปล่อยรหัสตัวแรง อย่าง GT-R ออกมา นอกจากนี้ Skyline ยังเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนในรุ่นนี้ใหม่ จากเดิมที่เป็นแบบ 2 ล้อหลังมาโดยตลอด ให้กลายเป็นขับ 4 ตลอดเวลา มาจนถึงในปัจจุบัน

161027-nissan-skyline-3

8th Generation (1989-1994)

และรุ่นนี้เองที่เป็นที่มาของฉายา Godzilla Nissan Skyline R32 นี้มี 2 รุ่นสำคัญแยกกันออกมาได้แก่ Nissan Skyline GT-S R32 เครื่องยนต์ RB20DET กับตัวโหดของแท้นั่นก็คือ Nissan Skyline GT-R R32 (BNR32) ที่ใช้เครื่องยนต์ RB26DETT โดย GT-R R32 นี่เองถือว่าเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของรหัส GT-R หลังจากที่ไม่มีการผลิตออกมาตั้งแต่ใน Generation ที่ 4

Skyline GT-R  R32 กวาดรางวัลในสนามแข่งมากมาย โดยแบ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในญี่ปุ่น 29 รางวัล อีกทั้งยังชนะเลิศรายการ Super GT อีก 2 ปีซ้อน นอกจากนี้ GT-R R32 ยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปบี้คู่แข่งถึงประเทศ Australia ในรายการ Australia Touring อีก 3 ปี ติดต่อกันชนิดไม่แบ่งรางวัลให้ใครเลย ทำให้สื่อต่างชาติเปรียบ GT-R R32 เป็นเหมือน Godzilla สัตว์ประหลาดจากแดนอาทิตย์อุทัยที่บุกขึ้นฝั่งทำลายเมืองฝั่งตะวันตกจนราบคาบ

161027-nissan-skyline-1

9th Generation (1994-1998)

หลังจาก Nissan Skyline GT-R R32 ได้ออกอาละวาทกวาดแชมป์ไปทั่ว จนทำให้คนต่างจับตามอง และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีไปทั่วโลกแล้ว Nissan ก็ได้เวลาปล่อย Skyline Generation ที่ 9 ออกมาตอกย้ำความแรงกันทันทีในปี 1994 โดยมีรหัสว่า R33 และเช่นเคย Nissan ได้ผลิตออกมา 2 รุ่นให้ได้เลือกสรรกันอีกตามเคย นั่นก็คือ Nissan Skyline GT-S R33 เครื่องยนต์ RB25DETT เรียกว่าเป็นตัวแรงน้อย กับตัวโหดของจริงอย่าง Nissan Skyline GT-R R33 (BCNR33) ที่ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ RB26DETT ที่มีการอัพเกรดรายละเอียดให้ทนทาน และแรงขึ้นตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น

161027-nissan-skyline-6

10th Generation (1998-2005)

หลายๆ คน คงจะหลงรักทันทีที่ได้เห็น สำหรับ Nissan Skyline ใน Generation ที่ 10 นี้ เมื่อมันไปปรากฏตัวอยู่ในภาพยนต์รถซิ่งชื่อดังอย่าง 2 Fast 2 Furious ซึ่งเป็นรถของตัวเอกในเรื่องคันนึง โดย Nissan Skyline Generation ที่ 10 นี้ มีรหัสตัวถังที่ผู้ชายเกือบ 80% ล้วนอยากจับต้องก็คือ GT-R R34 นั่นเอง ด้วยรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป ให้ความดุดันที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น GT-R R34 กลายเป็นรถในฝันที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนในทันที โดยทาง Nissan ได้ปล่อย R34 ออกมา 2 รุ่น ได้แก่ Nissan Skyline GT-S R34 (ER34) ใช้เครื่องยนต์ RB25DET Neo6 เกียร์อัตโนมัติ กับ  Nissan Skyline GT-R R34 (BNR34) เครื่องยนต์ RB26DETT โดยมีวิธีสังเกตง่ายๆ หากไม่ได้เปิดฝากระโปรงหน้ารถเพื่อดูเครื่องยนต์ก็คือ ในรุ่นของ GT-S จะมี Sunroof แต่ในรุ่น GT-R จะไม่มี Sunroof อยู่ด้านบนหลังคา

