ผลงานของ Apple หลาย ๆ ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น iphone, macbook, ipad หรือ airpod มักทำให้คนเมืองอย่างเราเกิดความ hype อยู่เสมอเวลาที่ได้เห็นมันออกรุ่นใหม่ Apple TV ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น อย่าง Apple TV 4K เจเนอเรชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่างรีโมท หลังจากที่มันได้รับเปิดตัวไปในปีนี้ ก็ได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน บางคนอาจรู้สึกว้าวกับมัน แต่ก็มีดีไซนเนอร์บางคนเหมือนกันที่รู้สึกว่าแค่ เพิ่มรีโมท กล่องรับสัญญาณที่มีค่า refresh rate สูง หรือ เทคโนโลยี Dolby Vision น่าจะยังไม่เพียงพอสำหรับ Apple TV เขาจึงลองออกแบบ Apple TV เวอร์ชั่นใหม่ที่มีการอัพเกรดดีไซน์และฟีเจอร์ใหม่ออกมา Iván Antón นักออกแบบชาวสเปน ได้โชว์ผลงานการออกแบบของตัวเองชื่อว่า ‘Apple TV 2021 concept’ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมอุปกรณ์ Apple TV ใหม่ให้มีความทันสมัย ใช้งานได้ง่ายขึ้น
ปีนี้ถือเป็นปีที่ดุเดือดสำหรับตลาดสตรีมมิ่ง แต่ละค่ายหนังไม่ว่าจะเป็น Netflix ที่ติดตลาดผู้คนส่วนใหญ่จนแมสไปแล้ว หรือ HBO Max มาจนถึง Disney ที่เตรียมสร้าง Desney+ พร้อมขนซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลมาเรียกแฟนหนังกันยกใหญ่ ล่าสุดค่ายโทรศัพท์ชื่อดังอย่าง Apple TV+ ก็กำลังสร้างซีรีส์เป็นของตัวเองเช่นเดียวกันโดยคว้าพระเอกมาดเซอร์ Jason Momoa มารับบทนำในโปรเจกต์ใหญ่ See (2019) เป็นออริจินัลคอนเทนต์ของค่าย Apple TV+ กับซีรีส์ Sci-Fi ที่มีกลิ่นอาย Drama อัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยมท่ามกลางบรรยากาศดิบ ๆ เมื่อโลกใบเดิมของมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 เกิดมีไวรัสร้ายแพร่กระจายและคร่าชีวิตของผู้คนไปนับล้าน ๆ จนท้ายที่สุดแล้วโลกเหลือผู้รอดชีวิตไม่ถึง 2 ล้านคน ผู้รอดตายต้องแลกมาด้วยความบกพร่องทางการมองเห็นเพราะไวรัสทำลายระบบการมองเห็นไปจนหมดสิ้น วันเวลาผ่านไป ผู้คนที่เหลืออยู่ต้องเริ่มชีวิตใหม่อยู่กับการสัมผัสและเสียง สิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องใช้สายตาถูกหลงลืมไปตามกาลเวลา เมื่อวันสิ้นโลกกลายเป็นเรื่องเก่ากว่า 600 ปีที่บอกเล่าต่อกันมาหลายรุ่น เรื่องราวของคนที่มองเห็นกลายเป็นแค่คำบอกเล่าคร่ำครึ เป็นตำนานเรื่องนอกรีตที่ผู้คนหวาดกลัว ห้ามพูดถึงมันโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกเรียกว่าแม่มดและโดนเผ่าใหญ่อย่างกลุ่มล่าแม่มดจับเผาทั้งเป็น Baba Voss (Jason Momoa) หัวหน้าเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเจอกับหญิงสาวนิรนามท้องแก่หลงทางในพายุหิมะ เขารับเธอเข้ากลุ่มท่ามกลางความไม่พอใจของสมาชิกบางคนเพราะเธอเป็นคนนอก หญิงสาวคนนี้เรียกได้ว่าเป็นทั้งปัญหาและอนาคตที่จะเปลี่ยนโลก
หลังจากที่ระบบสตรีมมิ่งในอินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่โทรทัศน์ ก็ทำเอาไลฟ์สไตล์ของผู้ชายเราผูกโยงกับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจอสมาร์ตโฟนมากกว่าจอแก้วที่ดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้การมาของวิดีโอสตรีมมิ่งจะไม่ได้ร้ายแรงขนาดทำลายธุรกิจโทรทัศน์ได้ แต่มันก็เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปโดยที่วงการจอแก้วยากจะต่อกร ถ้าบอกว่าธุรกิจแนวนี้กำลังมาแรงก็คงไม่แปลกนัก เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีสตรีมมิ่งวิดีโอเกิดขึ้นมากมายและผู้คนก็นิยมอย่างล้นหลาม ทั้ง LINE TV, Netflix, Roku, Disney และเจ้าอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน พวกเขาต่างต่อสู้ฟาดฟันกันเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะซีรีส์ ภาพยนตร์ แอนิเมชัน หรือแม้แต่ภาพยนตร์สารคดีก็ตาม แต่ไม่นานมานี้ความมั่นคงของค่ายยักษ์แห่งวงการสตรีมมิ่งวิดีโอก็ต้องสั่นคลอนอีกครั้ง เมื่อ Apple ประกาศเปิดตัว Apple TV+ พร้อมชูจุดขาย “Cheaper Streaming Service” หรือ “บริการสตรีมมิ่งที่ถูกกว่า” จากบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สุดแข็งแกร่งของโลก เตรียมมุ่งหน้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งอย่างเต็มตัว ผลที่ตามมาคือทำให้หุ้นของ Netflix ลดลงถึง 3.25% หุ้น Disney ลด 2.76% และหุ้นของ Roku ลดลงมากถึง 12.62% การต่อสู้กับคู่แข่งตัวฉกาจ แม้ Apple จะมีรากฐานที่แข็งแรง แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับน้องใหม่ที่ต้องสู้รบกับพี่ ๆ ยักษ์ใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการนี้มาก่อนหลายปี ไหนจะ Disney
ในวันที่ Streaming TV & Movies อย่างพวก Netflix เริ่มเข้าสู่ตลาดบ้านเราอย่างหนาแน่น การเปิดตัวของ Apple TV 4K กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแบบจริงจังสักที คิดว่าหลายคนคงเบื่อข่าวของ iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X กันจนเอียนแล้ว UNLOCKMEN เลยขอตัดข่าว อัพเดทข้อมูล Apple TV 4K ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาพร้อมกันให้ฟังกัน ว่าทำไมถึงต้องสอยติดบ้านไว้สักตัว Apple TV 4K อัพเกรด Apple TV รุ่นใหม่ ตั้งแต่สเปคติดเครื่องที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลแบบ A10x แบบเดียวกับที่ iPad Pro ใช้ และใส่ RAM ให้สูงถึง 3GB ทำให้มันโคตรเร็วกว่าเก่าเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ตามชื่อรุ่นเลยคือความสามารถที่รองรับได้ทั้งแบบ 4K ได้ที่ 60fps และ High Dynamic