สำหรับหนุ่ม ๆ Urban Men ที่มีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับย่านใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘สาทร’ ย่านธุรกิจที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ตึกออฟฟิศ หรืออาคารสำนักงานต่าง ๆ เพียงเท่านั้น ย่านสาทรเป็นเหมือนศูนย์กลางของ Urban Lifestyle ที่สะดวกสบายทั้งการเดินทาง และการใช้ชีวิต รายล้อมไปด้วยร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์, ห้างสรรพสินค้า, คาเฟ่บิสโทรสุดชิค รวมไปถึงสถานศึกษา โรงพยาบาล สถานทูต และโรงแรมระดับ 5 ดาว มากมาย นอกจากอาคารสำนักงาน และสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่ครบครัน ‘สาทร’ ยังเป็นโลเคชั่นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตใจกลางมหานครได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับโครงการ TAIT Sathorn 12 (เทตต์ สาทร ทเวลฟ์) ที่เราอยากชวนชาว UNLOCKMEN ทุกคนไปทำความรู้จักในทุกแง่มุมของคอนโดมิเนียมโครงการนี้ไปพร้อมกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เลือกคอนโดใหม่ที่พร้อมตอบสนองวิถีชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว โครงการ TAIT Sathorn 12 เป็นคอนโด High Rise ระดับ Luxury ความสูง
“จะดีแค่ไหน หากเรามี SPACE ที่สามารถออกแบบการใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ?” ความต้องการข้อนี้ ถือเป็นความท้าทายของเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กับหน้าที่สำคัญในการสร้างจุดเด่นที่แตกต่างของพื้นที่ใช้สอยให้สอดรับกับ Pain Points ของกลุ่มผู้อยู่อาศัย จากโจทย์ข้อนี้ จึงเป็นที่มาในการพัฒนาห้อง Duo Space นิยามเฉพาะของห้องเพดานสูงจากโครงการ Knightsbridge Space Ratchayothin และ Knightsbridge Space Rama 9 โดย Park Luxury ภายใต้แบรนด์ Origin ซึ่งโดดเด่นด้วยนวัตกรรมการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่เน้น Volume of Vertical Space ขยายพื้นที่ใช้สอยแนวสูงภายในห้องให้เพิ่มมากขึ้นด้วยเพดานสูงถึง 4.2 เมตร ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกได้ถึงความโปร่งโล่ง และมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่มากกว่า จนสามารถออกแบบปรับเปลี่ยน SPACE ให้เป็นพื้นที่ชีวิตที่ต้องการได้สุดแล้วแต่จินตนาการจะพาไป และถ้าจะหาใครสักคนมารับหน้าที่ถ่ายทอดคอนเซปต์ของโครงการ Knightsbridge Space Ratchayothin และ Knightsbridge Space Rama 9 ออกมาได้อย่างชัดเจน คงไม่มีใครสามารถส่งต่อแนวคิด SPACE สำหรับคนรุ่นใหม่ฉลาดเลือก ซึ่งพร้อมให้ออกแบบพื้นที่การใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด ได้ดีไปกว่า ‘ออกแบบ – ชุติมณฑน์
สำหรับคนกรุงเทพฯ ทำเลที่อยู่อาศัยเป็นกุญแจสำคัญในการ Balance ชีวิตของ Urban Men อย่างเรา ๆ ที่ต้องเผชิญกับรถติดในเมืองอันวุ่นวาย จนหมดเวลาทำงาน ไม่เหลือเวลาพักผ่อนใช้ชีวิต แน่นอนว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการเลือกอยู่คอนโดที่สะดวกสบายในการเดินทาง อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า อยู่ใกล้พื้นที่ไลฟ์สไตล์ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และมีส่วนกลางที่จัดเต็มสะใจ ตอบโจทย์ได้ทุกจังหวะชีวิต บางคนเลือกยอมกัดฟัน จ่ายหนักไปกับที่อยู่อาศัยแบบเกือบหมดหน้าตัก แต่กลับกลายเป็นว่าไม่เหลืองบประมาณเอาไว้เติมเต็มไลฟ์สไตล์ด้านอื่น ๆ ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องที่ขมขื่นไม่ใช่เล่น แต่ใช่ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางออก ด้วยอานิสงส์จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้ตอนนี้มีทางเลือกอีกมากมายสำหรับที่อยู่อาศัยทำเลดี เดินทางสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องไปยื้อแย่ง จ่ายหนัก จ่ายแพงอะไรขนาดนั้น เพราะแค่เขยิบออกมาหน่อย ก็ยังมีที่อยู่อาศัยคุณภาพดี Facilities จัดเต็ม ในทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกควบคุมเวลาได้ไม่แพ้กัน ถ้ามั่นใจในไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ไอเดียนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้เรามีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ มีจุดเด่นน่าสนใจในการใช้ชีวิตมาแนะนำ เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับใครที่มองหาคอนโดที่มีส่วนกลางระดับพรีเมียม ทำเลติดรถไฟฟ้าแบบก้าวเดียวถึง Skywalk ส่วนตัว ปลอดภัย สะดวกสบายในราคาคุ้มค่า ไม่ต้องถึงขนาดทุ่มงบแบบเทกระเป๋า เพื่อผ่อนคอนโดเพียงอย่างเดียว สบายตัว สบายใจ สบายกระเป๋า กับโครงการ ASPIRE SATHORN – RATCHAPRUEK
อาชีพ โอกาส ความทันสมัย ความสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้คือเหตุผลหลัก ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เปรียบเสมือนจุดหมายปลายทางของความฝัน เป็นจุดศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่มากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนพื้นถิ่นชาวกรุงโดยกำเนิด รวมถึงผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ที่เข้ามาใช้ชีวิตไล่ล่าความสำเร็จร่วมกันอยู่ที่นี่ ภายใต้ความแตกต่างของรูปแบบชีวิตที่ถูกให้คำจัดกัดความด้วยคำว่า “Urban Lifestyle” หรือวิถีชีวิตคนเมือง ถ้าฟังแค่ชื่อวิถี Urban Lifestyle ภาพแรกที่ฉายขึ้นมาในหัวคือชีวิตที่รายล้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ทันสมัย เต็มไปด้วยอาชีพหน้าที่การงาน โอกาสในการสร้างธุรกิจนับไม่ถ้วน ซึ่งมันช่างดูโก้เก๋เท่ไม่ใช่เล่น แต่จริง ๆ แล้วเรามั่นใจว่าเหล่า Urban Men ทั้งหลายน่าจะรู้ซึ้งถึงความวุ่นวายในการใช้ชีวิตที่ต้องประสบพบเจอในแต่ละวันเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการแข่งขันกับเวลา ต้องหัวปั่นอยู่กับความเร่งรีบ ซึ่งทุกนาทีที่หมุนไปอย่างรวดเร็วนั่นคือเวลาที่เป็นเงินเป็นทองที่ไม่มีใครอยากให้สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ และเมื่อลองมาทบทวนดี ๆ จะเห็นว่าสิ่งที่เรียกว่าวิถีชีวิตแบบคนเมืองนั้นกลับกลายเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตซึ่งแทบจะไม่มีเวลาเหลือให้ได้ “ใช้ชีวิต” อย่างมีความสุขแบบที่มนุษย์ควรจะเป็น และต้องยอมรับว่าสิ่งนี้กำลังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาวะความเครียดของผู้คนในสังคมเมือง ซึ่งฟังดูแล้วหลายคนคงรู้สึกขยาดวิถีคนเมืองจนอยากจะเปลี่ยนรูปแบบชีวิต พาตัวเองย้ายสำมะโนครัวหนีไปจากเมืองใหญ่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในความเป็นจริงเชื่อว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่าชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่เราอยากบอกว่ามันก็ไม่ได้ยากที่จะหาทางออก ในการปรับตัว ปรับวิธีคิดเพื่อให้มี Urban Lifestyle ที่มีความสุขอย่างแท้จริง ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่ 2 วิธีเท่านั้น