“การเดินทาง”สำหรับผู้ชายหลายคนไม่ได้มีความหมายแค่การพาร่างกายออกไปเปลี่ยนที่หายใจ แต่หมายถึงการพาร่างกาย สมองและหัวใจไปดู ไปรู้ ไปเห็น ไปตามหาความหมายของอะไรบางอย่างในชีวิต บางคนเดินทางตามหาความฝันที่หลบซ่อนอยู่ตรงไหนสักแห่ง บางคนตามหาแรงบันดาลใจที่หายไป บางคนตามหาสาระสำคัญของชีวิตที่พวกเขาไม่อาจหาเจอเมื่อหยุดนิ่งอยู่กับที่ หลายคนจึงเริ่มออกเดินทาง หนัง 5 เรื่องต่อไปนี้ก็เช่นกัน ตัวละครล้วนแต่ออกเดินทางเพื่อความหมายบางอย่างทั้งสิ้น บางเรื่องอาจเป็นแรงกระตุกให้เราอยากก้าวเดินในจังหวะของเรา ในขณะที่บางเรื่องสร้างจากเรื่องจริงที่จะช่วยให้เรารู้สึกถึงเสียงหัวใจของตัวเองว่าออกเดินทางไปพร้อมกับพวกเขาสักครั้งในชีวิตก็คงดีไม่น้อย Into the Wild หนังการเดินทาง ภาพสวย เนื้อเรื่องดี มีความหมาย แถมมีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง! ผู้ชายที่กำลังตามหาความหมายของชีวิต หลังจากจบการศึกษาเขากลับไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้ามันใช่อย่างที่เขาต้องการจริงไหม และความคิดที่ว่าการมีชีวิตสำคัญกว่าการแค่หาเงินแล้วตายจากไปมันแน่วแน่พอหรือเปล่า ดูจบ เราจะนั่งนิ่ง ๆ ไปสักพัก ก่อนจะทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่เราเชื่อ อุดมการณ์ของเรามันเป็นไปได้แค่ไหนในชีวิตจริง การออกเดินทางอาจจะตอบคำถามนี้ให้เราได้ หรืออาจพาเราไปไกลกว่าคำถามที่เราตั้งไว้ ดูเรื่องนี้เถอะ มันอาจไม่มีคำตอบตายตัวเรื่องการเดินทางและชีวิตให้ แต่รับรองว่าจะคิดอะไรเกี่ยวกับชีวิตตัวเองได้อีกเยอะเลย The Motorcycle Diaries หนัง Road trip อีกเรื่องที่จะปลุกจิตวิญญานขบถในตัวผู้ชาย แถมได้แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของ Che Guevara นักปฏิวัติชื่อดังที่เรามักเห็นภาพเขาจากท้ายรถบันทุก เด็กหนุ่มนักศึกษาแพทย์ออกเดินทางตามหาความหมายของการหายใจอยู่บนโลกใบนี้ด้วยมอเตอร์ไซค์และเพื่อนสนิทของเขาไปทั่วทวีปอเมริกาใต้ หนังเรื่องนี้จะทำให้เราเห็นทั้งการเดินทางทั้งในฐานะเด็กหนุ่มที่กำลังว้าวุ่น พร้อม ๆ กับการเห็นตัวตนของ Che
ความสูญเสียเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคนเราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเสียความสัมพันธ์ การจากไปของใครสักคนตามอายุขัย การจากไปอย่างกระทันหัน หรือการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก แต่ละคนต่างมีเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ที่แตกต่างกัน เราเลยไม่อาจให้ใครมาทำความเข้าใจได้แบบ 100% UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาซึมซับเรื่องราวร้าวรานนี้ผ่าน 5 หนังแห่งความสูญเสีย เพื่อให้ได้เตรียมตัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้แบบทันท่วงที