“ซักผ้ากันทันมั้ยครับช่วงนี้ หรือเลิกงานแล้วกลับถึงบ้านได้กินข้าวกันตอนกี่โมง” ฤดูฝนอันแสนโรแมนติกในโลกวรรณกรรม ภาพยนตร์ หรืออนิเมะช่างสวนทางกับชีวิตจริงในประเทศไทยเหลือเกิน นอกจากข้อดีที่อากาศเย็นสบายจนอาจจะไม่ต้องพึ่งแอร์ในบางคืนแล้ว ข้อเสียนั้นมีมากมายเต็มไปหมดจนทดบนกระดาษกันแทบไม่ไหว แต่ไม่เป็นไรครับ อีกข้อดีของหน้าฝนอย่าง ‘อากาศ’ นี่ล่ะ ที่ช่วยให้เมนูอาหารจานร้อนอร่อยขึ้นเป็นกอง อย่างที่เขาว่ากัน ถ้าไม่รู้ว่าความทุกข์หน้าตาเป็นแบบไหน จะรู้ได้ไงว่าตัวเองกำลังมีความสุขอยู่ เพราะฉะนั้นเรามาล้อมวงกินหม้อไฟญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า ‘นาเบะ’ ให้ร่างกายและหัวใจทุกดวงอบอุ่นไปด้วยกัน และ UNLOCKMEN ขออาสาชี้เป้าร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งมีนาเบะอร่อย ๆ ทั่วกรุงเทพให้เอง Nabe Nabe แค่อ่านชื่อร้านก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นจากน้ำต้มร้อน ๆ ในหม้อที่ถูกปรุงน้ำซุปมาอย่างดีของ ‘นาเบะ’ แล้ว สำหรับ Nabe Nabe จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในย่านคนชิกอารีย์ ซึ่งจะตั้งอยู่ที่เดียวกับร้าน Sousaku เพราะว่าเขาเป็นเจ้าของเดียวกัน สำหรับที่นี่จะเป็นนาเบะในสไตล์คันไซ และที่ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเป็นทวีคูณคือการที่ทางร้านเขาแจ้งเลยว่า การปรุงนาเบะของที่นี่ใช้เทคนิคแบบ ‘Kaiseki’ หรือที่รู้จักกันว่าเป็นกรรมวิธีแบบ Fine Dining ของอาหารญี่ปุ่น Nabe Nabe จะเสิร์ฟเป็นแบบ à la carte ซึ่งสายเนื้อพลาดไม่ได้ อะไรที่ว่าพรีเมียมอยู่ตรงนี้หมดแล้ว ทั้ง
หลังจากที่คราวก่อนเราได้แนะนำ 5 ร้าน Omakase ที่เราชื่นชอบที่สุดกันไปแล้ว (GUIDE: 5 ร้าน OMAKASE ที่เราอยากแนะนำ เพราะทุกคำเสิร์ฟพร้อมจิตวิญญาณและความตั้งใจของเชฟ) นอกจากจะได้พิกัดร้านขั้นเทพแล้ว เรายังได้เล่าถึงความเป็นมาของวัฒนธรรมการกินแบบ Omakase ไว้ด้วย เป็นการประดับความรู้เสริมความมั่นใจก่อนไปนั่งประจันหน้ากับเชฟ แต่เรารู้ดีว่าราคาคอร์สของแต่ละร้านที่เราแนะนำไปนั้นทำเอาขนหน้าแข้งร่วงไปหลายเส้น เพราะความพรีเมียมของมัน ดังนั้นใน Omakase Guide ภาค 2 นี้ เราขอแนะนำร้าน Omakase ราคาประหยัด ที่พกแบงค์พันไปแค่ 3 ใบก็สามารถอิ่มอร่อยได้ตามขนบวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ Sushi Hinata ถึงแม้จะตั้งอยู่ในห้างสรรพสิค้าหรูใจกลางเมืองอย่าง Central Embassy แต่คอร์ส Omakase ของ Sushi Hinata นั้นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,000 บาทเท่านั้น เรียกว่าถูกแบบเหลือเชื่อถ้าเทียบกับทำเลและคุณภาพวัตถุดิบที่ได้รับ Sushi Hinata ตกแต่งร้านสไตล์ดั้งเดิม เน้นความสงบและเรียบหรู เมื่อเปิดประตูเข้าไปคุณจะเจอกับปลามากมายหลายชนิดวางเรียงรายอยู่บนเคาน์เตอร์จนอาจจะเข้าใจผิดว่านี่คือตลาดปลาสักแห่งในญี่ปุ่น นอกจากคุณภาพปลาที่สดใหม่ หวานฉ่ำตามธรรมชาติและฝีมือการปั้นขั้นเทพของเชฟ โยชิกิ ยามาดะ แล้วที่นี่ยังตกแต่งอาหารในคอร์สออกมาได้สวยงาม เพิ่มความประทับใจให้เรามากขึ้นไปอีก ใครอยากมาลอง
ไม่รู้เหมือนกันว่าอาหารญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาเปิดตลาดในบ้านเราตั้งแต่เมื่อไร เราจำได้ว่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนั้นร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยนั้นมีน้อยจนนับนิ้วได้ แต่รู้ตัวอีกที ตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปไหนก็เจอร้านอาหารญี่ปุ่นละลานตาเต็มไปหมดโดยเฉพาะร้าน ‘ซูชิ’ แต่ในสิ่งเก่า ย่อมมีสิ่งใหม่เสมอ เช่นเดียวกับร้านซูชิที่ปกติเราจะคุ้นชินกับการสั่งเป็นคำหรือซูชิจานเวียน แต่เมื่อไม่นานมานี้มีร้านซูชิประเภทหนึ่งเริ่มเข้ามาในไทย และมันก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทุกคนเรียกมันว่า ‘Omakase’ คำว่า Omakase ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ‘ฉันยกให้คุณจัดการเลย’ เมื่อมารวมกับบริบทเกี่ยวกับอาหาร จึงอาจจะแปลได้ว่าให้เชฟเป็นคนเลือกมาให้ว่าวันนี้ควรกินอะไรและอะไรคือวัตถุดิบที่ดีที่สุดในวันนี้ เนื่องจากมันเป็นวัฒนธรรมการกินที่ใหม่ คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นชิน แถมราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ จึงทำให้หลายคนยังลังเลที่จะเดินเข้าร้านประเภทนี้ วันนี้เราจึงมาแนะนำ 5 ร้าน Omakase ที่เราชื่นชอบที่สุด เผื่อไว้เป็นทางเลือกสำหรับผู้อ่านทุกคน Ginza Sushi Ichi ขอเปิดหัวด้วยร้าน Omakase ชื่อดังจากย่านกินซ่า ประเทศญี่ปุ่น และได้ขยับขยายมาเปิดสาขาในไทยเป็นที่เรียบร้อย การันตีด้วยดาว 1 ดวง จากมิชลิน แน่นอนว่าเมื่อเป็นร้านสาขาจากญี่ปุ่น บรรยากาศภายในร้านจึงเป็นตามขนบดั้งเดิมแท้ ๆ รวมถึงเชฟที่เดินทางมาไกลจากแดนปลาดิบ (สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้) จุดเด่นของ Ginza Sushi Ichi คือคุณภาพและความสดของเนื้อปลา ซึ่งทางร้านอิมพอร์ตมาจากตลาดปลา Tsukiji อันเลื่องชื่อในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่ามาถึงปุ๊บเสิร์ฟปั๊ปกันแบบวันต่อวัน
แนะนำ 5 ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดเด็ดที่คุณควรต้องไปลองสักครั้ง