มนุษย์เงินเดือนหลายคนคงต้องใช้ขนส่งสาธารณะกันเป็นประจำ และหลังจากเกิดวิกฤต COVID-19 ก็คงต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะมันเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน เมื่อ COVID-19 น่าจะอยู่กับเราไปอีกสักพัก UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการเอาตัวรอดจากโรคระบาดเมื่อต้องใช้งานขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์และรถไฟฟ้า มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรทำ วางแผนเวลาเดินทางให้ดี ก่อนที่เราจะออกจากบ้าน หรือ ที่ทำงาน เพื่อใช้ขนส่งสาธารณะเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง เราต้องวางแผนการเดินทางกันสักหน่อย เพื่อให้เราสามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลาที่คนใช้งานกันเยอะ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้การรักษาระยะห่าง และการป้องกันการติดเชื้อจากคนสู่คนทำได้ยาก พยายามวางใช้ขนส่งสาธารณะในเวลาที่ไม่ค่อยมีคน หรือ คนน้อยที่สุด เพื่อให้เราปลอดภัยจากการติดเชื้อมากขึ้น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการใช้งานในเวลานั้นไม่ได้ ลองคิดถึงวิธีการเดินทางแบบอื่นที่จะทำให้เราปลอดภัยมากขึ้นดูจะดีกว่า เตรียมของให้พร้อม สิ่งที่เราควรเตรียมให้พร้อมก่อนออกเดินทางไปที่ไหนก็ตาม คือ ผ้าเช็ดทำความสะอาดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว รวมถึง เจลล้างมือแอลกอฮอล์ 60% ไว้ใช้สำหรับกรณีที่เราหาที่ล้างมือไม่ได้ และที่สำคัญอย่าลืมพกหน้ากากอนามัยสำรอง สำหรับใช้ในกรณีที่ทำหน้ากากหายหรือหน้ากากเสื่อมสภาพ เช่น เปียกหรือสกปรก และถุงพลาสติกสำหรับใส่หน้ากากที่เสียแล้วด้วย รักษาระยะห่าง ถ้าอยู่ในที่ที่มีคนแน่นอนว่าการรักษาระยะห่างเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะยิ่งเราอยู่ห่างจากคนมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิดมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นพยายามรักษาระยะห่างระหว่างคนอื่นราว 6 ฟุต หรือ 1 ช่วงแขน หรือ เวลานั่งก็พยายามเว้นที่นั่งด้านข้างไว้ เพื่อเป็นการเซฟตัวเอง แต่ถ้าวันนั้นคนเยอะมากจริง
หลังจากครั้งที่แล้วที่เราทำคอนเทนต์บอกวิธีทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วทิ้งให้ถูกวิธีไปคราวที่แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นอีกปัญหาที่ UNLOCKMEN สงสัยอย่างเรื่องการป้องกันโรคด้วยการทำความสะอาดบ้าน เพราะหน้ากากอนามัยอาจจะใช้แล้วทิ้ง แต่พวกข้าวของที่ออกไปนอกบ้านพร้อมกับเราล่ะ ใช้แล้วจะทำอย่างไร แปลว่าต่อให้เราคิดว่าในบ้านเรามันปลอดเชื้อแค่ไหนเพราะไม่มีสมาชิกคนไหนติดเชื้อ แต่สุดท้ายโอกาสที่เราหรือคนอื่น ๆ จะนำไวรัสกลับมาอยู่ที่บ้านก็ยังมีอยู่ดี บ้านที่น่าจะปลอดภัยจึงอาจกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุดได้หากไม่หมั่นทำความสะอาด แต่เอาเป็นว่าก่อนจะไปกำจัดมัน ต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจมันก่อน COVID-19 ปัจจุบัน เชื้อที่แค่ถูกน้ำสบู่ก็ตายแล้ว ? แม้จะสามารถติดเชื้อระหว่างบุคคลได้ง่าย ทำให้ระบาดจนกลายเป็นเชื้อไวรัสที่หลายประเทศจับตาเฝ้าระวัง แต่เรื่องหนึ่งที่ต้องรู้คือ มันแพร่ง่ายมันก็ตายง่ายด้วยเช่นกัน เพราะตามข้อมูลที่แพทย์และกระทรวงสาธารณสุขเผยตรงกันคือเราสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ด้วย “น้ำสบู่” วัสดุราคาถูกที่อยู่ใกล้มือ หน้ากากอนามัยหนึ่งชิ้นอาจจะแพงกว่าสบู่ก้อนเดียวที่เราใช้ได้หลายครั้งเสียอีก ความจริงเรื่องนี้มาจากเหตุผลที่ ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเพจ ดร. แกง อธิบายไว้สรุปการฆ่าเชื้อด้วยน้ำสบู่ดังนี้ ไวรัสไม่ใช่สิ่งมีชีวิต อยู่ลำพังไม่ได้ แต่ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิต (Host) เป็นตัวจับเพื่อผลิตชิ้นส่วนชีวิต การเพิ่มจำนวน และเดินทางออกจากเซลล์พักพิงไปสำรวจเนื้อเยื่อและอวัยวะอื่นๆ ตัวไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้เป็นไวรัสประเภทมีเยื่อหุ้ม (Envelope) และเยื่อหุ้มของมันประกอบด้วยสารไขมันและโปรตีนเป็นส่วนประกอบเลยยิ่งง่ายต่อการถูกทำลายเมื่อเจอน้ำสบู่ ทั้งหมดเกิดจากโมเลกุลสบู่มีส่วนประกอบ 2 ส่วนคือส่วนหัวกับส่วนหาง ส่วนหัวชอบน้ำแต่ส่วนหางไม่ชอบน้ำ ดังนั้นเวลาล้างมือส่วนหางของโมเลกุลที่ไม่ชอบน้ำจึงไปจับไขมันในเยื่อหุ้มไวรัส จากนั้นเมื่อไขมันโดนแย่งออกจากเยื่อหุ้มไวรัส เยื่อหุ้มก็โดนทำลาย ทำให้ไวรัสอยู่ไม่ได้จึงต้องตายไปในที่สุด แล้วเราต้องล้างมือด้วยสบู่กี่รอบต่อวัน ?