Manchester by the Sea (2016) Director : Kenneth Lonergan ใช่ว่าทุกคนจะรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ได้เท่ากัน เราไม่อาจนิยามได้ว่าเหตุการณ์ไหนร้ายแรงกว่ากัน บางคนเลือกที่จะยืนหยัดต่อสู้ บางคนเลือกที่จะปิดผนึกมันไว้ในก้นบึ้งของความคิด บางคนเลือกที่จะวิ่งหนีมันไปให้ไกล Lee Chandler เองก็เลือกวิธีนั้นเขาหนีเรื่องราวแสนเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญ ด้วยการไปให้ไกลจากเมือง Manchester (เป็นเมืองที่อยู่ในรัฐ Massachusetts, USA ไม่ใช่เมือง Manchester ในอังกฤษแต่อย่างใด) แต่เขาก็ไม่อาจหลีกหนีไปได้ตลอด ในวันที่ได้รับข่าวร้ายเรื่องพี่ชายที่จากไป เขากลับมาร่วมงานอันเศร้าโศกนี้แล้วพบว่าลูกของพี่ชายต้องมาอยู่ในความดูแลของเขาด้วย ลำพังดูแลตัวเองก็ไม่ค่อยจะไหว มาดูกันว่าเขาจะสามารถ Handle เรื่องราวทั้งหมดนี้ด้วยตัวคนเดียวได้อย่างไร แม้เนื้อเรื่องจะฟังดูหนักหน่วง แต่ด้วยการแสดงที่เป็นไปอย่างธรรมชาติ ทำให้เราค่อย ๆ ซึมซับเรื่องราวของพวกเขาอย่างไม่เร่งรีบ ทำความเข้าใจในทุกปัญหาที่เขาต้องเผชิญ และเมื่อดูจบอาจจะเป็นเราเองนี่แหละ ที่สัมผัสได้ถึงความร้าวรานข้างในของตัวละครได้จริง ๆ The Pianist
หลังจาก Trailer ภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทั้งโลกรอคอย Avengers: Endgame ได้ออกฉาย สิ่งที่ตามมาคือสารพัดคำถามมากมายเกี่ยวกับเนื้อเรื่องว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อกลุ่มฮีโร่และประชากรทั้งจักรวาลถูกลบหายไปกว่าครึ่ง รวมไปถึงคำถามสำคัญเกี่ยวกับตัวละครอย่าง Tony Stark หรือ Iron Man ว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดอย่างไรเมื่อต้องอยู่ในยานอวกาศที่ไร้เชื้อเพลิง ไม่มีอาหาร และอากาศก็กำลังจะหมดในไม่กี่วัน ไปจนถึงข้อสงสัยสุดท้ายว่าเหล่า Avengers จะสามารถเอาชนะ Boss ตัวโหดอย่าง Thanos ด้วยวิธีไหน มีทฤษฎีมากมายที่พยายามตอบคำถามต่าง ๆ และ UNLOCKMEN ก็ได้พบกับทฤษฎีที่น่าสนใจ และค่อนข้างจะมีความเป็นไปได้เกี่ยวกับตัวละคร Tony Stark และวิธีการเผด็จศึก Thanos โดยการสร้างหุ่นยนต์ที่เคยเป็นตัวร้ายมาก่อนอย่าง Ultron ขึ้นมาอีกครั้ง จากการสันนิษฐานของ ScreenRant เว็บไซต์ภาพยนตร์ชื่อดัง ได้กล่าวถึงวิธีการที่เหล่าฮีโร่ Avengers จะสามารถเอาชนะตัวร้ายสุดแข็งแกร่งอย่างธานอสได้นั้นมีหลายวิธี และทฤษฎีที่น่าสนใจอันนึงคือการที่ Tony Stark จะรอดจากการติดอยู่กลางอวกาศ และสร้าง Ultron ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งถ้ายังจำกันได้ หุ่นยนต์อัลตรอนคือตัวร้ายในหนัง Avengers: Age of Ultron
ความรักยามเบ่งบาน มันช่างสดใสเหมือนดอกไม้เจอแดดแรกในฤดูร้อน จนเราหลงใหลไปกับมันเพราะคิดว่าความสวยงามนี้จะอยู่กับเราไปตลอด แต่เมื่อฤดูแห่งความร่วงโรยมาถึง ความรักเริ่มสะท้อนด้านอื่น ๆ ที่เราเองก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเปลี่ยนไปได้มากเพียงไหนกันแน่ ลองมาดูความรักในด้านร้าย ๆ กับหนังรักซ้อนซ่อนเงื่อน ROMANTIC THRILLERS ที่ดูได้แบบมันส์หยด ลืมบทหนังรักสุดเลี่ยนไปได้เลย Gone Girl (2014) Director : David Fincher Nick หนุ่มผู้สุดแสนโชคดีในสายตาใครหลายคน ที่สามารถเอาชนะใจ Amy สาวน้อยมหัศจรรย์ได้ จนทั้งคู่ลั่นระฆังวิวาห์ ความหวานในช่วงขวบปีแรกของความรักหล่นหายไปตามเวลา ทั้งคู่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิด แต่ทั้งคู่ก็ยังอยู่ใต้ชายคาเดียวกันมาตลอดด้วยความรู้สึกฝืนเต็มทน จนกระทั่ง Amy หายตัวไปแบบทิ้งปริศนาไว้เต็มไปหมด แต่ปริศนาทั้งหมดนั้นคือการชี้มาที่ Nick ว่าเป็นฝีมือของเขา มาดูกันว่า Nick จะบอกสังคมยังไงว่าเขาเป็นเพียงแพะรับบาป แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น Amy จะทำไปทำไม หรือเขาจะเป็นผู้ร้ายตัวจริงกันแน่ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นหนังผัว ๆ เมีย ๆ จนไม่ถูกจริตผู้ชายอย่างเรา จริง ๆ แล้วเนื้อเรื่องเทน้ำหนักไปที่การสืบสวนเป็นหลัก The Handmaiden (2016) Director : Chan-wook Park
“ภาพยนตร์” เป็นทั้งความบันเทิง การพักผ่อนและเรื่องเล่ามากความหมายที่หลายครั้งกระตุกกระตุ้นความคิด แรงบันดาลใจ อารมณ์และความรู้สึกของผู้ชายอย่างเราให้ทะล้นเกินจะคาดเดา ในปีหนึ่ง ๆ เราจึงตีตั๋วเข้าโรงหนังเพื่อเสพศิลปะที่ได้ชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องแล้วเรื่องเล่าเพื่อซึมซาบเข้าสู่ชีวิต ย่างเข้าท้ายปี ย่อมมีเรื่องที่เราผิดหวัง เรื่องที่เราโคตรอิน และเรื่องที่เรารักหมดใจจนอยากจะแบ่งให้ใครสักคนดูไปด้วยกัน UNLOCKMEN เองก็ไม่พลาด รวบรวมหนังที่เรารักและอยากแบ่งให้คนอื่นดูที่สุดของปี 2018 นี้มาแบ่งปัน BNK48: Girls Don’t Cry หนังสารคดีตามติดชีวิต BNK48 ไอดอลที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ หนังจะพาเราไปรู้จักพวกเธอในมุมที่เปิดเผยให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่สุขได้ ร้องไห้เป็น และคำพูดจากปากของพวกเธอที่ทำให้เราเข้าใจว่าแท้จริงเธอก็เป็นเด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่เปราะบางไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่ก็พร้อมจะเข้มแข็งและก้าวไปเพื่อสิ่งที่พวกเธอเชื่อ ผลงานของเต๋อ-นวพล การันตีความงดงามของภาพ และการันตีว่าไม่ว่าคุณจะเป็นโอตะหรือไม่ คุณก็จะรักพวกเธอขึ้นอีกอย่างน้อยหนึ่งระดับแน่นอน UNLOCKMEN’S OPINION: เราคงไม่ปฏิเสธว่าเพราะเราเป็นโอตะเราจึงชอบภาพยนตร์สารคดีจากวิสัยทัศน์ของนวพล ธำรงรัตนฤทธิ์เรื่องนี้เป็นพิเศษ หนังเปิดมุมมองให้เราได้รู้จักคนที่เราติดตามมาปีกว่า ๆ ในด้านที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ความที่เป็นสารคดี ทุกบทพูด ทุกเรื่องราวที่ถ่ายทอด ทุกคำตอบ เราจึงสัมผัสได้งถึงความ ‘จริง’ ของมัน ต่อให้คุณไม่ใช่โอตะ ไม่เคยติดตามชีวิตเด็กสาวกลุ่มนี้มาก่อน สารคดีเรื่องนี้ก็ยังสมควรจะหามาดูอยู่ดี เพราะนี่ไม่ใช่สารคดีตามติดชีวิตไอดอล แต่เป็นสารคดีที่สำรวจช่วงชีวิตของวัยรุ่น 26 คน ที่มีหัวโขนไอดอลสวมอยู่ ทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง มีทั้งสุขเศร้าเคล้าน้ำตา
วันหยุดแบบนี้ ใครสายเที่ยวก็ได้เที่ยวจนฉ่ำใจ ใครสายเล่นน้ำเหล่สาวก็คงฉ่ำตาอีกเช่นกัน แต่ UNLOCKMEN เชื่อว่าต้องมีผู้ชายสายชิล ชอบนอนอยู่กับบ้าน และเราเชื่ออีกว่าบางทีนอนเฉย ๆ ก็อยากหาหนังมาดูเพลิน ๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายปี UNLOCKMEN ก็แนะนำหนังลิสต์นั้นลิสต์นี้มาให้ตลอด แต่คราวนี้ถึงคิวที่เราจะพามาดูหนังที่เหล่านักวิจารณ์ออกมาบอกว่า เฮ้ย หนังพวกนี้แม่งเจ๋งว่ะ! อย่างไรก็ตามหนังที่ผู้คนนิยมก็อาจไม่ใช่หนังที่นักวิจารณ์บอกว่าโอเค ในขณะที่หนังที่นักวิจารณ์บอกว่าโอเคเราอาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่วันหยุดยาวทั้งทีก็เป็นโอกาสดี ๆ ที่เราว่าง ๆ มาลองสำรวจกันบ้างว่านักวิจารณ์เขาดูอะไรกัน หนังรางวัลจะเป็นหนังยังไงกันแน่ นี่คือหนัง 10 อันดับแรกจากนักวิจารณ์ 62 คนทั่วโลก ออกมาบอกว่าเป็นหนังที่เจ๋งสุดนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา Mulholland Drive (2001) 2h 27min | Drama, Mystery, Thriller Mulholland Drive เป็นชื่อถนนเส้นหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ต้นเรื่องของหนังทั้งหมดก็เริ่มต้นที่ถนนแห่งนี้นี่แหละ โดยภายในเรื่องก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน ความพร่าเลือนระหว่างความจริง ความฝัน ต้องตั้งใจดูให้ดีเชียวล่ะ ลุ้นระทึกไปกับความลึกลับแน่นอน รับรอง in the Mood for Love
เปิดหมวดหนังโรแมนติกขึ้นมาทีไร มีแต่หนังรักหวาน ๆ น้ำตาลขึ้นตา จนรู้สึกว่าการมีคู่นี่มันช่างจรรโลงโลกใบนี้ให้จนเหมือนถูกย้อมสีด้วยสีสันแห่งความรัก ดูตอนแรก ๆ แค่หมั่นไส้ ดูไปดูมารู้สึกจะอ้วกแล้วโว้ย หนุ่มโสดอย่างเราไม่มีที่ยืนสำหรับหนังรักกันเลยหรือยังไง ถ้าคุณเป็นหนุ่มโสดที่อยากจะดูหนังรักกับเขาบ้าง แต่ก็ไม่อยากถูกซ้ำเติมด้วยความรักที่ลอยฟุ้งในอากาศ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังรักขาด ๆ เกิน ๆ จนรู้สึกว่าเป็นโสดนี่โชคดีแล้วหนุ่ม Gone Girl (2014) Director : David Fincher Nick และ Amy