สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังเสาะหานาฬิกาเรือนใหม่ให้กับตัวเอง ถ้าคุณเป็นแฟนเดนตายของแบรนด์รถยนต์อย่าง Porsche โดยเฉพาะโมเดล 911 เราโคตรจะมั่นใจว่าเรือนเวลารุ่นล่าสุดจาก Porsche Design อย่าง 1919 Chronotimer Flyback ที่มาในโทนสีน้ำเงินเข้มรุ่นนี้คือคำตอบที่ตรงความต้องการอย่างแน่นอน ปี 2018 Porsche Design เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในชื่อ 1919 Chronotimer Flyback เป็นครั้งแรกซึ่งเปิดตัวพร้อมหน้าปัดและสายหนังสีน้ำตาล มาถึงปี 2020 พวกเขาจับนาฬิการุ่นดังกล่าวมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมกับวัสดุและสีพิเศษที่ใช้ในรถรุ่นเรือธงของค่ายอย่าง 911 1919 Chronotimer Flyback ‘Blue&Leather’ มาพร้อมหน้าปัดขนาด 42 mm ที่มีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงิน ได้รับแรงบันดาลใจออกแบบมาจาก Dashboard ของ 911 ตัวเรือนผลิตจากวัสดุไทเทเนียม 100 เปอร์เซ็นต์ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบากว่าตัวเรือนจากแสตนเลส สตีลถึง 46 เปอร์เซ็นต์ หน้าปัดทำจากวัสดุกระจกแซฟไฟร์คริสตัลสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและอ่านเวลาได้ชัดเจนในที่มีแสงจ้า อีกความพิเศษของนาฬิกาเรือนนี้คือ สายรัดข้อมือที่ทำมาจากหนังลูกวัวชั้นดีพื้นผิวนุ่มสีกรมท่า เก็บรายละเอียดด้วยเส้นด้ายสีเทาซึ่งเป็นหนังแท้ที่ใช้งานเฉพาะในห้องโดยสารของ Porsche 911 เท่านั้น ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่อยากครอบครองเพราะจะได้สัมผัสความพิเศษนี้ทุกวันผ่านการใช้งานนาฬิกาข้อมือ
เสื้อผ้าสำหรับบางคนอาจจะมองว่าเป็นอุตสาหกรรมใส่แล้วทิ้ง สร้างขยะ แต่สำหรับผู้ชายเราที่ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนบ่อยและไม่ได้ตามเก็บทุกคอลเลกชันของแบรนด์โปรดขนาดนั้น เรารู้ดีว่าเราจะเลือกเสื้อทน ๆ อยู่กันยาว ๆ มากกว่าเสื้อสวย ๆ ส่วนเงินที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อ gadgets ล้ำ ๆ หรือ Toy boy ที่ชอบแทน แต่ถ้ามีเสื้อที่ผลิตมาโดยเคลมว่า “มันทนทานอยู่ได้เป็น 100 ปี” ล่ะ เราจะยังกล้าซื้อมาใส่อยู่ไหม เพราะไม่รู้ว่าระหว่างเรากับเสื้ออะไรจะตายจากกันไปก่อน หรือเราจะเบื่อมันก่อนไหม เพราะยังไงเสีย มันก็ไม่มีทางพังในชั่วอายุขัยของเราแน่นอน VOLLEBAK ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเสื้อผ้าได้ผลิตเสื้อ “100 Year Hoodie” โดยเริ่มรุ่นแรกตั้งแต่ปี 2017 และรุ่นล่าสุด (รุ่นที่ 3) ใช้เวลาวิจัยกว่า 2 ปี และผลิตชุดอย่างประณีตอีก 40 สัปดาห์ ในที่สุดผลงานเสื้อฮู้ดพันธุ์แกร่งรุ่นที่ 3 ก็ออกมาให้ยลโฉม พร้อมสั่งซื้อไปใช้งาน โดยการันตีความทนทานว่ามันจะอยู่ได้นานเป็น 100 ปีและทดสอบให้เห็นจะจะ ชนิดคนรักเสื้อเห็นแล้วรู้สึกสงสารแทน คุณสมบัติกว่าจะเป็นรุ่นที่ 3 100 Year
ในยุคที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะแตกสลาย กับความวุ่นวายจากโรคร้าย และภัยธรรมชาติต่าง ๆ นา ๆ ที่รุมกระหน่ำ ทำเอาหลายคนเริ่มวางแผนรับมือการใช้ชีวิตช่วงภาวะฉุกเฉินในหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ขาลุยทั้งหลาย เชื่อว่าน่าจะเทความสนใจไปที่อุปกรณ์ยังชีพที่ช่วยให้สามารถใช้ชีวิตยืนระยะในภาวะคับขันไปได้อีกหลายวัน ที่สำคัญคือถึงแม้จะไม่ได้งัดมาใช้ยามเกิดวิกฤติหนัก แต่สุดท้ายผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็ยังสามารถหยิบมาใช้ในทริปท่องเที่ยวผจญภัยได้ไม่เสียของอย่างแน่นอน และในวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งอุปกรณ์ ที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่จะเก็บไว้ใน Survival Collection รับรองว่าจะต้องได้ใช้ประโยชน์จากมันแน่ ๆ VSSL CAMP SUPPLIES SUUNTO EDITION และนี่คืออุปกรณ์ที่เราพูดถึง กับ VSSL Camp Supplies SUUNTO Edition ที่นักผจญภัยทั้งหลายอาจคุ้นเคยกันในผลิตภัณฑ์ซีรีส์ก่อนหน้า แต่สำหรับเวอร์ชันล่าสุดนี้ทาง VSSL ผู้ผลิตอุปกรณ์ออกแคมป์เจ้าดังจากแคนาดา เขาเคลมว่าได้ไปปรึกษาหารือกับทหารผู้เชี่ยวชาญการเดินป่า ว่ามีอุปกรณ์ช่วยเหลือใด ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพบ้าง จนสุดท้ายได้มาเป็นสิ่งนี้ ที่มัดรวมเอาตัวช่วยยังชีพมาให้ใช้งานกันแบบรอบด้าน นับไอเทมทั้งหมดสิริรวมแล้วมากกว่า 70 ชิ้น บรรจุอยู่ในแท่งอลูมิเนียมรูปทรงกระบอกขนาด 9 x 2 นิ้ว มีน้ำหนักพร้อมพกพาอยู่ที่ 15.6
ใครที่กำลังมองหากล้องฟูลเฟรมที่มีประสิทธิภาพในงานทั้งการถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นสาวกของแบรนด์ Leica บอกเลยว่าเตรียมตัวกำเงินเอาไว้ให้ดี เพราะค่ายกล้องหรูเตรียมเปิดตัว Leica S3 กล้อง DSLR ตัวล่าสุดในตระกูล Leica S-System หลังจากเคยปล่อยรุ่น S2 ออกมาเมื่อปี 2008 หรือ 12 ปีที่แล้ว งานนี้ใจไม่แข็งพออาจมีเสียทรัพย์เป็นแน่แท้ S3 เป็นกล้อง Medium Format DSLR รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมเซนเซอร์ Leica ProFormat CMOS แบบฟลูเฟรมขนาด 30 x 40 มิลลิเมตรความละเอียด 64 เมกะพิกเซล เพิ่มขึ้นจาก Leica S Typ 007 ที่มีความละเอียด 37.5 เมกะพิกเซล โดยเซนเซอร์ตัวล่าสุดสามารถดัน ISO ได้ตั้งแต่ 100 สูงสุดที่ 50,000 พร้อมกันยังมีค่า Dynamic Range สูงถึง 15-stops
เห็นสีที่คุ้นตากับปุ่ม A B และปุ่มบังคับด้านข้างขาแว่นแบบนี้ คงจะคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากแว่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเกมบอยที่เราคุ้นเคยชัวร์ ๆ แต่ถ้าคิดว่า UNLOCKMEN จะเลือกแค่แว่นธรรมดา หน้าตาวินเทจนำมาเปลี่ยนเปลือกข้างนอกให้หล่อเฉย ๆ บอกเลยว่าเราคงไม่คัดมาบอกต่อแน่นอน The Mutrics GB-30 คือแว่นตาสไตล์เรโทรประดิษฐ์ขึ้นโดยบริษัท Mutrics เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจด้าน AI+IoT ที่อยากออกแบบอุปกรณ์ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์หนุ่ม Urban สายเกมเมอร์ สายบันเทิง สายข้อมูล สารพัดเรื่องที่เราอยากจะ Geek ไปพร้อมโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฟังก์ชันที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้สบายและสนุกขึ้น แว่นเดียวเฟี้ยวฟ้าวได้เพราะฟังก์ชันเหล่านี้ เหตุผลที่เราถูกใจแว่นตาชิ้นนี้เพราะมันรวมฟังก์ชันความบันเทิงแน่น ๆ โดยไม่ลดประสิทธิภาพด้านการมองเห็น ถ้าให้อธิบายให้ชัด เราจะแบ่งมันออกเป็นด้าน ๆ ดังนี้ แว่นตาที่ดี ตัดแสงฟ้า ขาบาง ๆ ใส่แนบหน้าและข้างศีรษะสบาย ๆ กัน UV 400 ได้ 100% เปลี่ยนเลนส์ได้ มีเลนส์กันแดดแถมให้ในกล่อง แว่นตาที่ใช้งานได้รอบด้านในชีวิตประจำวัน มีระบบ Headphone สำหรับฟังได้ผ่านขาแว่น ด้วยระบบ open
