Guide

GUIDE: เพราะอยากให้ทุกวันคือวันอาทิตย์ จุดเริ่มต้นของ ‘SUNDAYS’ คาเฟ่ที่ตามใจตัวเองเป็นหลัก

By: PERLE October 12, 2018

วันอาทิตย์คือวันที่เราหวงแหน เป็นวันที่เราไม่อยากให้มันผ่านไป บางครั้งถึงขั้นแอบคิดว่าการที่หนึ่งสัปดาห์มีวันอาทิตย์แค่วันเดียวมันน้อยไปหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่คิดแบบนี้ เพราะเจ้าของคาเฟ่เล็ก ๆ บรรยากาศน่ารักในซอยทองหล่อ 13 ที่เราได้ไปเยือนมาก็คิดเช่นเดียวกัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ร้านนี้ชื่อว่า ‘Sundays’ ที่ห้ามลืมเติม S เด็ดขาด

ยังไม่ทันจะเข้าไปข้างใน เราก็สะดุดตาเข้ากับการตกแต่งบริเวณหน้าร้านที่เต็มไปด้วยสีสันลวดลาย ดูนามธรรมเข้าใจยากแต่ก็สวยงามและเข้ากับคอนเซ็ปต์วันอาทิตย์ของร้านอย่างมาก

เมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้าน ทุกอย่างดูละลานตาไปหมด ผลงานศิลปะมากมายถูกวางกระจัดกระจายไว้แทบทุกจุดของร้าน เป็นการตกแต่งร้านที่ดูไม่เป็นสัดเป็นส่วน แต่ก็มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ซึ่งหลังจากได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน เราจึงทราบว่าผลงานศิลปะทุกชิ้นในร้านคือผลงานของหุ้นส่วนร้านและกลุ่มเพื่อน ไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรเป็นสำคัญ ทุกอย่างเกิดจากการตามใจตัวเองเป็นหลัก ดังนั้นการที่ผลงานทุกชิ้นดูไม่มีจุดร่วมกัน ถูกวางอย่างกระจัดกระจาย ดูไม่ตั้งใจนั้นแท้จริงแล้วคือความตั้งใจที่อยากให้มันออกมาเป็นแบบนี้

อย่างที่บอกไปว่า Sundays คือร้านเล็ก ๆ แต่เป็นร้านที่เราใช้เวลาเดินสำรวจนานมาก ทุกมุมของร้านถึงแม้จะดูเต็มไปด้วยสิ่งของ แต่สิ่งของทุกชิ้นก็มีเรื่องราวและความเป็นศิลปะซ่อนอยู่

ดังนั้นการมาที่คาเฟ่วันอาทิตย์แห่งนี้ นอกจากจะได้พักผ่อน ปลดปล่อยความเครียดให้ลอยหายไปตามบรรยากาศแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับแกลเลอรี่ขนาดย่อมอีกด้วย

ไม่ใช่แค่การตกแต่งร้านเท่านั้นที่ Sundays ทำตามใจตัวเอง แต่อาหารของที่นี่แทบทุกเมนูก็เกิดจากการทำตามใจตัวเองแทบทั้งสิ้น ก็อยากกินเมนูแบบนี้ อยากให้รสชาติออกมาแบบนี้ โดยเฉพาะเมนูที่เราจะแนะนำ

โดยเมนูแรกคือ Angel Hair Namprik Narok Kai Goong (290 บาท) เป็นเมนูที่แค่เห็นหน้าตาก็ร้องว้าวแล้ว ถึงแม้เราจะเคยทานอาหารประเภทนี้มาไม่น้อย แต่ไม่เคยเห็นที่ไหนให้ไข่กุ้งกองเป็นภูเขาแบบนี้มาก่อน ซึ่งเมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของร้านจึงได้ถึงบางอ้อ เมนูนี้เกิดจากการทดลองและค้นพบโดยบังเอิญในบ่ายวันหนึ่ง จากการที่เอา Angel Hair มาผัดกับน้ำพริกนรก ปรุงรสจนถูกใจ ตอนแรกตั้งใจจะแค่โรยหน้าด้วยไข่กุ้ง แต่มันไม่สะใจ เลยตักใส่จนรู้สึกพอใจ หน้าตาเลยออกมาแบบที่เห็น เมื่อเราได้ลองชิม นอกจากความกรุบ ๆ ของไข่กุ้งแล้ว รสชาติของเส้นก็เด็ดไม่แพ้กัน เข้มข้นด้วยรสกระเทียม ทานแล้วรู้สึกอยากทานต่อไปเรื่อย ๆ

หลังจากจัดการของคาวไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่รอช้าที่จะส่งของหวานตามลงไปสมทบในกระเพาะ แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเมนูนี้กันก่อนดีว่า นี่คือ Bruce’s Cake (190 บาท) ของหวานที่เจ้าของร้านภูมิใจนำเสนอ โดยเมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเด็กอ้วน Bruce Bogtrotter จากภาพยนตร์เรื่อง Matilda โดยในเรื่องเจ้าเด็กชาย Bruce จอมแสบได้เขมือบฟัดจ์เค้กช็อคโกแลตเข้มข้นคนเดียวจนหมดก้อน หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านเห็นดังนั้นก็อยากทานบ้าง จึงเกิดเป็นเมนูนี้ขึ้นมา ซึ่งด้วยรสชาติของมันเราไม่แปลกใจว่าทำไม Bruce จึงไม่แบ่งใคร ก็มันทั้งนุ่ม หวาน หอม และเข้มข้นด้วยรสช็อคโกแลตขนาดนี้

ล้างปากด้วยเครื่องดื่มสักหน่อย กับเมนูสุดท้ายของเราในวันนี้ Cherry Bomb (220 บาท) โดยที่มาของเมนูนี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากดื่มเชอร์รี่โค้กโปะด้วยวิปครีมกับไอศกรีมวานิลลาให้ชื่นใจ ซึ่งขอบอกเลยว่ามันชื่นใจสมชื่อ Cherry Bomb จริง ๆ

หลังจากที่ท้องอิ่มแล้วเราก็โบกมือลากับคาเฟ่แสนน่ารักแห่งนี้ แต่เรามั่นใจเหลือเกินว่าเราต้องมาเยือนที่นี่อีกแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเป็นวันใดหรืออยู่ในอารมณ์ไหน บรรยากาศใน Sundays ก็น่าจะทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นเหมือนอยู่ในบ่ายวันอาทิตย์ที่อากาศแจ่มใส

 

PHOTOGRAPHER: Warynthorn Buratachwatanasiri

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line