คู่รักที่มีชีวิตเข้ากันตั้งแต่บทสนทนาแรกที่เจอกัน จนทำให้ทั้งคู่ลงเอยด้วยการลั่นระฆังวิวาห์แบบไม่มีลังเล แต่แล้วความรักหลังการแต่งงานมันก็ไม่ได้สวยงามเหมือนตอนที่ยังอยู่ในฐานะคนรัก พอขยับความสัมพันธ์มาเป็นสามี-ภรรยาแล้ว ทุกอย่างรอบตัวบีบบังคับให้ทั้งคู่ต้องกลายเป็นคู่รักที่ชีวิตสมบูรณ์แบบ ทั้งคู่พยายามแสดงออกไปแบบนั้น แต่ความสัมพันธ์ภายในของทั้งคู่กลับสั่นคลอนอย่างน่ากลัว Amy สาวน้อยมหัศจรรย์ ที่ชีวิตของเธอเหมือนกับถูกลดทอนความก้าวหน้าลงเพราะสามีจอมขี้เกียจ Nick หมดไฟกับการเป็นหนุ่มผู้แสนดี และตอนนี้เบื่อหน่าย Amy สาวคนเดิมที่เขาเคยหลงรัก กลายเป็นผู้หญิงที่คอยตามจิกชีวิตเขาจนอยากจะหนีไปไกล ๆ ชีวิตคู่ที่เหี่ยวแห้งว่าแย่แล้ว มันทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อวันดีคืนดี Amy หายตัวไป แถมยังทิ้งร่อยรอยหลายอย่างไว้ จนหลักฐานเหล่านั้นตีกรอบเข้ามาแล้วชี้ว่า Nick เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งแบบไร้คู่แข่งเลยก็ว่าได้ แม้จะชิงชังชีวิตคู่ขนาดไหน Nick ก็ยืนยันหนักแน่นว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเธอ มาดูกันว่าใครกันแน่ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้
เจ้าของนัยน์ตาสุดเซ็กซี่ที่ทำให้สาว ๆ ตกอยู่ในภวังค์มานักต่อนักอย่าง Ryan Gosling ที่เรามักจะคุ้นเคยกับภาพของเขากับ Look หนุ่มเนี้ยบในชุดสูทอยู่ตลอดเวลา และเขาเองมักจะได้รับบทที่เข้ากับลุคนั้นของเขาอยู่หลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Crazy, Stupid, Love,The Ides of March, Gangster Squad ลองเปลี่ยนมาดูบทบาทอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเป็นหนุ่มสุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ กับหนัง 5 เรื่องที่เราคัดมาให้ จะได้เห็นเขาตั้งแต่ หนุ่ม Loser ที่พยายามประคับประคองชีวิต สายลับชีวิตเฮงซวย ไปจนถึงบท Driver หว่อง ๆ The Nice Guys (2016) Director : Shane Black ชีวิตห่วยแตกกันตั้งแต่เปิดเรื่องมา Holland March นักสืบไส้แห้ง ที่พร้อมจะสืบมันทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีเงินเข้ากระเป๋าบ้าง เพราะเขาเองก็มีลูกสาววัยกระเตาะอยู่คนนึง ต้องมาร่วมมือกับ Jackson Healy นักเลงหัวไม้ที่รู้ตัวว่ามีดีด้านนี้ จึงรับจ้างสอยทุกคนที่ได้เงิน (ถือว่ามีอุดมการณ์ร่วมกันอย่างแรงกล้า) เพื่อสืบหาสาวน้อยคนนึงที่หายตัวไป เมื่อคนเรื้อนสองคนมาเจอกัน คิดดูว่ามันจะออกมาชวนหัวขนาดไหน แต่เรื่องราวมันยิ่งปั่นประสาทมากขึ้น เมื่อยัยสาวน้อยคนนั้นไม่ใช่แค่หายตัวไปธรรมดา ๆ