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโคโรนาไวรัส (Coronavirus) เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่คนทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ หลังจากแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่นและกระจายตัวในวงกว้างมาร่วมสามเดือน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 250 รายในประเทศจีน และเชื้อไวรัสนี้ก็กำลังระบาดไปยังอีก 20 ประเทศทั่วโลก จนองค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก ไม่เพียงสร้างความตื่นตัวให้กับผู้คน หากยังสร้างความหวาดกลัวและวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน สิ่งเดียวที่ทำได้คือเรียนรู้ ตระหนัก และป้องกันตัวเองด้วยการใส่มาสก์ตลอดจนหมั่นล้างมือให้สะอาด แต่นั่นคงไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ติดต่อได้ผ่านคน และปะปนอยู่แทบทุกที่รอบตัวเรา Sun Dayong สถาปนิกชาวจีนหนึ่งในผู้ก่อตั้งสตูดิโอออกแบบ Penda ก็รู้สึกได้ถึงผลกระทบของโคโรนาไวรัสและคิดหาไอเดียต่าง ๆ เพื่อป้องกันผู้คนจากเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในตอนนี้ เนื่องจากโคโรนาไวรัสและโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อาจมีจุดเริ่มต้นมาจากค้างคาว และสถาปนิกรายนี้ก็เชื่อว่าค้างคาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างน่าทึ่ง โดยขณะที่บินอุณหภูมิร่างกายของพวกมันสามารถพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียสได้ และลดลงอย่างรวดเร็วขณะที่หยุดพัก Sun Dayong จึงนำเรื่องราวของค้างคาว ซูเปอร์ฮีโร่ที่ข้ามขีดความสามารถมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมาผนวกเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็น ‘Be a Bat Man’ เสื้อเกราะสุดเจ๋งที่ใช้รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ UV ฆ่าเชื้อไวรัส เพื่อให้ผู้สวมใส่มั่นใจได้ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวของพวกนั้นปลอดเชื้ออย่างแท้จริง ตัวเสื้อเกราะใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก ดีไซน์รูปลักษณ์ออกมาคล้าย ๆ ปีกค้างคาว ตัวปีกจะเชื่อมต่อกับฟิล์ม
บางครั้งเทคโนโลยีก็เหมือนแฟชั่น ย้อนกลับไปราวสิบกว่าปีที่แล้วเหล่าวัยรุ่นต่างใช้โทรศัพท์ Blackberry เพื่อแลก PIN บางคนก็ใช้โทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ และไอโฟนก็ยุคของสตีฟ จ็อบ ก็เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตีคู่ขึ้นมากับสมาร์ตโฟนแบรนด์ Samsang ของเกาหลี หลาย ๆ แบรนด์ต่างงัดไม้เด็ดของตัวเองมาสู้กัน อยู่ที่ว่ายุคไหนใครจะสามารถขึ้นมาครองใจผู้คนได้มากกว่ากัน เทรนด์มือถือต้นปี 2020 เราจะเห็น Samsung นำสมาร์ตโฟนมาพับเหมือนกับเครื่องที่ฮิตกันสมัยก่อน และใคร ๆ ต่างก็เฝ้ารอว่าค่าย Apple จะเอาอะไรมาสู้กับมือถือฝาพับ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์เราได้เห็นการเคลื่อนไหวของแบรนด์ผลไม้อีกครั้งกับการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่กับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐ (USPTO) การจดสิทธิบัตรของ Apple คือเทคโนโลยีจอภาพแสดงผลชื่อว่า “Electronic Device with Glass Enclosure” แปลเป็นไทยง่าย ๆ ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กระจกรอบตัวเครื่องทั้งหน้า-หลัง ซ้าย-ขวา บน-ล่าง ครบทุกพื้นที่ แม้ยังไม่เห็นภาพแต่เครื่องจริงแต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนคลับแบรนด์ผลไม้ทั่วโลก นวัตกรรมกระจกรอบด้านของ Apple คิดค้นขึ้นโดย Christopher D. Prest ร่วมกับ Peter N. Russell-Clarke โดยออกแบบให้หน้าจอแต่ละด้านบนไอโฟนแสดงผลแตกต่างกันไป
