ถ้าเราเริ่มต้นได้ดี เราจะมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเหมือนกับการสร้างตึก ถ้าเราทำฐานตึกดี ต่อให้เราสร้างตึกสูงแค่ไหนก็ตาม ตัวตึกก็จะแข็งแรงคงทน และถล่มได้ยาก การเริ่มต้นปีที่ดี จะทำให้เรามีความสุขตลอดปีได้เช่นกัน UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำเทคนิคในการเริ่มต้นปีใหม่ที่จะช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จในปีนี้ ตั้งเป้าหมายประจำปีที่เป็นไปได้จริง อย่าตั้งเป้าหมายปีใหม่ (New year resolution) ที่แฟนตาซีเกินไปจนเป็นจริงได้ยาก เช่น อยากย้ายไปอยู่ดาวอังคาร หรือ อยากร่ำรวยขึ้นถึง 1,000 ล้านบาทภายในหนึ่งปี เราควรตั้งเป้าหมายที่สามารถทำให้สำเร็จได้ภายในปีนั้น โดยเป้าหมายควรมีความเฉพาะเจาะจง และสมเหตุสมผล ยกตัวอย่างเช่น ในปีนี้เราอยากเปิดธุรกิจร้านอาหาร หรือ อยากเลือนตำแหน่ง เป็นต้น เมื่อเรากำหนดเป้าหมายได้แล้ว เราควรวางแผนที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายนั้นด้วย เช่น ระบุสกิลที่เราต้องฝึกเพิ่มเติม รวมถึงระยะเวลาที่เราควรฝึกสกิลนั้น เป็นต้น รวมถึงควรติดตามความคืบหน้าของเป้าหมายทุกเดือน และอย่าลืมแชร์เป้าหมายของตัวเองกับคนรอบตัวด้วย เพื่อรับแรงสนับสนุนและมีกำลังใจในการทำตามเป้าหมายต่อไป ไม่ทำผิดเรื่องเดิมซ้ำ ลองมองย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว เราทำอะไรผิดพลาดบ้าง เช่น จัดการเวลาผิดพลาด จนทำงานหนักเกินไป และไม่มีเวลาพักผ่อน หรือ ดูแลตัวเองน้อยไป จนสุขภาพเสีย เป็นต้น และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้น เมื่อเรารับรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด
สิ้นปีกำลังจะมาถึงในไม่กี่อาทิตย์ เพื่อไม่ให้ปลายปีนี้เราต้องเฉามานั่งไล่ลิสต์ที่เขียนไว้ต้นปีเพื่อกดก๊อปปี้วาง แล้วไปพอกไว้ปีหน้า UNLOCKMEN ขอทำหน้าที่เป็นป๋าดัน แนะนำวิธีคลอดไอเดียเป็นล้านที่คุณมี ให้มันไม่เป็นแค่จินตนาการฟุ้ง ๆ ในอากาศ สามารถบรรลุเป้าหมายได้แม้ว่าคุณจะงานล้นมือหรือมีเวลาน้อยนิดแค่ไหนก็ตาม เหตุผลคนดองไอเดีย ไม่ได้ขี้เกียจแค่ทางเลือกมันเยอะเกิน ใครที่ไอเดียพลุ่งพล่านมาหลายปี แต่ชั่วชีวิตนี้ไอเดียก็ยังเป็นได้แค่ไอเดียเฉย ๆ ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างในชีวิตจริงสักที เรื่องนี้อธิบายได้ว่ามันมีเหตุผลของมัน เพราะเคยมีนักจิตวิทยาทำวิจัยเรื่องการวางแผนลงทุนเพื่อนการเกษียณสำหรับพนักงานไว้แล้วพบว่า ยิ่งเรามีทางเลือกให้เลือกเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ แทนที่เราจะได้ทำตามทางเลือกเหล่านั้นกลับกลายเป็นว่าไอ้ทางเลือกเยอะ ๆ นี่แหละที่สกัดดาวรุ่งเรา จนสุดท้ายคนที่เข้าร่วมการวิจัยที่เจอทางเลือกลงทุนเยอะ ๆ เข้าไปเลยล้มแผนออมเพื่อเกษียณมันซะเลย ดังนั้น การขยับไปทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นสิบเป็นร้อยสิ่งนี่แหละที่มันดูดพลังงานเราเหลือเกิน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นกับเรา นี่คือ 5 สิ่งที่เราควรปักหมุดในใจและลงมือทำเสมอไม่ว่าจะคิดอะไรอยู่ ใครพร้อมลุยก่อนสัปดาห์สุดท้ายของปีจะมาถึงก็เริ่มได้ทันที ไม่ต้องรอฤกษ์ปีใหม่แต่อย่างใด 1. สร้างเดดไลน์ย่อย ๆ ให้เดินตาม โปรเจ็กต์งานชิ้นนี้ให้เวลา 2 เดือน ฟังดูเหมือนจะนานเพราะเราคิดเอาเองว่างานชิ้นนั้นวันสองวันก็เสร็จแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงสิ่งที่เราเจอมันกลับกลายเป็นหวุดหวิดจะไม่ทันเสียได้ ถ้าใครอยู่ในอาการนี้อาจจะเข้าข่ายว่าเรากำลังเข้าโหมด Parkinson Law ที่กล่าวไว้ว่า “การทำงานมันยืดจนเต็มเวลาเดดไลน์ได้เสมอแหละ” ซึ่งถ้าถามว่าเวลาไปไหนหมด ทำไมไปปั่นตอนใกล้นนาทีสุดท้ายมันชัดเลยว่าเราเอาไปเติมอย่างอื่น เช่น ขอเล่นเกมก่อน