161027-nissan-skyline-5

11th Generation (2004-2010)

มาถึง Generation ที่ 11 Skyline รุ่นนี้กลับไม่ได้รับความนิยมอย่างในรุ่นก่อนๆ อาจจะเป็นเพราะมนต์ขลังของมันได้เสื่อมลง เมื่อทาง Nissan ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่การเปลี่ยนรหัสจาก R มาเป็น V แทน โดยใน Generation นี้มีรหัสว่า V35 อีกทั้งทาง Nissan ได้แยกสายการผลิตระหว่าง Skyline กับ GT-R ออกจากกันอย่างชัดเจน (ซึ่งในปัจจุบันก็คือ Nissan GT-R สุดหล่อระดับ Supercar ของค่าย Nissan)

นอกจากนี้ V35 ยังถูกแปลงโฉมจากรถสปอร์ต 2 ประตูสุดโหด ให้กลับกลายมาเป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่อีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Skyline ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ โดยเฉพาะใน V35 ที่ได้รับคำชม และได้รับฉายาจากสื่อต่างๆ ให้เป็น “The Best Skyline Ever.”

161027-nissan-skyline-12

12th Generation (2009-2014)

Generation ที่ 12 นี้มีชื่อโฉมว่า V36 ซึ่งเป็น Skyline ที่มีความหลากหลายของตัวถังให้เลือกตามความเหมาะสมและการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบ 4 ประตู, 2 ประตู คูเป้, 2 ประตู เปิดประทุน, 5 ประตู SUV (ใช้ชื่อ Nissan Skyline Crossover)  โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 4 ความจุคือ 2500cc, 3500cc และเครื่องยนต์แบบบล็อค V 3700cc Skyline โฉมนี้ถูกขายในฝั่งอเมริกาภายใต้แบรนด์ Infiniti G35, G37 ส่วนในรุ่น Crossover จะใช้ชื่อว่า Infiniti EX

161027-nissan-skyline-1_

13th Generation (2015-Present)

ล่าสุด Skyline มาในรหัสใหม่อีกแล้ว โดยในครั้งมันมีรหัสว่า HV37  และยังเป็นการเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าของ Skyline ที่จากเดิมเป็นวัยรุ่นรักความแรง ให้กลายเป็นรถในระดับผู้บริหารที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปแทน โดย Skyline HV37 ยังเปิดตัวเครื่องยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดซึ่งเป็นแบบ Hybrid ความจุ 3,500cc @ 359 แรงม้าเลยทีเดียว นอกจากนี้ Skyline ยังไม่มีตัวถังแบบ Sport อีกด้วย เนื่องจากทาง Nissan ได้แบ่งสายการผลิตรถ Sport ให้ออกไปเป็น Nissan Z-car หรือ Fairlady ที่เรารู้จักกัน กับ Nissan GT-R เท่านั้น

เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะรู้จักกับ Skyline กันมากขึ้นบ้างแล้ว จะว่าไปแล้วก็น่าเสียดายที่รถดีๆ อย่าง Skyline นั้น ไม่ค่อยจะเห็นวิ่งตามท้องถนนในบ้านเรามากนัก เพราะติดตรงป้ายราคาที่ถูกข่มเหงโดยภาษีต่างๆ จนพุ่งไปแตะหลักหลายล้านบาท แต่ถึงอย่างไร Skyline ก็ถูกยกให้เป็นรถ JDM ในตำนานรุ่นนึง ที่ครั้งนึงเคยประกาศศักดา และประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง สมชื่อ Godzilla จากแดนปลาดิบจริงๆ

161030-nissan-skyline-4

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line