Must Read

เข้าใจสงครามซีเรียอย่างครบถ้วน ที่มาที่ไป เริ่มยังไง ใครยิงใคร

By: Chaipohn October 16, 2015

สงครามซีเรียเป็นจุดที่ทำให้เราอยู่ใกล้คำว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 ชนิดก้าวเดียวถึง และเป็นสงครามที่อีรุงตุงนัง เกี่ยวพันกับหลากกลุ่มหลายประเทศ บทความนี้จะสรุปที่มาที่ไป และแยกให้ว่าใครอยู่ฝ่ายไหน จะได้ตามสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น

151015-syriawar-1

ความขัดแย้งที่เป็นเหมือนระเบิดเวลาตังแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1

ย้อนไปยุค 1920 ดินแดนประเทศซีเรียในปัจจุบันมีฝรั่งเศสปกครองอยู่ เป็นพื้นที่ที่มีหลากหลายเชื้อชาติปะปนกันมากมาย โดยเฉพาะอิสลามชีอะฮ์ และอิสลามซุนนีย์ ซึ่งชีอะฮ์ถือเป็นคนกลุ่มน้อยในสมัยนั้น จึงมีความเอนเอียงเข้าหาฝรั่งเศส และได้พัฒนากลายมาเป็นกองทัพซีเรีย พอถึงเวลาที่ฝรั่งเศสจะมอบอำนาจคืนให้ หวยจึงมาตกที่กลุ่มชีอะฮ์ของนาย Hafez al-Assad ในปี 1970 และเข้ายึดครองประเทศซีเรียในที่สุด อิสลามซุนนีย์เริ่มโดนกดขี่ทารุณตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมและความขัดแย้งของอิสลาม 2 นิกายอยู่เรื่อยๆตั้งแต่ช่วงนี้แล้ว ที่เลวร้ายคือ Assad มักจะใช้ความรุนแรง “ฆ่าก่อน เคลียร์ทีหลัง” กับชาวซุนนีย์เสมอ

 

จุดแตกหักจากความโหดเหี้ยมของเสียงปืนปี 2011

หลายท่านน่าจะพอนึกภาพออก เมื่อประชาชนเริ่มรวมตัวประท้วงความรุนแรงของรัฐบาล al-Assad อย่างสงบแต่กลับโดนรัฐบาลสั่งให้ทหารใช้กำลัง มันจะเจ็บแค้นแค่ไหน และวันที่ 18 มีนาคม ประธานธิบดีมือใหม่ Bashar al-Assad ลูกชายของ Hafez al-Assad ก็ได้ทำในสิ่งที่ตระกูล al-Assad ถนัดที่สุดอีกครั้ง สั่งการให้ทหารยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่มารวมตัวกันประท้วงอย่างสันติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 4 ศพ และกลายเป็น “The Beginning of the Revolution” จุดเริ่มต้นสงครามซีเรีย ซึ่ง Bashar al-Assad เองดูจะต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น จะได้ใช้กำลังทหารจัดการกวาดล้างพวกซุนนีย์ให้หมดสิ้นไปเสียที โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจากสงครามกลางเมือง จะลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามระดับโลกไปได้

 

151015-syriawar-2

จากกลุ่มผู้ประท้วง เมื่อมาถึงจุดแตกหัก การหยิบอาวุธขึ้นมาตอบโต้รัฐบาลเผด็จการ Bashar al-Assad จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากชาวบ้านธรรมดา ก็ได้มีการจัดตั้ง Free Syrian Army (Syrian Revolution) หรือกองทัพสำหรับโค่นล้มตระกูล al-Assad   ในเดือนกรกฏาคม 2011 และดึงดูดเอาเหล่าอิสลามซุนนีย์สาย hardcore จากดินแดนใกล้ไกลที่ล้วนมีศัตรูคนเดียวกันคือ al-Assad เข้ามารวมมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มรัฐอิสลามอันน่าสะพรึงกลัว หรือพวกเราน่าจะคุ้นในชื่อ ISIS