สุดยอดการแข่งขันแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตอย่าง Formula 1 กำลังจะเริ่มต้นสนามแรกของปี 2020 ใน Australian Grand Prix วันที่ 15 มีนาคมนี้และค่ายนาฬิกาสาย Racing อย่าง TAG Heuer ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์กับทีม Aston Martin Red bull Racing ก็เตรียมปล่อยนาฬิการุ่น Formula 1 ประจำปีตามออกมาเช่นกัน เข้าสู่การเป็นพันธมิตรปีที่ 4 สำหรับแบรนด์ TAG Heuer กับทีมแข่งรถสูตร 1 Aston Martin Red bull Racing ซึ่งปีนี้มีนักแข่งสัญชาติไทย-อังกฤษอย่างอเล็ก อัลบอน อังศุสิงห์ มาเป็นนักขับตัวหลักของทีมคู่กับแม็กซ์ เวอร์สเต็ปเพ่นไปจนจบฤดูกาลนี้และเพิ่งเปิด RB16 รถแข่งประจำปี 2020 ออกมาสด ๆ ร้อน ๆ แน่นอนว่าพันธมิตรอย่าง TAG Heuer ได้เตรียมนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับฤดูกาลใหม่โดยใช้ชื่อว่า TAG
หากตำนานนักแสดงอย่าง Bruce Lee ยังมีชีวิตอยู่ในปีนี้เขาจะมีอายุครบ 80 ปี ซึ่งค่ายนาฬิกาอย่าง Casio ต้องการให้เกียรตินักแสดงผู้ล่วงลับที่มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้และวัฒนธรรมตะวันออกให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยนาฬิการุ่นพิเศษของค่าย Casio Bruce Lee Edition มีพื้นฐานมาจากนาฬิการุ่น MRG-G2000 เรือนเวลารุ่นไฮเอนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องวัสดุและเทคโนโลยีที่ในการผลิตออกมาเป็น Casio MRG-G2000BL-9A โดยตัวอักษร BL ต่อท้ายรหัสย่อมาจาก Bruce Lee MRG-G2000BL-9A “Bruce Lee Edition” เต็มไปด้วยงานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากยอดนักบู๊ ตั้งแต่สีที่ใช้สายเรซินสีเหลืองและตัวเรือนสีดำตามสีชุดวอร์มในตำนานของ Bruce Lee ตอนที่แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Game Of Death ส่วนของหน้าปัดใช้เป็นสีเหลืองและแดง ตัวแทนของ Jeet Kune do ศิลปะการต่อสู้ที่คิดค้นขึ้นโดย Bruce Lee พื้นผิวขอบตัวเรือนเคลือบด้วย Diamond Like Carbon (DLC) รับรองความทนทานต่อการขีดข่วน แกะสลักเป็นตัวอักษรภาษาจีน 12 คำหมายถึงหลักการสำคัญ 12 อย่างของศิลปะการต่อสู้ Jeet
ถ้าจะพูดถึงแบรนด์นาฬิกาคุณภาพที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์งานดีไซน์เฉพาะตัว กลไกการเดินเข็มที่ได้มาตรฐาน และมีชื่อเสียงระดับตำนานในแวดวงนาฬิกาโลก คงจะลืมชื่อของ ‘Seiko’ แบรนด์นาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัยไปไม่ได้เลย แม้ Seiko จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานและโลดแล่นเดินเข็มอยู่ในวงการนาฬิกามาเกือบ 140 ปี แต่แบรนด์นาฬิการายนี้ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเรือนเวลาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการเปิดตัวคอลเลกชันนาฬิกาดำน้ำในตระกูล ‘Black Series’ ของไลน์อัป Seiko Prospex ก็ทำเอาหนุ่ม ๆ ทั่วโลกอยู่ไม่ติดเก้าอี้และกาปฏิทินรอวันวางจำหน่ายที่จะมาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมปี 2020 นี้ แล้วตอนนี้ Seiko ก็ทำเราเซอร์ไพรส์อีกครั้ง เพราะบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกา Seiko เตรียมขยายฐานการผลิตและประกาศเปิด Pop-up Store แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ Pop-up Store แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น M แหล่งรวมไลฟ์สไตล์และสินค้าแฟชั่นยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ ภายในร้าน Seiko Pop-up Store มาพร้อมงานดีไซน์สุดเท่ ประดับตกแต่งร้านด้วย LED Track Light และโครงเหล็กสีดำเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาจาก