ครั้งนี้ Panerai ไม่ได้แค่นำชื่อ Marina Militare มาปั๊มบนหน้าปัด แต่พาเราเหินฟ้าขึ้นไปกับ Aviazione Navale, หน่วยการบินของกองทัพเรืออิตาลี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Panerai ขยับจากนาฬิกาดำน้ำสู่ aviation division ตัวเรือนของ PAM01699 ขนาด 47mm ผลิตจากไทเทเนียมเกรด 5 ขัดด้าน เบเซลหมุนทางเดียวเป็นไทเทเนียมฝังเซรามิกดำด้านเพิ่มความทนทานขั้นสูงสุด เม็ดมะยมแบบ screw-down พร้อมระบบ Crown Guard ที่หนาแน่น สะท้อนความแข็งแกร่งที่ใช้งานจริง หน้าปัดสีเขียว grainy finish ของ PAM01699 ได้แรงบันดาลใจจากเรือนไมล์ของเครื่องบินรบ เข็มหลักทรงโอเวอร์ไซซ์พ่นด้วย Grey Super-LumiNova เพื่อเรืองแสงอย่างชัดเจนในที่มืด ส่วนชุดมาร์กเกอร์ชั่วโมงถูกออกแบบให้เป็นทรงกลมทั้งหมด ยกเว้นตำแหน่ง 12 นาฬิกาที่เน้นด้วยมาร์กเกอร์ทรงแท่ง (baton) ทำหน้าที่เป็นจุดนำสายตา และช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถระบุทิศทางของหน้าปัดได้ทันทีในทุกมุมมอง แม้ในสภาพแสงต่ำหรือขณะปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน ฝั่งขวามี pusher สำหรับจับเวลาถอยหลังระดับนาทีผ่านเข็ม central chronograph minute hand
หลายคนเคยได้ยินเรื่องเล่าว่า นาฬิกา Cartier รูปทรงที่บิดเบี้ยวเพราะไฟไหม้จากอุบัติเหตุรถยนต์ กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ Jean-Jacques Cartier สร้าง Crash ออกมา หรืออีกเรื่องเล่าที่ว่ามันมาจากนาฬิกาในภาพเขียนของ Salvador Dalí “The Persistence of Memory (1931)” ฟังดูเป็นเรื่องโรแมนติกดีใช่ไหม? แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ความจริงคือ Cartier Crash เกิดจาก “การออกแบบอย่างตั้งใจ” Jean-Jacques Cartier และดีไซน์เนอร์ Rupert Emmerson จงใจหยิบ Cartier Baignoire ดีไซน์ทรงรี (oval) ที่เรียบหรู เอามาบิดให้เบี้ยวอย่างตั้งใจกลายเป็น Cartier Crash ตาม request ของ Stewart Granger ดาราชื่อดังชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นช่วง Swinging sixties ที่มีการปฏิวัติทางวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางในช่วงยุค ’60s – 70s พูดเหมือนง่าย แต่วิธีทำ Cartier
โลกของ Patek Philippe เคยสงบ เรียบหรู และอยู่สูงเกินเอื้อม เป็นโลกของทองคำ ความบางเฉียบ และความซับซ้อนในเชิงช่างที่ไร้ที่ติ จนกระทั่งปี 1976 — พวกเขารู้ตัวว่าถ้าไม่เปลี่ยนอะไรซักอย่าง อาจจะโดนแบรนด์ที่เคลื่อนไหวไวกว่าอย่าง Audemars Piguet ทิ้งห่างไปแบบถาวร Nautilus จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 1976 ด้วยรหัส Ref. 3700/1 โดย Genta คนเดิม ชายผู้เปลี่ยนทั้งโลกของนาฬิกาหรูด้วยปลายปากกาชั่วข้ามคืน และครั้งนี้ ภายใน 5 นาที Nautilus จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 1976 ด้วยรหัส Ref. 3700/1 ชายผู้เปลี่ยนทั้งสองแบรนด์ด้วยปลายปากกาภายในเวลาไม่กี่ปี Genta ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า ดีไซน์ไอเดียของ Nautilus เกิดขึ้นระหว่างที่เขานั่งอยู่ในร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่ง เขาหันไปเห็นผู้บริหาร Patek Philippe กำลังทานข้าวอยู่ในอีกมุม ว่าแล้วก็เกิดไอเดีย บรรเลงแบบร่างลงในกระดาษเช็ดปากตรงนั้นจนเสร็จภายใน 5 นาที ไอเดียของ Nautilus คือการผสมความ sport
AUDEMARS PIGUET Royal Oak Jumbo A-Series เรือนเวลาที่กล้าท้าทายบรรทัดฐาน กล้าเปลี่ยนภาพจำของคำว่า “Luxury” ผลงานที่รังสรรค์โดย Gerald Genta ภายในเวลาเพียงข้ามคืน ย้อนกลับไปในปี 1972 โลกแห่ง Haute Horlogerie ยังตกอยู่ในความสงบนิ่ง นาฬิกาหรูหมายถึงตัวเรือนทองคำ หน้าปัดบางเรียบ สายหนังคลาสสิก เป็นสุนทรียะแบบเก่าแก่ที่ใครก็ไม่กล้าทำลาย จนกระทั่ง Audemars Piguet แบรนด์อิสระจาก Le Brassus ที่กำลังถูกคลื่นควอตซ์จากญี่ปุ่นไล่ล่า โทรหา Gerald Genta ด้วยคำสั่งด่วนที่สุดในชีวิต “ออกแบบนาฬิกาสปอร์ตที่ไม่เหมือนใคร ภายในเช้าวันรุ่งขึ้น” Genta ไม่เพียงแต่ทำทัน แต่สิ่งที่เขาส่งมาคือการปฏิวัติวงการครั้งใหญ่ เขาวาดนาฬิกาเหล็กที่กล้าตีราคาสูงกว่านาฬิกาทอง วางโครงสร้างของ bezel ทรง octagon พร้อมสกรูโชว์หัว สาย integrated steel ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และหน้าปัดที่แต่งแต้มด้วยลวดลาย petite tapisserie จากโรงงานที่ใช้วิธีฝังลายด้วยเครื่องจักร guilloche แบบโบราณ
แล็ปท็อปยอดนิยมของโลกมาพร้อมความคุ้มค่ายิ่งกว่าที่เคยด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง, กล้อง 12MP Center Stage และการรองรับจอภาพภายนอกที่ดีกว่าเดิม ทั้งหมดนี้มาในดีไซน์ที่ทั้งบางเฉียบและเบาสุดๆ เบา เล็ก และแรงสุด ๆ เหมาะกับคนที่ต้องพก laptop ติดตัวเป็นประจำ MacBook Air ใหม่ที่มาพร้อมด้วยประสิทธิภาพที่เร็วสุดขั้วของชิป M4 แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง กล้อง 12MP Center Stage ใหม่ และราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ นอกเหนือจากจอภาพในตัว, หน่วยความจำแบบรวมเริ่มต้น 16GB และความสามารถอันน่าทึ่งของ macOS Sequoia พร้อม Apple Intelligence ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในดีไซน์ที่ทั้งบางเฉียบและเบาสุดๆ ซึ่งสร้างมาให้ใช้งานได้ยาวนาน ตอนนี้ MacBook Air ใหม่ยังมาในสีใหม่อย่างสีสกายบลู หรือสีฟ้าอ่อนแบบเมทัลลิก ซึ่งเมื่อนับรวมกับสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และสีเงิน ก็จะกลายเป็นชุดสีสำหรับ MacBook Air
“We heard you” เพราะลูกค้าคือหัวใจสำคัญ เมื่อมีเสียงเรียกร้องเข้ามา Maurice Lacroix ก็รับฟัง feedback มาโดยตลอด นี่คือเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้แบรนด์นำ Calypso จากปี ’90s มาตีความใหม่กลายเป็น AIKON ที่เปิดตัวในปี 2016 และขึ้นแท่น best-selling ของแบรนด์นับแต่นั้นมา ในปี 2022 Maurice Lacroix ได้เปิดตัวหนึ่งในโมเดลที่สำคัญมากใน AIKON collection โทนสี monochromatic grey โชว์กลไกที่สวยงามของ openworked movement ML115 calibre ที่พัฒนาร่วมกับ Sellita จากสวิตเซอร์แลนด์ ในตัวเรือน stainless steel case ขนาด 39 mm ที่ผ่านการขัดเงาและขัดด้าน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ AIKON ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน แบรนด์นาฬิกาจาก Swiss แห่งนี้ก็เก็บรวบรวมสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพื่อนำมาพัฒนาจนเป็นที่มาของการเปิดตัว AIKON
Long-term review MacBook Pro M4 รุ่นเริ่มต้น จอ 14 นิ้ว Ram 16GB SSD ความจุ 512GB หลังใช้งานมาครบ 1 เดือนพอดี การใช้งานเน้นด้าน Photoshop และ Lightroom ขั้น advance รวมถึง Final Cut Pro ขั้นปกติ สรุปได้ว่า ถ้าไม่ถึงขั้นตัดต่อหนังระดับภาพยนตร์ เขียนโปรแกรม หรือ render 3D โหดจริง ๆ ซื้อแค่ตัวเริ่มต้นราคาห้าหมื่นต้นก็เกินพอแล้วสำหรับเรา เร็วแรงแบตทน แถมได้อัพเกรดจาก M3 ทั้ง Ram และ CPU 2 cores + Thunderbolt port เพิ่มในราคาเท่าเดิม สิ่งที่ประทับใจมากคือ – Chip ทั้ง CPU,
เข้าสู่ช่วงปลายปีทีไร บรรยากาศแห่งความสุข ความสนุกจากเทศกาลเฉลิมฉลองก็หวนกลับมาอีกครั้ง และสำหรับช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าเสียงดนตรีคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาปาร์ตี้ หรือระหว่างออกเดินทางทริปท่องเที่ยวปลายปี การได้มีเพลงเพราะ ๆ ขับกล่อมในทุกโมเมนต์มันเป็นอะไรที่ลงตัวแบบสุด ๆ และเราเองก็อยากให้ Festive Season ของชาว UNLOCKMEN ทุกคนในปีนี้ เต็มไปด้วยจังหวะแห่งความสุขที่สนุกยิ่งกว่า จึงรับอาสาชี้เป้าไอเทมโดน ๆ จาก Marshall คัดเน้น ๆ มา 3 รุ่น 3 สไตล์ ซึ่งเป็นได้ทั้งของขวัญที่ใครได้รับเป็นต้องฟิน และยังเป็นอุปกรณ์สำคัญในการอัพฟีล Festive ให้มันส์ขั้นสุด พร้อมเติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ ต้อนรับปีใหม่แบบแฮปปี้ในทุกสถานการณ์ งานนี้จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย ขอเริ่มต้นไอเทมเร่งจังหวะแห่งความสุข กับหูฟังไร้สาย Marshall Major V ให้ทริปปีใหม่นี้เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีแบบไม่ขาดช่วง โดดเด่นด้วยสุ้มเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งย่านเบสที่ลงลึก เสียงกลางที่นุ่มนวล และเสียงแหลมที่ชัดเจน พร้อมงานดีไซน์คลาสสิกในสไตล์ Marshall แค่คล้องคอเฉย ๆ ก็เพิ่มความเท่ลงตัวให้กับ Total
นอกจาก Moonwatch ที่โด่งดัง หลายคนอาจลืมไปว่าก่อนที่จะมาเกี่ยวข้องกับ Apollo program และ Moonlanding ที่จริงแล้วในอดีตปี 1957 Speedmaster มีต้นกำเนิดมาจากการเป็น racing chronograph ออกแบบมาเพื่อจับเวลา lap time และ average speed ในสนามแข่งด้วยการออกแบบ tachymeter scale ให้อยู่บนขอบหน้าปัดเป็นครั้งแรก และ Omega ก็ยังเคยมี Flightmaster pilot watch 12 Hour-GMT complication ที่แตกไลน์จาก Speedmaster ในปี 1969 นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นการนำตำนานที่หลายคนอาจจะหลงลืมไปให้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Speedmaster Pilot Flight Qualified Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified นาฬิกา pilot ที่มีกลิ่นอายของการเป็น military-tool ตัวเรือน fully brushed ปัดลายเต็มเรือนขนาด
Bioceramic MoonSwatch MISSION TO EARTHPHASE สดุดีแต่โลกและดวงจันทร์ ซึ่งรุ่นนี้ไม่ได้มีแค่ฟังก์ชันบอกดิถีของดวงจันทร์เท่านั้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังมาพร้อม ฟังก์ชันบอกดิถีของโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการการประดิษฐ์เรือนเวลาอีกด้วย ทำให้ Swatch พลิกแพลงวาทะอันโด่งดังของกาสิเลโอ “แต่โลกก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไป!” (And yet it moves!”) และเย้าหยอกว่า “แต่โลกและดวงจันทร์ก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไป!” ส่วนฟังก์ชันบอกดิถีของโลก หากคุณดูตรงหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่งสิบนาฬิกา ก็จะได้ดื่มด่ำกับการโคจรของโลกเราเมื่อมองจากดวงจันทร์ มีการแต่งแต้มสีสันให้กับฟังก์ชันบอกดิถีของโลกที่จดสิทธิบัตรแล้วเพื่อสดุดีแด่ความหลากหลายและความงดงามของโลกสีครามของเรา คุณจะมองเห็นก้อนเมฆ รวมถึงสีสันที่ตัดกันของมหาสมุทร ป่าไม้และผืนทะเลทราย นอกจากนี้ ยังมีการเคลือบหมึกพิมพ์ยูวี (เปล่งแสงสีฟ้า) ที่มองเห็นเมื่อโดนแสงยูวีเท่านั้นตรงมหาสมุทรเพื่อเพิ่มความล้ำทะลุจักรวาลเข้าไปอีก รุ่น Bioceramic MoonSwatch MISSION TO EARTHPHASE จะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ร้านค้าของ Swatch ที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และเช่นเดียวกับนาฬิกาทั้งหมดในคอลเลกชัน Bioceramic MoonSwatch ก็จำกัดสิทธิ์ในการซื้อ 1 เรือน/ 1 สาขา/ 1 คน/ 1 วันเท่านั้น