Stranger Things ซีรีย์ยำรวมมิตรไซไฟยุค 80s ที่ชาว UNLOCKMEN ไม่ควรพลาด

ในบรรดาซีรีย์ทั้งหมดที่ผู้ชายสนใจ และชื่นชอบ ชื่อลำดับต้นๆ ที่อยู่ในใจ คงหนีไม่พ้น Game of Thones หนังสร้างอิงจากหนังสือนวนิยายในชื่อเดียวกัน พร้อมพล๊อตเรื่องธรรมดาการแย่งชิงสมบัติ แต่สามารถกระแทกใจคนทั่วโลก ด้วยเล่ห์ เหลี่ยม การเล่นกับจิตใจของมนุษย์ ทำให้ Imdb จัดเรตติ้ง Game of Thones ไว้เป็นซีรีย์ที่มีเรตเยอะที่สุด 9.5 คะแนน และ Rotten Tomatoes ให้คะแนนไว้ที่ 94%

ซึ่งการจะหาซีรีย์อะไรสักเรื่องที่มาใกล้เคียงกับ Games of Thones เป็นเรื่องยากมาก เพราะมาตราฐานที่สูงลิบ ทุนสร้างมหาศาล ทำให้ Games of Thones ไร้ที่ติ ซึ่งปีนี้ Netflix ได้ส่งซีรีย์ที่ว่ากันว่าเป็นซีรีย์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ Netflix เคยทำมา แม้ว่าอาจจะยังเทียบชั้นของ Games of Thones ไม่ได้ แต่เรามั่นใจว่าสามารถกระชากใจ อารมณ์ ความสนุกให้คุณไม่น้อยก็มาก กับ Stranger Things

Stranger Things ถือเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมของหนังไซไฟ บวกสยองขวัญของยุค 80s  เพราะพวกเขาได้หยิบจุดเด่นจากยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็กลิ่นอายของหนัง สตีเว่น สปีลเบิร์ก หรือสไตล์เรื่องแบบนวนิยายของ สตีเฟ่น คิง ที่ทุกอย่างถูกเซ็ตไว้ให้ย้อนกลับไปในยุค 80s ทั้งหมด แม้กระทั้งโปสเตอร์โปรโมทซีรีย์ที่ต้องเป็นลายเส้นภาพเหมือนกับหนังยุค 80s เท่านั้น

พูดถึงเนื้อเรื่อง หนังเล่าย้อนไปในปี 80s เมือง อินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ จอยซ์ บายเยอร์ พบว่าลูกชายของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับ และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้ากับสิ่งเหนือธรรมชาติ เธอพยายามออกตามหาลูกชายที่หายตัวไป และเชื่อว่าลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่ เพราะเธอสามารถติดต่อกับลูกชายได้ผ่านทางหลอดไฟ ทำให้ทุกคนที่เธอไปขอความช่วยเหลือคิดว่าเธอบ้า ในยุคที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มี GPS คอมพิวเตอร์  คนดูจะรู้สึกอึดอัดร่วมไปกับการตามหาในครั้งนี้ ด้านลูกชาย วิล บายเยอร์ และกลุ่มเพื่อนได้หลุดไปยังโลกคู่ขนาน และพบเด็กประหลาดีที่มีพลังจิตเคลื่อนย้ายของได้ จนเกิดเป็นเรื่องราวตามมา

หากเล่าเพียงเท่านี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ต่างจาก Super 8 ที่กำกับโดย เจเจ อับรามส์ สักเท่าไหร่ แต่ Stranger Things ได้ใส่อารมณ์ ดราม่า เขย่าขวัญ สยองขวัญ ในรูปแบบของหนังไซไฟ เข้าไป ดูจะเป็นสูตรการยำที่มั่วๆ เหมือนการยำหนังจี้ แต่แปลกที่ว่า การจับรวมกันในครั้งนี้มันเข้าท่าเอามากๆ อาจเพราะบรรยากาศ รวมถึงวิธีการเล่าเรื่องที่ลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นยันจบ ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ได้รับเรตติ้งจาก Imdb สูงถึง 9.0 เป็นรองเพียง Game of Thones แค่เรื่องเดียว และได้คะแนนจาก Rotten Tomatoes 95%  Stranger Things จึงกำลังเป็นกระแสนิยมและ Talk of the town อย่างมากทั่วสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน Stranger Things ได้ฉายจบซีซั่นหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังเร่งสร้างซีซั่นที่สองออกมา ทีมงาน  UNLOCKMEN จึงขอพูดถึง 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด Stranger Things

มีเพียงแค่ 8 ตอน

เป็นหนังที่ไม่ได้ยืดยาวอะไร ไม่ต้องใช้เวลาไปกับมันมาก และด้วยความที่มีจำนวนตอนน้อย การเล่าเรื่องจึงมีความกระชับไม่ยืดเยื้อ ทุกนาทีผ่านไปอย่างมีความหมาย ตัวละครมีความชัดเจนในเรื่องของคาแรกเตอร์ เพราะหลายครั้งซีรีย์มักทำออกมาเยื้อยื้อเรียกเรตติ้ง โฆษณา โดยที่เนื้อหาในบางตอนแถบไม่มีความจำเป็นที่ต้องนำมาใส่ในเรื่องเลยก็ได้ แต่อาจเพราะ Stranger Things ฉายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ต้องเพิ่งกับเคเบิ้ลทีวี ทำให้ไม่ต้องแคร์ในจุดนี้ และสามารถทำมันออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

เต็มไปความลึกลับ

หนังที่ทิ้งปริศนาไว้ให้คนดูได้คิดต่อ เป็นที่ชื่นชอบของคนดูเสมอมา ตั้งแต่ X-File ในอดีต ทุกบทสนทนาของตัวละครล้วนทิ้งปมให้เราได้คิดไปต่างๆ นานา จนเราไม่สามารถหยุดดูได้  เพื่อรอการเฉลยคำตอบ ใน Stranger Things สามารถทำตามแบบที่ X-File เคยทำได้ในอดีตแทบทั้งหมด เผลอๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ หากนับเฉพาะซีซั่น 1 เพราะหลังจากดูจบ อารมณ์ของเรายังค้างอยู่เลย

หนังแนวไซไฟที่หายไป

หนังแนวลึกลับไซไฟ หลังๆ ไม่ค่อยจะมีออกมาเสียเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของซีรีย์ ที่สำคัญคือ Stranger Things ได้นำเอาจุดเด่นของหนังแนวนี้ไม่ว่าจะเป็น The Goonies , E.T , Super 8 หรือแม้แต่ X-File มาทำได้อย่างลงตัว เพราะบางครั้ง หนังที่พยายามลองสูตรใหม่ๆ โดยการจับหลายๆ อย่างมายำรวมกัน มักจะออกแป้ก หรือไปไม่สุด แต่ Stranger Things ทำมันได้อย่างน่าเหลือเช่ือ

ทีมนักแสดง

วิโนน่า ไรเดอร์ ที่รับบท จอยซ์ บายเยอร์ คือดาราตกอับที่แทบไม่หลงเหลือความเคยดังอีกแล้ว เธอคือนักแสดงที่ถูกกลืนไปกับยุค 80s-90s ซึ่งเราว่าเหตุผลหนึ่งที่ทีมแคสเลือกเธอ เพราะเพียงแค่เห็นหน้าเธอเราก็ได้อารมณ์ของยุคนั้นแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นหากแสดงห่วยก็ไม่มีความหมาย แต่เธอสามารถรับบทคุณแม่ ที่ชวนให้คนดูอึดอัดตามเธอไป และเชื่อว่าเธอกำลังจะสติแตกจริงๆ เรื่องนี้อาจทำให้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็แสดงได้อย่างดีเยี่ยม ดึงคาแรกเตอร์ออกมาได้แบบสุดโต่ง พฤติกรรมแปลกๆ ที่ทำให้เราสามารถเชื่อไปตามๆ กัน

อารมณ์ขันบนความสยอง

ความน่ากลัว และอารมณ์ขัน เป็นอะไรที่อยู่คนละขั้วกันอย่างชัดเจน สูตรนี้เคยประสบความสำเร็จแม้กระทั้งหนังไทยในอดีตอย่าง บุพผาราตรี เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนังล้วนเป็นสิ่งเร้นลับ ที่ทวีความสยอง ระทึกขวัญ ยิ่งในสถานการณ์อย่างนั้น Stranger Things กับสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้มีการลดระดับสลับโทนความตึงเครียดในหนังได้เป็นอย่างดี เพราะบางทีการสร้างหนังให้น่ากลัว ถ้าทำได้ไม่สุด วิธีการตัดเอาอารมณ์อื่นมาแทรก ก็สามารถเติมเต็มความลงตัวให้กับหนังได้

แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะดูเป็นไอเดีย จับฉ่ายแห่งยุค 80s ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่มันกลับกลายเป็นความลงตัวแบบแปลกๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบหนังไซไฟ ส่วนคนที่ไม่ได้ชอบหนังไซไฟ หรืออินกับยุค 80s ซีรีย์เรื่องนี้ก็ไม่เป็นปัญหาหากคิดจะดู เพราะว่า Stranger Things เป็นซีรีย์ที่ดูง่าย และมีเรื่องที่สนุก น่าดูอยู่เช่นกัน