แม้จะเป็นเจ้าของบทบาท Jack Reacher มาแล้วถึงสองภาค และหนังแอ็กชั่นที่ดีกรีความระห่ำไม่แพ้ใครมาหลายต่อหลายเรื่อง ก็ไม่ได้ทำให้ Tom Cruise ถูกเลือกให้ไปต่อใน Jack Reacher ภาค TV Reboot เหตุเพราะความสูงของเขาที่ถูกวิจารณ์มาตลอด UNLOCKMEN จะพามาดูกันว่า ทั้ง ๆ ที่เคยแสดงเรื่องนี้มาแล้วถึงสองภาคแท้ ๆ ทำไมเขาส่วนสูงของเขาถึงเพิ่งมีปัญหาเอาตอนนี้ ก่อนอื่นอยากให้ทำความเข้าใจว่า ภาพยนตร์เรื่อง Jack Reacher เนี่ย มันสร้างมาจากหนังสือในชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นผลงานเขียนของ Lee Child พอมันมาจากหนังสือปุ๊บ เราก็คงคุ้นเคยกันอยู่แล้วว่านักเขียนเจ้าของลิขสิทธิ์เนี่ย ก็มักจะออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับหนังที่สร้างจากตัวหนังสือที่เขาเรียบเรียงเป็นปกติ เรื่อง Jack Reacher เองก็เช่นกัน Lee Child ออกโรงเองเลยว่า ต้องการให้แฟน ๆ ช่วยกันเลือกนักแสดงให้ตรงใจที่สุดในเวอร์ชั่น TV Reboot “เพราะ Tom Cruise นั้นเตี้ยเกินไปทำหรับบทนี้” นั่นหมายความว่าเขาที่เคยรับบทนี้ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ในสองภาคที่ผ่านมา อย่าง Jack Reacher (2012) และ Jack Reacher:
นักแสดงคือคนที่มารับบทเป็นตัวละครนั้น ๆ ถ่ายทอดตัวตนของตัวละครให้ออกมาใกล้เคียงกับภาพในหัวของผู้กำกับที่สุด เราจึงมักซูฮกนักแสดงที่สามารถเปลี่ยนบทบาทของตัวเองไปได้หลากหลายตามตัวละครที่ตัวเองได้รับบท ซึ่งนักแสดงมากฝีมืออย่าง JOHNNY DEPP ก็คงเป็นชื่ออันดับต้น ๆ ที่ใครหลายคนนึกถึง บทที่โด่งดังที่สุดของเขาคงไม่พ้นกัปตันสุดเพี้ยนจาก Pirates of the Caribbean ที่ทำให้ใครหลายคนติดภาพการแสดงเพี้ยน ๆ ของเขาในเรื่องอื่นไปด้วย แต่ถ้าย้อนไปดูผลงานของเขาจะพบว่า เขาเป็นนักแสดงอีกคนที่ได้บทที่ท้าทาย เพราะมีความหลากหลายในคาแร็กเตอร์มาก ๆ ตั้งแต่นักเขียนประสาทหลอน ช่างตัดผมสุดอำมหิต แวมไพร์สุดเพี้ยน หรือแม้แต่ตัวประหลาดที่มีมือเป็นกรรไกร UNLOCKMEN เลยขอเลือกหนังเจ๋ง ๆ ที่นำแสดงโดย JOHNNY DEPP ให้เราได้เสพบทบาทของเขาในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน (โดยไม่ได้เป็นการจัดอันดับหนังดีแต่อย่างใด เลือกเอาตามความชอบเหมือนเพื่อนแลกหนังกันดู) Cry-Baby (1990) Director : John Waters เราจะได้เห็น Depp วัยละอ่อนที่ความหล่อกำลังเปล่งประกาย เช่นเดียวกับตัวละครในเรื่องนี้ Cry-Baby หนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน ที่เสน่ห์ของเขามีตั้งแต่หน้าตา คารม บุคลิก ซึ่งเขาสามารถเอาชนะใจ Allison Vernon-Williams สาวหัวโบราณที่เหมือนหลุดมาจากสังคมชั้นสูง เรื่องนี้จะได้เห็นเขาเล่นเป็นคาสโนว่า ซึ่งเหมาะกับเขามากกว่าบทเพี้ยน ๆ เสียอีก และเรื่องนี้เองที่ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงนั้น เนื้อเรื่องก็เป็นหนังวัยรุ่นธรรมดา ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก