ช่วงนี้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) กำลังเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างให้ความสนใจ หลายคนหวังทำกำไรจากการครอบครองสกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency) เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) หรือ Cardano (ADA) และมีหลายคนเช่นกันที่ผันตัวเองมาเป็น ‘นักขุดคริปโต’ (Cryptocurrency Miner) ส่งผลให้การ์ดจอคอมพิวเตอร์กลายเป็นของมีราคาและหายากมากขึ้น UNLOCKMEN จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับอาชีพใหม่ Cryptocurrency Miner พร้อมแนะนำเคล็ดในการตัดสรรเครื่องชุดเพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มเข้าสู่วงการขุดได้ตั้งแต่วันนี้ การขุดคริปโต คือ อะไร เวลาเกิดการตัดสินใจลงทุนในสกุลเงินคริปโต เช่น มีคนซื้อใช้เงินซื้อเหรียญคริปโต ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวจะถูกจัดเก็บในรูปแบบของ Block ใน Blockchain ของคริปโตนั้น ๆ แต่เนื่องจาก Blockchain เป็นระบบที่ไม่มีตัวกลางในการตรวจสอบการทำธุรกรรม Block จึงไม่สามารถเกิดขึ้นโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ ต้องมีคนในเครือข่ายมาทำหน้าที่ตรวจสอบการทำธุรกรรมดังกล่าว หรือ ที่เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่าเป็น ‘นักขุด’ (Miner) พวกเขาต้องมาแข่งกันแก้สมการคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูงโดยใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ เพื่อหาเลข ‘Hash Number’ ของ Block ที่กำลังถูกสร้างใหม่ขึ้น หากคอมเครื่องไหนมีความสามารถในการประมวลผลที่ดีที่สุดจนสามารถแก้ไขสมการได้เป็นเครื่องแรก เจ้าของคอมเครื่องนั้นจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินคริปโต
เงียบมาสักระยะสำหรับเรื่องข่าวคราวของสายสกุลเงินดิจิทัล หลังจากหลายคนหมุนเข้า ๆ ออก ๆ กันไปมาด้วยหลายเหตุผล ทั้งไม่อยากลงทุนบ้าง หน้าใหม่ไม่เหลือช่องให้เข้าก็มี แต่เมื่อไม่นานนี้ จู่ ๆ เรื่องนี้ก็กลับมาสร้างกระแสฮือฮาอีกครั้งหลังจากที่ Facebook โดดเข้ามาสร้างสกุลเงินของตัวเองจริงจังและประกาศใช้ตั้งชื่อสกุลเงินดิจิทัลอย่างไม่เป็นทางการว่า “Libra” แต่ทันทีที่ประกาศตัวกับเผยข้อมูลไม่นาน ทางสภาคองเกรสก็ออกมาเบรกหัวทิ่มให้ทางเฟซบุ๊กชะลอโครงการนี้ก่อน เพราะอะไรและเราจะมีโอกาสสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลไหม ลองมาดูข้อมูลบางส่วนที่เราสรุปให้พร้อมกัน Libra อภิมหาโปรเจกต์ยิ่งใหญ่ใจถึง องค์กรใหญ่ก็ต้องคิดการใหญ่ สำหรับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่มีคนใช้งานสูงถึง 2,000 ล้านคนทั่วโลกอย่างเฟซบุ๊กเองก็ไม่ได้เริ่มตั้งไข่ Libra ไว้เล่น ๆ แต่เขาตั้งเป้าว่าสกุลเงิน Libra นี้จะเป็นโครงสร้างทางการเงินระดับโลกเพื่อคนยุคนี้ เพราะทุกวันนี้หลายพื้นที่ของโลกยังเข้าไม่ถึงสถาบันการเงินหลัก เปิดบัญชีธนาคารไม่ได้ ฯลฯ แต่เรายังมีมือถือ ดังนั้น ถ้าเปิดให้ใช้ช่องทาง Cryptocurrency ของ Libra เข้าไปใช้งานได้เมื่อไหร่ ปัญหานี้จะหมดไปทันที แถมยังตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่หันไปใช้ไลฟ์สไตล์แบบ Unbanked หรือการทำธุรกรรมนอกธนาคารกันหมดแล้ว และยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่เชื่อมการใช้เงินต่างสกุลกัน เพราะใช้เงินสกุลกลางอย่าง Libra ได้ แต่เพื่อความโปร่งใสกับการตั้งตัวเป็นสถาบันกลางของโลก ฝั่งเฟซบุ๊กเขาเลยจัดตั้งองค์กรแยกที่เข้ามาควบคุมดูแลเรื่องนี้ โดยจัดตั้งเป็น Libra Association องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานร่วมกับพันธมิตร
หลังจบ ‘GARAGE’ พื้นที่ใหม่ที่ UNLOCKMEN ตั้งใจสร้างขึ้น เพื่อให้สหายชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้มีโอกาสเยี่ยมเยียน MAN CAVE ของเรา พร้อมมอบประสบการณ์ UNLOCK ในรูปแบบที่ใกล้ชิดมากกว่าการอ่านผ่านตัวหนังสือ เข้ามารวมตัวกันนั่งพูดคุยหรือสัมผัสเรื่องที่คุณไม่เคยรู้ด้วยกันกับเราแบบถึงพริกถึงขิง ซึ่งหนนี้เราว่าด้วยเรื่องของการเอาชนะขีดจำกัดขั้นแรกอย่าง “ความกลัว” ด้วย “ความรู้” ด้านการเงิน กับเรื่องที่ใกล้ตัวที่เราได้ยินมันมาตลอด แต่อาจจะไม่เข้าใจมันอย่างทะลุมากพอ นั่นก็คือ “BLOCKCHAIN” คำจ่อปลายหูที่หลายคนได้ยิน แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้เกิดความกลัวที่จะสัมผัสมัน อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสดี ๆ จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไป บวกกับหลายเสียงที่ e-mail มาถามเราว่า ‘พอจะเข้าใจ Bitcoin แต่ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับ Blockchain ยังไง มันเกิดจากอะไร มันเป็นของใคร’ พอไม่รู้ก็เลยไม่กล้าลงทุน ในขณะที่ราคา Bitcoin พุ่งไปไกลจนหลายคนตามไม่ทัน คิดได้ดังนั้น เราก็เลยเชิญกูรูด้านนี้โดยเฉพาะ ให้มาอธิบาย พูดคุยกันให้กระจ่าง ด้วยการเชิญคุณ Alan Lee – Blockchain Developer บินตรงดิ่งมาจากสิงคโปร์
ชาว UNLOCKMEN สายถ่ายภาพทั้งมือสมัครเล่นและมือโปรเตรียมยิ้มหวานกับการประกาศอย่างเป็นทางการให้สะเทือนวงการภาพ เมื่อบริษัทยักษ์ล้มเจ้าดังอย่าง KODAK ลุกมาจับมือกับ Wenn Digital บุกตลาดค้าภาพลุกมาสร้างสกุลเงินกลางสายดิจิตอลสำหรับนักถ่ายที่หวังจะดึงอำนาจการสื่อขายถ่ายโอนภาพให้ได้ดังใจ KODAKCOIN สกุลเงินใหม่มีไว้ทำไม? หลายคนสงสัยว่าเมื่อมีสกุลเงินดิจิตอลชื่อดังอย่าง Bitcoin แล้ว ทำไมยังต้องมี KODAKCOIN มาเพิ่มอีก คำตอบง่าย ๆ ก็คือไอ้ระบบสกุลเงินดิจิตอลเนี่ย Bitcoin มันอาจจะดังที่สุด แต่มันก็เป็นแค่หนึ่งในสกุลเงินเท่านั้น และช่วงนี้ก็เป็นขาขึ้นของ cryptocurrency จึงไม่แปลกที่ KODAK เองจะสนใจ หันไปปล่อย Currency ของตัวเอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ Portfolio ด้วยความเชื่อมั่นในระบบ Blockchain และรู้ว่านี่ยังเป็น Blue Ocean ที่จะทำเงินได้ แถมการใช้ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่อย่าง KODAK ย่อมทำให้ค่าเงินของตัวเองมีมูลค่าน่าสนใจกว่าเจ้าไหน ๆ ในตลาด คนใช้ได้จะได้อะไร? KODAK เขาก็ออกมาเผยข้อดีว่าแพลนนี้มันดีนะยูวววว มันช่วยเปิดมิติการซื้อขายรูปอย่างเท่าเทียมขึ้นมา ช่างภาพอยากขายภาพก็เทรดตรงไปเลยระหว่างคนซื้อคนขาย จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะการซื้อขายทุกวันนี้ที่มันมีช่องว่างของพ่อค้าคนกลางมาเอี่ยวบ้าง หรือบรรดาคนซื้อหัวหมอที่ซื้อครั้งเดียวใช้ไปรัว ๆ ทุกช่องทาง หรือมุกหนูไม่รู้ที่หยิบเอาช่องว่าระหว่างพรมแดนมาบอกบ่อย