ห้องน้ำปลดทุกข์ บางทีก็กลายเป็นสถานที่ที่ทำให้เราทุกข์ยิ่งกว่าเดิม เพราะดันลืนของมีค่าไว้! ร้อยทั้งร้อยในชีวิตของผู้ชายเราคงต้องมีสักครั้งที่เดินออกมานอกห้องน้ำสาธารณะไปสักพักแล้ว ต้องใส่เกียร์เท้าวิ่ง 4×100 กลับไปห้องเดิมเพราะดันลืมของสำคัญอย่างสมาร์ตโฟนหรือกระเป๋าสตางค์ ซึ่งถ้าวันนั้นโชคดี ห้องน้ำห้องที่เราเข้าอาจจะยังไม่มีใครเข้าต่อ หรืออาจจะเจอคนใจดีเก็บไว้ให้ แต่ถ้าโชคร้าย ดวงซวย วันนั้นเราอาจจะต้องออกจากห้องน้ำมือเปล่า โดยไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือออกมาเลย โทษใครก็ไม่ได้ สาเหตุที่เราทำหาย ส่วนใหญ่เพราะระหว่างที่เรากำลังใช้งานของเหล่านั้นเพราะมันไม่อยู่ในระดับสายตา ถ้าไม่ใช่ตะขอแขวนตรงประตูที่อยู่เหนือหัวเรา ก็เป็นหลังพนักชักโครก ดังนั้น พอเราใส่ใจกับการชำระอวัยวะตรงหน้าหลังปลดทุกข์ เราก็เลิกแคร์ รีบเดินออกจากห้องน้ำโดยไม่เหลียวหลังเพราะจะได้ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นคนปล่อยระเบิดไว้ ปัญหาเรื่องลืมของนี้จัดเป็นปัญหาระดับโลกก็ว่าได้ ซึ่งแน่นอนว่าหลายที่ก็พยายามใช้วิธีในการเตือนสติกัน อย่างบ้านเราก็มีสติกเกอร์บนบานประตูที่บอกให้เช็กของก่อนออกจากห้องน้ำ แต่มันไม่ค่อยได้ผลอย่างที่เห็น ประเทศละเอียดอ่อนอย่างญี่ปุ่นเองก็ลืมบ่อยเช่นกัน เขาจึงคิดค้นวิธีแก้ปัญหานี้อย่างเฉียบ ไม่เปลืองต้นทุนด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวอย่างลูกบิด! NEXCO บริษัทธุรกิจรับเหมาก่อสร้างธุรกิจให้บริการพื้นที่และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทางหลวงสาขาฮอกไกโดในประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ดีไซน์รูปแบบลูกบิดห้องน้ำแบบใหม่นี้และติดตั้งมันไว้กับห้องน้ำสาธารณะตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว เนื่องจากพบปัญหาต้องพยายามส่งของหายเหล่านั้นคืนเจ้าของ ซึ่งต้องเปลือง man hour ของพนักงานโดยใช่เหตุเฉลี่ยประมาณ 30 ชั่วโมงต่อเดือน โดยจากผลสำรวจของกว่า 60% ที่ลืมไว้ในห้องน้ำก็คล้ายในบ้านเรา คือ สมาร์ทโฟน กระเป๋าสตางค์ หรือของเล็ก ๆ เช่นเดียวกับบ้านเรานั่นเอง ลูกบิดเตือนสติออกแบบให้มีขนาดแบนขนาดใหญ่แนวระนาบ 180 องศาเพื่อพลิกในการปิดเปิด สามารถใช้เป็นถาดวางของได้โดยรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 1 กิโลกรัม วางทั้งมือถือและกระเป๋าสตางค์ได้สบาย
ชาว UNLOCKMEN เคยเป็นบ้างไหม สภาพร่างกายก็ปกติดี แต่มันมักจะมีอาการ Black out ของความทรงจำไปดื้อ ๆ เหมือนมีใครมาตัดไฟยังไงอย่างงั้น กุญแจวางตรงไหน จะออกจากบ้านแล้วดันหาไม่เจอ! เพิ่งจับมือถือไปแปปเดียว เผลออีกทีเอาไปวางไว้ตรงไหนวะ ? คิดว่าจะถามอะไรคนตรงหน้า แต่พอเจอคนทักหน่อย คำถามหายลอยไปไหนไม่รู้ ? ถ้าเป็นแบบนี้เราอย่าเพิ่งกังวลคิดว่าตัวเองอัลไซเมอร์ แต่ลองสำรวจดูว่าพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำเป็นอย่างที่เราเอามาฝากด้านล่างหรือเปล่า ? ถ้าใช่คงต้องเพลาหน่อยแล้ว เพราะไลฟ์สไตล์ตอนน้ีมันเข้าข่ายการตั้งระเบิดเวลาทำลายความทรงจำของพวกเรา โสดได้ (ความจำ) เสื่อมด้วย อ่านแค่หัวข้อก็แทบร้องไห้เลยทีเดียว เพราะถือเป็นความซวยของมนุษยชาติสายโสดเข้าให้แล้ว เมื่อนักวิทยาศาสตร์จาก Orebro University ในประเทศสวีเดนดันมาทดลองแล้วพบว่าคนที่อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจวัยกลางคนทั้งหลายมีโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมถ้าเทียบกับคนที่มีคู่ชีวิต นอกจากนี้งานวิจัยยังระบุว่าความจำของพวกเราชาวโสดจะลดลง เรื่องเดิม ๆ ในอดีตก็จะจำไม่ได้ แถมไม่มีข้อยกเว้นให้กับใครที่หย่าร้าง เป็นม่าย แยกทาง เลยด้วย เคยมีมาตอนนี้ไม่มีเข้าข่ายความจำเสื่อมง่ายได้หมด ที่สำคัญมันยังกระแทกใจด้วยอีกเหตุผลด้วยว่า “เหล่าคนมีคู่ถึงเขาจะลืมเขาก็ยังมีอีกคนไว้เตือนกัน” ว้อย!! หงุดหงิด จะไปซื้อโพสอิทมาติดให้เต็มบ้านเลย โสดแล้วเสื่อมมาลองกันสักตั้งว่าจะยังลืมอีกไหม SOURCE1 SOURCE2 ปาร์ตี้ดึกสุดเหวี่ยง หรือกินมันส์ยามวิกาล เรากำลังพูดถึงเรื่องกินผิดเวลา ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ปาร์ตี้เดือดข้ามคืน