Entertainment

SUBCULTURE : “ปูมิ- ปรัชญ์ภูมิ บุณยทัต” แห่ง SETUP THAILAND PRO WRESTLING สมาคมมวยปล้ำหนึ่งเดียวของประเทศไทย ที่ค่าย WWE ยังต้องแอบส่อง

By: JEDDY July 10, 2022

อีกหนึ่งกีฬาสายเอนเตอร์เทนเมนต์ยอดฮิต ที่ดูแล้วได้ทั้งความสะใจและความสนุกของเนื้อเรื่องชวนติดตาม คงหนีไม่พ้น “มวยปล้ำ” โดยเฉพาะค่าย WWE (เดิมคือ WWF) ที่มีแฟนอยู่ทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่วัยเด็กจนไปถึงผู้ใหญ่ เป็นสังกัดที่ผลิตนักมวยปล้ำชื่อเสียงสนั่นโลกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Rock (Dwayne Johnson), The Undertaker, CM Punk, Kane, Big Show และอีกมากมายนับเท่าไหร่ก็ไม่หมด แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นแค่การแสดง แต่มันก็อดไม่ไหวที่จะคอยติดตามลุ้นเชียร์และอินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีที่ขึงด้วยเชือก 3 เส้น

แม้ว่ามันจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แต่สำหรับในบ้านเราแม้จะมีแฟนมวยปล้ำจำนวนไม่น้อย แต่การจะผลักดันให้กีฬาชนิดนี้เป็นจริงเป็นจัง หรือกลายเป็นธุรกิจใหม่ในการสร้างเงิน กลับไม่มีวี่แววแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Setup Thailand Pro Wrestling ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากการร่วมมือกันระหว่าง คุณปูมิ- ปรัชญ์ภูมิ บุณยทัต และคุณปักษา – พิเชษฐ์ ก๊วยสินทรัพย์ ทั้ง 2 คนนอกจากจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันความฝันให้กลายเป็นความจริง พวกเขายังได้รวบรวมนักมวยปล้ำไทยมาไว้ในสมาคมแห่งนี้ รวมไปถึงมันยังได้ก่อกำเนิด Subculture เล็ก ๆ ของผู้ที่รักกีฬามวยปล้ำให้มารวมตัวแลกเปลี่ยนความชื่นชอบกัน

แต่การจะสร้าง Subculture แห่งนี้ขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันต้องแลกกับอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อทำให้มันกลายเป็นความจริง เรามาทำความรู้จักสมาคมมวยปล้ำแห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของเป็นคนไทยกับคุณปูมิ กันดีกว่าครับ


จาก GATOH MOVE

สู่ SETUP THAILAND PRO WRESTLING

จุดเริ่มต้นกีฬามวยปล้ำสไตล์เอนเตอร์เทนเมนต์ในไทยจริง ๆ แล้วเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2012 ในนาม “Gatoh Move Pro Wrestling” ซึ่งเป็นสมาคมที่ร่วมก่อตั้งโดย Emi Sakura นักมวยปล้ำชาวญี่ปุ่นและคุณปูมิ ซึ่งทั้ง 2 ได้พบกันจากการทำเพจมวยปล้ำญี่ปุ่นของคุณปูมิ

“ผมเป็นคนพากย์มวยปล้ำญี่ปุ่น ก็พากย์ไปเรื่อย ๆ ทีนี้ชอบพากย์อย่างเดียวไม่พอชอบเขียนด้วย ก็เขียนคอนเทนต์อธิบายว่านักมวยปล้ำญี่ปุ่นคนนี้คือใครอะไรอย่างไร สนุกอย่างไร เพราะตอนนั้นคนจะดูแต่มวยปล้ำอเมริกาเป็นหลัก พอผมมาพากย์แล้วคนดูก็ไม่รู้ว่าจะสนุกกับมันได้อย่างไร เราก็เลยเขียนคอนเทนต์เสริมเพื่อให้คนได้เข้าใจมันมากขึ้น ผมก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนเริ่มมีแฟนคลับมากขึ้น พอมีแฟนคลับมากขึ้น ก็มีสมาคมมวยปล้ำที่ญี่ปุ่นเริ่มสนใจว่าในเมืองไทยตลาดมวยปล้ำญี่ปุ่นมันเกิดขึ้นได้จริง ๆ เขาก็เลยลองมาสร้างค่ายมวยปล้ำในไทยโดยชวนผมมาสร้างค่าย Gatoh Move อยู่ด้วยกันมาประมาณ 8 ปี จนเริ่มอยู่ตัวแล้วก็แยกย้ายกัน แล้วก็มาสร้างสมาคม Setup Thailand Pro Wrestling ครับ”

สาเหตุที่แยกตัวกันเพราะอะไร?

“สมาคม Gatoh Move เบสิกแล้วมันเป็นสมาคมมวยปล้ำหญิงเป็นหลักครับ ซึ่งในเมืองไทยมันไม่ได้มีคนอยากเป็นนักมวยปล้ำหญิงมากขนาดนั้น ก็เลยมาทำมวยปล้ำไทยที่มีผู้ชายเป็นหลัก เท่ากับว่า Gatoh Move มี 2 สาขาคือไทยกับที่ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นเป็นผู้หญิงล้วน ไม่มีผู้ชายเลย ส่วนในไทยก็จะมีแต่ผู้ชายล้วนเลย พอมันครอสกันมันจึงทำให้มีกฎเกณฑ์บางอย่างที่มันจะไม่งามในนามของสมาคมมวยปล้ำหญิง เช่น การด่าด้วยคำหยาบคาย การล้วงหว่างขา เป็นต้นครับ

เราก็โอเค ต้องยอมรับครับว่าที่ญี่ปุ่นเขาทำได้ เพราะว่าสมาคม Gatoh Move เป็นเพียงพาร์ตหนึ่งของสมาคมมวยปล้ำที่มีอยู่เป็นร้อยเป็นพันในญี่ปุ่น แต่ที่ไทย Gatoh Move เป็นค่ายแรก ดังนั้นคนก็คาดหวังในสิ่งที่เขาเห็นเหมือนในทีวี เช่น การปลดปล่อยอารมณ์, การเอาเก้าอี้ฟาดหัว, การระบายอารมณ์อะไรบางอย่างออกมาที่บางทีมันก็ต้องแฝงไปด้วยความหยาบคายบ้าง นั่นหมายความว่าเรามาถึงจุดที่มันต่อยอดไม่ได้ ก็เลยพูดคุยปรึกษากัน สรุปได้คือแยกกันดีกว่าครับ”

คุณปูมิได้เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่าการสร้างค่าย Setup Thailand Pro Wrestling ก็ได้นำองค์ความรู้ที่มีบวกกับความต้องการของคนดูมาประยุกต์เข้าด้วยกันเพื่อต้องการขยายฐานคนดูให้มากขึ้นกว่าเดิม และแน่นอนว่ามันคือค่ายมวยปล้ำค่ายแรกที่เป็นของคนไทย 100%


ยกระดับมวยปล้ำไทย

อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่าง Setup Thailand Pro Wrestling กับ Gatoh Move คือการมุ่งเน้นปล้ำกันบนเวทีแทนการปล้ำบนเบาะ เพราะคนไทยภาพจำมวยปล้ำคือสไตล์ของ WWE การที่มาปล้ำบนเบาะอาจจะทำให้คนส่วนมากไม่เกตกับมันซักเท่าไหร่ รวมไปถึงยังให้ความสนใจในการสร้าง Community ขึ้นมาด้วยเช่นกัน

“เราต้องการขยายมวยปล้ำให้เป็น Mass Market ครับ เราก็เลยมองว่าถ้าเกิดเราเอามวยปล้ำออกไปในสื่อที่ค่อนข้างกว้าง คนจะได้ไม่ต้องใช้เวลาในการถามว่าสิ่งนี้คืออะไร และเราก็ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายเพิ่มเติมด้วยนี่คือสาเหตุแรกเลย Setup ปล้ำบนเวทีเป็นหลัก

อย่างที่สองผมมองว่า Setup คือ Community มันจะไม่ใช้สมาคมมวยปล้ำที่คุณตื่นเช้ามาซื้อบัตร ตอนเย็นไปดูมวยปล้ำแล้วกลับบ้าน ผมรู้สึกว่าเราจะต้องมีการเชื่อมต่ออะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่สามารถเดินไปกลางถนนแล้วตะโกนด่าคนอย่างที่คิดในใจได้หรอก

แต่ในมวยปล้ำมันเป็นจุดที่คุณสามารถทำได้ วันไหนเจอนักมวยปล้ำก็ทำ เจอใครก็ตามที่เรารู้สึกว่าไอ้นี่แม่งเลวจัง (หมายถึงนักมวยปล้ำในบทบาท) เลยวะ ด่ามันหน่อย ปลดปล่อยอารมณ์ออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ มันเป้นสิ่งที่ผมตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้น

TERRY DIESEL แชมป์คนล่าสุดของ SETUP THAILAND PRO WRESTLING

แล้วพวกแฟนคลับทุกคนจะมาแต่งตัวกันมาเต็มที่เลย สะพายเข็มขัดมวยปล้ำมา มาถ่ายเซลล์ฟี่กัน นัดเจอกันเอาสินค้ามาแลกเปลี่ยนมาขายกัน มันกลายเป็นว่าทุก ๆ เดือนทุกคนที่มาเป็นเหมือนศูนย์รวมของคนที่เป็นแฟนมวยปล้ำซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

อย่างที่สามตอนนี้เรามีเด็กฝึกมากขึ้น เราได้ปรับการฝึกสอนให้เป็นโรงเรียนมากขึ้นโดยการมีหลักสูตรที่ผ่านการคิดค้นประยุกต์ศาสตร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น มวยไทย, บราซิลเลียนยิวยิตสู รวมถึงทักษะการพูดบางอย่างที่เราพยายามจะเอามาใช้กับมวยปล้ำ

นี่คือความแตกต่าง 3 ข้อหลัก ๆ ที่เรารู้สึกว่า Setup มีความโดดเด่น และสามารถพูดได้ว่าเราต้องการยกระดับมวยปล้ำไทยจริง ๆ ครับ”

Setup Thailand Pro Wrestling ยังเป็นการผสมผสานระหว่างความสนุกแบบอเมริกา คือมีเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม และมีความจริงจังแบบญี่ปุ่น


ยอมเป็นหนี้หลักล้าน

คุณปูมิ สวมบทบาทลงปล้ำเอง ทำให้เราอดนึกถึง Vince McMahon เจ้าของค่าย WWE ไม่ได้จริง ๆ

กว่าที่จะมี Setup Thailand Pro Wrestling อย่างทุกวันนี้ คุณปูมิเคยต้องแบกรับหนี้สินหลักล้านมาก่อนตั้งแต่วัยยังไม่ถึง 20 ปีเลยด้วยซ้ำ ส่วนสาเหตุที่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็เพียงเพราะต้องการให้มวยปล้ำไทยเกิดขึ้นมาได้จริง ๆ

“ตอนนั้นเราเป็นเด็กปี 1 อายุประมาณ 18 (ตอนที่ Gatoh Move ก่อตั้งแรก ๆ ) ผมทำอะไรเยอะไปหมดเลย ต้องไปทำงานเสริม, เสิร์ฟอาหาร, ขายแซนวิชข้างถนน, พากย์กีฬา ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อหาเงิน แต่เราสนุกกับการเหนื่อย เรารู้สึกว่าตอนเย็นไม่อยากไปไหนแล้ว อยากหาเงิน แล้วก็คิดว่าจะทำอะไรต่อดี มันทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก

ยอมรับว่าความเป็นเด็กมันจะมีความเห่อ ความรวย ความอยากมีตังค์ อยากลงทุน มันคือการยอมจ่ายเงินไปเรื่อย ๆ ให้ความฝันเป็นจริงเร็วที่สุด แต่มันขาดการจัดการที่ดีทำให้เราก็มีหนี้สินเข้ามามากมาย คือในวันนั้นเราก็ไหวแหละ คิดว่ามันเป็นหนี้สินที่คุ้มค่า

แต่พอผ่านไปเรื่อย ๆ มันก็มีเหตุการณ์บ้านเมืองที่ทำให้โชว์ต้องหยุดจัดไปบ้าง มันก็ทำให้เราได้คิดมากขึ้นว่าการทำธุรกิจมันเป็นควรเป็นอย่างไร เรื่องที่เกิดขึ้นข้อดีคือเรามีโอกาสได้เรียนรู้ก่อนเด็กรุ่นเดียวกัน เราขาดทุนเป็นล้านตั้งแต่อายุ 19-20 ปี ต้องหาเงินล้านไปใช้หนี้ตามกำหนด ผมก็เลยได้เรียนรู้การใช้ชีวิตมากขึ้นครับ”

ในปัจจุบันคุณปูมิมีสถานการณ์การเงินดีขึ้นมาก เพราะมีการทำ Research และ Marketing อย่างจริงจัง


คัดเลือกนักมวยปล้ำจากแพชชั่น

ภาพของเหล่าบรรดานักมวยปล้ำ SETUP THAILAND PRO WRESTLING มารวมตัวกันซ้อม

ปัจจุบัน Setup Thailand Pro Wrestling มีนักมวยปล้ำที่ขึ้นปล้ำอยู่ประจำมี 10 คน และเด็กฝึกรวม ๆ แล้วอยู่ประมาณ 20 คน แต่ก็มีการรับสมัครเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งทางสมาคมจะคัดเลือกโดยการดูแพชชั่นของผู้สมัครเป็นหลัก

“คนที่มีใจรักในการอยากมาเป็นนักมวยปล้ำที่นี่สำคัญมาก ๆ เลยครับ เราไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร พูดตรง ๆ ว่ามวยปล้ำมันคือเอนเตอร์เทนเมนต์ มันคือสิ่งที่ต้องเน้นการเล่าเรื่อง ดังนั้นคุณต้องเริ่มจากการพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นนักกีฬาที่ดีก่อนให้ได้

ต้องมาดูคุณพร้อมจะเล่าเรื่องขนาดไหน ถ้าเราบอกให้คุณทำอย่างนี้ คุณทำไหม ถ้าบอกให้คุณทำแบบนี้เลย คุณจะเชื่อฟังขนาดไหน สิ่งเหล่านี้เป็นอีกขั้นหนึ่งของมวยปล้ำ”

ทางสมาคมยังดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักมวยปล้ำเป็นหลัก ทั้งตอนฝึกซ้อมและตอนลงแข่ง


นักมวยปล้ำกับการสร้างคาแรคเตอร์

คุณปูมิและ Monomoth นักมวยปล้ำที่กำลังมาแรงของ SETUP THAILAND PRO WRESTLING

ความสำเร็จของนักมวยปล้ำนอกจากฝีมือ การสร้างคาแรคเตอร์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันจะทำให้ผู้ชมจดจำพวกเขาได้เป็นอย่างดี ยิ่งคาแรคเตอร์เด่น พูดเก่ง ปล้ำสนุก รับประกันได้เลยว่านักมวยปล้ำคนนั้นจะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน

“การสร้างคาแรคเตอร์นักมวยปล้ำส่วนใหญ่มี 2 แบบ อย่างแรกคือคิดมาเอง เช่นการสวมบทบาทเป็นสิ่ง ๆ หนึ่งไปเลย อย่างถ้าคุณใส่หน้ากากเสือ คุณคือเสือเลยนะ คุณจะไม่ใช่มนุษย์ที่ใส่หน้ากากเสือ มวยปล้ำมันต้องเป็นอย่างนั้น

แต่ถ้าคุณบอกว่าฉันจะเป็นนักรบโรมันใส่ชุดเกราะ แต่ไม่รู้ว่าวิธีการฟันดาบ ถ้าแบบนี้คือคุณเป็นไม่ได้ ก็จะกลายเป็นอย่างที่ 2 คือสมาคมกำหนดคาแรคเตอร์ให้ ซึ่งจะดูเรื่องการตลาดเป็นหลัก ต้องดูว่าจะขายแบบไหน สังคมชอบอะไร คิดเป็นก้อนมาให้แล้วค่อยไปเฉลยนักมวยปล้ำ ซึ่งก็ต้องคุยกับนักมวยปล้ำต่อว่าชอบไหม”


ฝีมือนักมวยปล้ำไทยเตะตาแมวมอง WWE

เชื่อว่านักมวยปล้ำทุกคนความฝันสูงสุดคือการได้เข้าร่วมสมาคม WWE ซึ่งนักมวยปล้ำไทยอย่าง Terry Diesel ก็มีโอกาสเคยได้ไปคัดตัวมาแล้วด้วยเช่นกันเนื่องจากมีแมวมองคอยติดตามความเคลื่อนไหวในบ้านเราอย่างใกล้ชิด โดยจุดเริ่มต้นมาจากคุณปูมิที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับทีมงานของค่ายมวยปล้ำชื่อดัง ได้มีการพูดคุยถึงนักมวยปล้ำที่น่าสนใจจากแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณปูมิจึงได้แนะนำนักมวยปล้ำไทยไป

“เราแนะนำนักมวยปล้ำไทยไป เขาก็เริ่มสนใจว่าประเทศไทยมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลายอย่าง หนึ่งคือมีศิลปะการต่อสู้ของตัวเอง และก็มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น ผีตาโขน รำไทย ลำตัด หมอลำ สาวประเภทสอง พวกนี้มีมูลค่าสำหรับพวกเขาทั้งหมด เขาก็เลยมองว่าประเทศไทยเล่นได้เยอะมาก

เขาบอกว่านึกภาพนะ สาวประเภทสองบ้านเราน่ะ สวย สวยถึงขนาดว่าจับมาเป็นนักมวยปล้ำสิบปีไม่ต้องบอกใครเลยว่านักมวยปล้ำคนนี้เป็นผู้ชาย แล้วค่อยเปิดเผยวันสุดท้ายว่าเป็นผู้ชาย มันก็จะเป็น Trending ทั่วโลกแน่ ๆ อันนี้เขามองในมุมของธุรกิจไม่ได้มองเชิงดูถูกนะครับ เขามองในแง่ของ Value ของการสร้างความมีคุณค่าขึ้นมาจากสิ่งที่มันเป็นปกติสำหรับเมืองไทย”


