ทำงานด้วยกันทีไร ก็มีแต่คนบ่นเรื่องการสื่อสาร พูดน้อยจัง ไม่ออกความเห็นหน่อยหรอ มีไอเดียอีกมั้ย คำถามเหล่านี้ชวนให้เราอึกอักทุกครั้งที่ได้ยิน ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงให้น่าฟังเลยเลือกการไม่ตอบเลยซะดีกว่า จนเรากลายเป็น “คนพูดน้อย” ไปโดยปริยาย อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นบุคลิกส่วนตัวนี่นา จะเปลี่ยนกันง่าย ๆ ได้ไง แต่จริง ๆ มันส่งผลทั้งการทำงานและความสัมพันธ์ เราอาจจะมองข้ามเรื่องความสัมพันธ์ในที่ทำงานได้ ถ้าเราเป็นคนไม่เข้าสังคม แต่เราจะไม่สนใจเรื่อง Performance ของงานไม่ได้ ถ้ารู้สึกว่าไอ้อาการ “พูดน้อย” ของเรามันกำลังทำให้เราเข้ากับที่ทำงานได้ยาก UNLOCKMEN ขอแนะนำทางออกให้หนุ่มพูดไม่ค่อยเก่ง ได้ Improve ตัวเองให้เจ๋งแบบผิดหูผิดตา พูดน้อยแล้วผิดตรงไหน ? คนพูดน้อยเนี่ย เขามักจะพูดแต่อะไรที่จำเป็น อาจจะออกมาในรูปแบบ ถามคำตอบคำ เอ่อ ๆ อืม ๆ ตามความเห็นของคนอื่นไป ถ้ายังไม่แน่ใจในความคิดของตัวเอง ทำแบบนั้นบ่อย ๆ เข้า เขาจะรู้สึกว่า “เมื่อเราไม่ได้พูดเป็นต่อยหอยเหมือนคนอื่น มันผิดตรงไหนกันนะ ?” ถ้ามองในแง่การเข้าสังคม มันไม่ผิดหรอก เพราะแต่ละคนย่อมมีบุคลิกที่แตกต่างกันไป แต่ในแง่ของการทำงานร่วมกับผู้อื่น มันเหมือนกับ “ขาดการสื่อสาร” คนอื่นจะไม่รู้ถึงความต้องการ
เราต่างประสบปัญหาหัวร้อนเป็นไฟกันมาแล้วเมื่อต้องถกเถียงกับใครอย่างดุเดือดผ่านทางช่องการสื่อสารออนไลน์ จนเราพากันคิดว่านี่เราตั้งสเตตัสอธิบายยาวเหยียดก็แล้ว ส่งข้อความไปคุยด้วยก็แล้ว ทำไมยังเถียงกันไม่จบ แถมอีกฝั่งก็ไม่ได้ดูมีทีท่าว่าจะเข้าใจเรามากขึ้นเลย UNLOCKMEN ขอเสนอตัวหยุดความหัวร้อนเป็นไฟไว้ให้ แล้วเอา 3 วิธีทำให้เขาฟังเราอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาฝาก 3 วิธีหยุดวามหัวร้อนเป็นไฟแล้วทำให้เขาหันมารับฟังเราอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นมาลอย ๆ แต่เป็นงานวิจัยที่ผ่านการศึกษามาแล้วอย่างจริงจังโดย Juliana Schroeder ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการจัดการองค์กรที่ Haas School of Business, University of California, Berkeley Juliana Schroeder ศึกษาเรื่องการมีข้อถกเถียงระหว่างกันโดยศึกษาคน 300 คน ซึ่งทั้ง 300 คนนั้นถูกขอให้ร่วมดู ร่วมฟัง และร่วมอ่านข้อถกเถียงต่าง ๆ เช่น เรื่องการทำแท้ง เรื่องสงคราม เรื่องเพลง (โดยอาจจะเป็นเรื่องที่เขาเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้) ผลปรากฏว่าการถกเถียงกันแต่ละครั้งและมีแนวโน้มที่จะทำให้อีกฝ่ายหันมารับฟังเราหรือเข้าใจเราได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ไม่ใช่การเถียงกันผ่านตัวอักษรอย่างการอ่านหรือเขียน แต่เป็นด้วยการดู การพูดหรือการฟังมากกว่า ข้อสรุปจากงานวิจัยของ Juliana Schroeder จึงมีความสำคัญต่อผู้ชายหัวร้อนอย่างเรามาก เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้ว่าเราควรสื่อสารผ่านทางช่องทางไหนเมื่อต้องการโน้มน้าวใจคนที่เขาไม่เห็นด้วยกับเรา โดยเฉพาะการเจรจาทางธุรกิจ ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าคุณจะส่งข้อความคุยกันเฉย ๆ ไม่ได้