นี่คือจุดสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อีกจุดของความวุ่นวายนี้ ช่วงมกราคม 2012 กลุ่ม Extremist อิสลามซุนนีย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอย่าง al-Qaeda ในอิรัก เคยโดยถล่มจนเกือบจะสูญพันธุ์หมดสิ้น ก็ใช้โอกาสความวุ่นวายใน Syria เพื่อฟื้นฟูกองทัพ หาอาวุธและจำนวนทหาร โดยมี Abu Mohammad al-Joulani ทำทีเข้ามาช่วย Syrian Revolution ด้วยการจัดตั้งกลุ่ม Jabhat al-Nusra โดยกำลังพลหลักๆมาพวกอิสลามซุนนีย์ที่เคยติดคุกของ Assad (หลายแห่งเชื่อว่า Assad จงใจปล่อยซุนนีย์หัวรุนแรงออกมาเอง เพื่อให้เกิดกลุ่มต่อต้านหลากหลาย จะได้กันประเทศที่ 3 ไม่ให้เข้ามายุ่งกับสงครามศาสนา)

กลุ่ม Jabhat al-Nusra มีความสามารถในการสู้รบเหนือกว่าและโหดเหี้ยมกว่า Syrian Revolution มาก เมื่อกลุ่ม Nusra ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน จึงแตกตัวออกเป็นกลุ่มย่อยที่ชื่อ ISIS (Islamic State in Iraq and Syria) อีกหนึ่งกลุ่มที่ทำสงครามอยู่ในซีเรีย แต่ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะยุ่งกับการรบของ al-Assad และ Free Syrian Army เลย ต่างคนต่างรบกันไปมา โดยมีประเทศซีเรียเป็นเดิมพัน แต่ ISIS ดูจะเน้นขยายอิทธิพลไปทางตุรกีเสียมากกว่า

ตอนนี้นอกจากมี Syrian Revolution ร่วมกับ Jabhat al-Nusra ยิงกับ al-Assad แล้วยังมีกลุ่ม Kurds ที่อยู่ทางตอนเหนือของ Syria เห็นเป็นโอกาสดี หยิบอาวุธขึ้นมารบกับ al-Assad เพื่อยึดและขยายพื้นที่ทางตอนเหนืออีกด้วย

 

151015-syriawar-3

ช่วงกลางปี 2012 เมื่อศัตรูเริ่มเยอะขึ้น Assad เริ่มรับมือไม่ไหว เดชะบุญได้มหามิตรอย่างผู้นำ Iran “Hassan Rouhani” ที่ต้องปกป้องผู้นำ Syria คนนี้ไว้ให้ได้ เพราะ Syria เป็นประเทศช่องทางในการส่งอาวุธไปให้มหามิตรของ Iran อย่าง Hezbollah ในเลบานอน และ Hamas ในกาซา ทำให้ Bashar al-Assad เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง

แต่ไม่ใช่แค่ Iran ที่มองว่า Syria เป็นประเทศยุทธศาสตร์ บรรดาประเทศผู้ร่ำร่วมน้ำมันที่ไม่ชอบขี้หน้า Iran ก็มองว่าสบโอกาสที่จะทำให้ Iran สั่นคลอนได้ ถ้า Syria หลุดจากมือของ Iran ไป ว่าแล้วประเทศอย่าง Qatar, Saudi Arabia ก็ส่งเงินจำนวนมหาศาล พร้อมกับส่งอาวุธมากมายให้กลุ่มต่อต้าน Assad ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านประเทศ Turkey และ Jordan แต่เนื่องจากมีหลายกลุ่ม และเงินถูกส่งจากหลายประเทศที่มีมุมมองต่างกัน เงินจำนวนมากเลยไปตกอยู่ในมือของ ISIS ด้วย ยิ่งสร้างความวุ่นวายเข้าไปอีก Assad ก็ไม่ยุ่งกับ ISIS แต่ปล่อยให้ ISIS ไล่ฆ่ากลุ่มย่อยอื่นๆขึ้นไปทางเหนือเข้าสู่ Turkey ซึ่งไม่ถูกกับ Syria อยู่แล้ว

 

151015-syriawar-4

จุกพีคอีกรอบเกิดขึ้นในปี 2013 เมื่อมีการใช้อาวุธเคมีในเมือง Ghouta ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการกระทำที่ต่ำทรามและละเมิดข้อตกลงเรื่องการใช้อาวุธเคมี (แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนลงมือกันแน่ เนื่องจากในรายงานจากสื่อหลายฝั่งที่มีความแตกต่างกันมาก เช่นฝ่าย ISIS เป็นคนทำ, ฝ่าย Assad เป็นคนทำ หรือแม้แต่อเมริกาเป็นคนทำ เป็นต้น) อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นชนวนเหตุให้อเมริกาที่นำโดยประธานาธิบดี Barack Obama บอกว่าครั้งนี้ทำเกินไป จะยอมมอบอาวุธเคมีทั้งหมดออกมา หรือจะเจออเมริกาใช้กำลังทางทหารโจมตีก็เลือกเอา Bashar al-Assad ยอมให้อเมริกาเข้ามาตรวจสอบ พร้อมแสดงอาวุธเคมีที่มีอยู่ อเมริกาจึงไม่สามารถโจมตีได้ นี่ทำให้ฝ่ายต่อต้าน Assad รู้สึกเหมือนโดนสหรัฐหักหลัง และไม่เชื่อใจอเมริกาอีกต่อไป

ผ่านมาถึงช่วงกันยายน 2014 ISIS มีบทบาทมากขึ้นจากการตัดหัวตัวประกันเป็นว่าเล่น แสดงความโหดเหี้ยมไปทั่วทั้งใน Iraq, Syria ทำให้ Obama รู้สึกว่าถึงเวลาต้องกำจัดมันให้สิ้นซาก โดยเฉพาะ ISIS ในซีเรียซึ่งถือเป็นกองทัพหลัก แต่การโจมตีทางอากาศอย่างเดียวไม่พอที่จะฆ่าให้หมดสิ้น แต่พันธมิตรบนพื้นดินก็ไม่มีเหลือแล้วอีกด้วย ฝ่ายต่อต้าน Assad นอกจากจะไม่เชื่อใจอเมริกาแล้ว ยังไม่ได้มอง ISIS เป็นศัตรูอันดับหนึ่งอีกด้วย Obama ลงทุนฝึกพวกต่อต้าน Assad ให้ทั้งเงินทั้งอุปกรณ์ ก็ยังสู้ไม่ได้ หรือไม่ก็แปรพรรคกลายเป็น ISIS ทำให้ยิ่งแย่ไปใหญ่

พวก NATO จะช่วยกลุ่มต่อต้าน Assad ก็ช่วยไม่ได้ เพราะอยากเป้าหมายของ NATO คือการกำจัด ISIS เรื่องมันจึงอีรุงตุงนัง เพราะเป้าหมายของแต่ละกลุ่มไม่ตรงกัน จะพอมีก็กลุ่ม Kurds ที่อเมริกาสามารถสนับสนุนให้บุกไปรบกับ ISIS และ al-Assad ด้วยการช่วยปูทางทิ้งจรวดทางอากาศอำนวยความสะดวกให้

151015-syriawar-5

ช่วงต้นปี 2015 เป็นช่วงที่ทั้ง ISIS และ Assad เริ่มตกที่นั่งลำบาก เพราะมีการรวมตัวของฝ่ายต่อต้านกับกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยมากขึ้น ทหารของ Assad เองก็เริ่มร่อยหรอ ในขณะที่ทุกคนคิดว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่กลับกลายเป็นหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อ Vladimir Putin ประกาศจะช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS ด้วยการส่งกำลังทหารเต็มพิกัดเข้าไปใน Syria แต่ในความเป็นจริง Russia กำลังช่วย Bashar al-Assad ด้วยการทิ้งระเบิดใส่กลุ่มต่อต้าน Assad โดยจากการทิ้งระเบิดจำนวน 20 ครั้งล่าสุด เป็นการโจมตี ISIS เพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้นเอง แถมการทิ้งระเบิดครั้งอื่นๆก็พลาดลงไปที่ชุมชนอยู่หลายครั้งอีกด้วย

ทั้งหมดทั้งปวงนี้น่าจะคลอบคลุมถึงความวุ่นวายและยุ่งเหยิงในสงครามซีเรีย ที่อยู่ใกล้คำว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 เข้าไปทุกขณะ และดูเหมือนว่าทุกประเทศจะมีเหตุผลเป็นของตัวเองในการจะสนับสนุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่ว่าจุดประสงค์จะเป็นอย่างไร ใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ประชาชนชาว Syria จำนวนเกิน 4 ล้านคนกลับต้องเป็นฝ่ายรับกรรม  ลี้ภัยไปหาที่ๆปลอดภัยกว่า มีคนตายไม่ต่ำกว่า 250,000 คน และคนที่อยู่ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้หรือไม่  ส่วนเราก็ได้แต่ภาวนาหวังว่าอย่าให้เกิดเรื่องร้ายใดๆกับเพื่อนร่วมโลกอีกเลย

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line