วินาทีนี้คงจะไม่มีซีรีส์เรื่องไหนจะร้อนแรงได้เท่ากับ Beef ของ Netflix อีกแล้ว ! ซีรีส์เรื่องนี้ผลิตโดย A24 ค่ายสุดไฮป์ผู้ขยันสร้างตำนานได้ทุกวัน กับเรื่องย่อสุดมินิมอลที่สามารถเล่าไว ๆ บรรทัดเดียวจบได้แบบนี้ “นี่คือเรื่องราวระหว่าง Danny Cho กับ Amy Lau คนแปลกหน้าที่ประทะอารมณ์กันบนท้องถนน บีบแตรรถใส่กัน ด่ากัน ชูนิ้วกลางให้อีกฝ่าย จนนำไปสู่ความวายป่วงของชีวิตเกินกว่าใครจะคิดฝัน” ถึงแม้ว่าเรื่องย่อของซีรีส์จะแสนสั้น แต่ซีรีส์เรื่องนี้อุดมด้วยรายละเอียดของประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างเข้มข้น ทั้งฉายภาพความเหนื่อยล้าของชนชั้นกลางที่ทำงานเพื่อคนอื่นตลอดชีวิตแต่ไม่มีใครเห็นค่า ความคิดชุ่ย ๆ ของ Privillage ที่มองคนเป็นคนไม่เท่ากัน และอีกหลายประเด็นที่ดูจบครั้งเดียวคงเก็บรายละเอียดไว้ไม่หมดแน่นอน สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ อย่างแรกเกี่ยวกับ Beef คือการวางตัวของ Lee Sung Jin เดบิวต์ในฐานะ Creator และ Director เป็นครั้งแรก หลังจากที่เขาเป็นคนเขียนบทซีรีส์มาโดยตลอด ผลงานเด่น ๆ ก็จะมี Undone (2019) / Dave (2020) /
เราคือหนึ่งคนที่หลงใหล ‘เนื้อ’ แบบสุดลิ่มทิ่มประตู (หมายถึงเนื้อสำหรับกินนะ ไม่ใช่สำหรับสูบ) ไม่ว่าจะเมนูอะไรก็ต้องเนื้อไว้ก่อน กระเพราเนื้อ, ก๊วยเตี๋ยวเนื้อ, ผัดพริกแกงเนื้อ, แกงกะหรี่เนื้อ และอีกสารพัดเนื้อ ได้ยินว่ามีเนื้ออร่อยที่ไหนต้องตามไปกิน เป็น Beef Lover โดยแท้จริง สำหรับเราเนื้อที่ดีไม่จำเป็นต้องมาแค่ในรูปแบบสเต็กเท่านั้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ ‘5 ร้านเนื้อ’ หลากหลายประเภท ที่ขอเอาเกียรติของคนรักเนื้อเป็นประกัน! Tora Tora อีกหนึ่งร้านที่มาแรงไม่น้อยหน้าคือ Tora Tora Japanese Kitchen ร้านเนื้อรสเลิศที่ตั้งอยู่ในย่านสะพานควาย ลึกเข้าไปในประดิพัทธ์ซอย 6 เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นข้าวหน้าเนื้อของร้านนี้บน Instagram ของใครสักคนแน่นอน ตัวร้านก็เรียบง่ายตามสไตล์ Modern Loft Style โดยดัดแปลงมาจากตึกแถว ทำให้ผู้มาเยือนไม่รู้สึกเกร็งหรือประหม่า ในส่วนของอาหารที่นี่ย่อมต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะเจ้าของร้านนี้คือเชฟดีกรี Le cordon bleu จากประเทศออสเตรเลีย โดยแนวคิดการสร้างสรรค์อาหารของเขาคือการเลือกเนื้อคุณภาพเยี่ยมในประเทศไทย นำมาปรุงรสในสไตล์ยุโรป และตกแต่งให้หน้าตาอาหารออกมาเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึง แค่ดูเฉย ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความฉ่ำแล้ว Location: ประดิพัทธ์ 6 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร Open: 12.00
“เฮ้ย ไปกินก๊วยเตี๋ยวกัน” เวลาผู้ชายอย่างเรา ๆ ได้ยินใครชวนไปกินก๊วยเตี๋ยวแบบนี้ ภาพในหัวเรามักมีแต่ภาพร้านก๊วยเตี๋ยวข้างทาง หรือในตึกคูหาแคบ ๆ บรรยากาศไม่ต้องหรูหรา เท่ หรือคูล แต่รสชาติอร่อย กินไป เหงื่อแตกซ่กไป เอาเป็นว่าเรื่องรสชาติเอาไปเกิน 100 แต่สารร่างของเราหลังจากนั้นควรค่าแก่การไปอาบน้ำคลายร้อน ทำความสะอาดเหงื่อไคลให้หายอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ใช่กับการกินก๊วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ดที่ “26 ยี่สับหลก” แน่นอน เพราะนี่คือร้านก๊วยเตี๋ยวเนื้อที่มีบรรยากาศราวกับอยูในหนังของผู้กำกับหว่องกาไว ในห้องแอร์เย็นเฉียบที่จะทำให้ผู้ชายอย่างเรากินก๊วยเตี๋ยวได้เท่และคูลที่สุดในชีวิต ส่วนความอร่อยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะทายาทรุ่นลูกของร้านก๊วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังย่านพระอาทิตย์อย่างร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ยมาเอง ถ้านึกภาพไม่ออกว่าการพาตัวเองไปกินก๊วยเตี๋ยวเนื้อและเมนูเนื้อแบบเท่ ๆ มันเป็นยังไง ลองให้ UNLOCKMEN พาคุณไปพิสูจน์ดู ผนังเขียว แสงแดง เหมือนได้แฝงตัวอยู่ในหนังหว่องกาไว พักภาพร้านก๊วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยทั้งหลายที่มักอร่อย แต่บรรยากาศไม่อร่อยเท่าไหร่เอาไว้ก่อน แล้วเปิดประตูเข้าไปใน 26 ยี่สับหลก พร้อมกันกับเรา เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นแฟนหนังของผู้กำกับชาวฮ่องกงอย่างหว่องกาไวที่ถนัดในการสร้างบรรยากาศเท่ ๆ เหงา ๆ ภายใต้แสงสีหม่นตา เรารับรองได้เลยว่า 26 ยี่สับหลก จะทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังของหว่องกาไวอย่างไรอย่างนั้น ความดิบ ความเท่ แบบที่ผู้ชายอย่างเราต้องหลงใหลอัดแน่นอยู่ภายในร้าน ทั้งงานปูน งานอิฐ งานเหล็ก คุมโทนด้วยผนังสีเขียวเข้ม ตัดกับแสงนีออนสีแดง รวมถึงส่วนครัวที่เปิดเปลือยให้เห็นการปรุงทุกขั้นตอน