ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ทะยานสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แปลกถ้าผู้ชายบางคนจะรู้สึกวิตกกังวล ไม่เป็นอันกินอันนอน และตื่นกลัวทุกสิ่งอย่าง ไหนจะข่าวสารที่น่าหดหู่ ผู้คนบางตารอบตัว หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป คล้ายกับอุปาทานหมู่ที่ทำให้เราวิตกตามไปด้วย แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างตอนนี้ กลับเป็นช่วงที่เราต้องมีสติและเข้มแข็งมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณปล่อยให้อารมณ์วิ่งพล่านและอาละวาดโดยปราศจากการควบคุม อาจทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วย่ำแย่ลงไปอีก วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะมาบอกวิธีควบคุมและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปไหนไกล เพื่อให้คุณยังมีสติ เข้มแข็ง และยืดหยัดอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ต่อไปได้ รู้จักอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้น วิธีพื้นฐานในการควบคุมจัดการกับอารมณ์ตัวเอง เริ่มจากคุณต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้อารมณ์แบบไหนกำลังเกิดขึ้นกับคุณอยู่ หากสามารถจำแนกและบอกได้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แปลว่าคุณมีสติและควบคุมอารมณ์ได้ในระดับหนึ่งแล้ว นอกจากนั้นการรู้จักอารมณ์ยังช่วยจัดการกับอารมณ์เชิงลบและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณได้ เช่น ถ้าคุณรู้สึกวิตกกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัส ความกังวลของคุณจะอยู่บนพื้นฐานของความคิดและเหตุผล คุณจะไม่กระวนกระวายเหมือนคนอื่น ๆ หากมีสติและพร้อมแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด ช่วยเหลือคนรอบตัว แม้คุณสามารถจำแนกและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่เชื่อว่ายังมีคนในครอบครัวหรือคนรอบตัวอีกมาก ที่ไม่อาจจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ นานาได้อย่างคุณ คุณจึงต้องช่วยนำทางพวกเขาหรือแบ่งปันอารมณ์ร่วมกัน ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างและพอมีวิธีไหนจะทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นได้บ้าง ถ้าความวิตกกังวลเรื่องไวรัส COVID-19 เป็นอุปาทานหมู่ที่ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกแย่ตามไปด้วย การมีสติ เข้มแข็ง และควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ก็สามารถกลายเป็นอุปาทานหมู่ที่ส่งต่อไปยังคนอื่นได้เช่นกัน ไม่ต่างจากเรื่องไวรัส จดจ่อสิ่งที่ทำได้ คุณอาจไม่สามารถไปยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในวงกว้างได้ แต่เราอยากให้คุณมุ่งเน้นในเรื่องที่คุณทำได้และทำมันให้ดีที่สุด เช่น
สกิลลื่นไหลตอนเจอปัญหาเฉพาะหน้า เป็นอะไรที่เฉพาะตัวอยู่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนก็มีวิธีที่ต่างกันไป บางคนมุดซ้ายมุดขวา หลบปัญหาไปได้แบบดิจิทัล แต่บางคนก็ได้แต่ยืนขาแข็ง อุทานในใจซ้ำ ๆ หลายสิบรอบว่า “ซวยแล้วกู!” ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบไหน UNLOCKMEN ชวนเพิ่มเติมสกิลลื่นไหล เมื่อเจอปัญหาตึงเครียด ไม่ว่าจะเป็นกับครอบครัว คนรัก หรือแม้แต่ในที่ทำงาน โชว์แมนแบบเหนือชั้น ด้วยการลอยตัวเหนือปัญหา ให้เห็นไปเลยว่าใครคุมเกมอยู่ คุมภาษากายให้ดี สเต็ปแรกของการเอาอีกฝ่ายให้อยู่หมัด แม้อีกฝ่ายกำลังเดือดเป็นภูเขาไฟพร้อมปะทุอยู่ตลอดเวลาก็ตาม นั่นคือ “อย่าแสดงท่าทีหยาบคาย” ซึ่งเป็นคนละอย่างกับการพูดจาหยาบคาย (ซึ่งก็ไม่ควรเช่นกัน) ในเวลาที่เรารู้สึกไม่พอใจ แม้จะไม่ได้แสดงออกเป็นคำพูดที่รุนแรง แต่มันอาจจะเผลอสื่อออกมาทางภาษากายโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ อย่างอาการเบสิก ๆ เช่น ตาขวาง เบะปาก มองบน กอดอก เชิดหน้า มันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณกำลังแข็งกระด้างใส่เขา และกำลังเอาอีโก้ขึ้นมานำหน้า ซึ่งมันไม่ใช่ทางออกที่ดีแน่นอน แม้ว่าอีกฝ่ายจะหัวเสียแค่ไหน หรือเขาจะแสดงออกแบบก้าวร้าวแค่ไหน เราไม่จำเป็นต้องไหลไปตามเขา เราต้องโชว์การคุมเกมด้วยการคุมตัวเองก่อน ทั้งแววตา และท่าทาง ต้องแสดงออกแบบเป็นมิตร ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรากำลังเปิดรับความคิดเห็นของเขา หลีกเลี่ยงการแสดงออกที่แข็งกระด้าง แสดงออกว่าคุณพร้อมรับฟัง และแก้ปัญหานี้ด้วยความจริงใจ ไม่ปิดกั้น ไม่ใช่ว่าทำเป็นเหมือนฟัง แต่ตั้งกำแพงเอาไว้แล้ว