ผลกระทบแง่บวกต่อของมวยปล้ำ

ต่อสังคมไทยในอนาคต

“สุชาติ” อีกหนึ่งคาแรคเตอร์นักมวยปล้ำที่น่าสนใจในลุคแบบพี่วิน มอเตอร์ไซด์

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือในวันที่มวยปล้ำไทยเกิดบูมขึ้นมาอย่างสุดในบ้านเรามันจะมีผลกระทบเชิงบวกอย่างไรบ้างให้กับสังคม ซึ่งคุณปูมิมองไปถึงเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจเป็นหลัก

“สังคมของเราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความหวังแล้วครับ การบอกว่าความหวังไปต่อได้จริง ๆ มันเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหลาย ๆ คน แสดงว่ามันต้องมีมุมของความงดงามอะไรบางอย่างในสิ่งนั้น แม้กระทั่งสิ่งที่คุณมองว่ามันไร้ค่าก็ตาม บทเพลงที่คุณไม่ชอบ เสื้อผ้าแบบที่ไม่ใส่ อาหารที่ไม่กิน มันมีคนที่หลงรักสิ่งเหล่านั้นเสมอ มวยปล้ำก็เช่นเดียวกัน

เราอยากให้ความรักของเรา ความสำเร็จของเราเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อาจตั้งคำถามกับสิ่งที่เขาไม่เชื่อ หรือแม้แต่การตั้งคำถามกับตัวเองก็ตามครับ”


คุณค่าที่ได้รับจาก

SETUP THAILAND PRO WRESTLING

“สิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผมคือการเห็นความฝันเติบโตครับ นึกภาพว่าผมเห็นตั้งแต่วันแรกที่คนมาสมัครมีแค่ความฝัน จนวันหนึ่งเขาได้ขึ้นเวทีครั้งแรก ได้มีชุดของตัวเองครั้งแรก ได้เห็นการขึ้นปล้ำครั้งแรก ใส่ท่าไม้ตายครั้งแรก ชนะครั้งแรก เฮ้ย เราเห็นความฝันของคนใน Community เดียวกันเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดเลย สิ่งเหล่านี้มันดีมาก

ผมถามตัวเอง ถามพี่ ถามน้องเสมอว่า คุณเห็นคนที่ความฝันเป็นจริงในชีวิตนี้กี่ครั้งกัน แต่ทำมวยปล้ำผมเห็นมันบ่อยมาก ๆ และทุกครั้งมีความสุข ผมเชื่อเสมอว่าคำว่า ‘Dream Comes True’ มันมีความหมายสุด ๆ เอาแค่การมีความฝันของคน ๆ หนึ่งมันก็ยากแล้วครับ การทำความฝันให้เป็นจริงนั้นยากกว่า ผมรู้สึกว่ามีค่ามาก ๆ ครับ”


ใครที่สนใจอยากซัพพอร์ตมวยปล้ำโดยคนไทยแท้ ๆ สามารถติดตามได้ทางแฟนเพจ SETUP THAILAND PRO WRESTLING โดยเร็ว ๆ นี้พวกเขากำลังจะมีโชว์ในวันที่ 30 กรกฎาคม, 20 สิงหาคม และ 19 พฤศจิกายน ณ G Village ย่านลาดพร้าว อยากสัมผัสความมันส์ห้ามพลาดเด็ดขาด

เรื่องราวของคุณปูมิยังไม่จบเพียงเท่านี้ เตรียมติดตามกันต่อได้ทางคลิปสัมภาษณ์ที่แฟนเพจ Unlockmen  และเตรียมพบกับเรื่องราวของ “Monomoth” นักมวยปล้ำ LGBTQIA+ หนึ่งเดียวของไทยที่กำลังได้รับการจับตามอง พบกับเขาได้ที่นี่เร็ว ๆ นี้

ทาง Unlockmen ต้องขอขอบคุณคุณปูมิที่มาร่วมเปิด Subculture วงการมวยปล้ำในไทยให้เราได้ทำความรู้จัก และเปิดยิมให้เราได้เข้าไปนั่งพูดคุยด้วยครับ

ขอบคุณรูปประกอบจากแฟนเพจ : Setup Thailand Pro Wrestling

Photographer : Krittapas Suttikittibut

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line