Life

GOOD LIVING with URBAN LIFESTYLE อยู่อย่างไรให้สุข กับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ และ หลากหลายในสไตล์คนเมือง

By: NTman February 15, 2018

อาชีพ โอกาส ความทันสมัย ความสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้คือเหตุผลหลัก ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เปรียบเสมือนจุดหมายปลายทางของความฝัน เป็นจุดศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่มากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนพื้นถิ่นชาวกรุงโดยกำเนิด รวมถึงผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ที่เข้ามาใช้ชีวิตไล่ล่าความสำเร็จร่วมกันอยู่ที่นี่ ภายใต้ความแตกต่างของรูปแบบชีวิตที่ถูกให้คำจัดกัดความด้วยคำว่า “Urban Lifestyle” หรือวิถีชีวิตคนเมือง

ถ้าฟังแค่ชื่อวิถี Urban Lifestyle ภาพแรกที่ฉายขึ้นมาในหัวคือชีวิตที่รายล้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ทันสมัย เต็มไปด้วยอาชีพหน้าที่การงาน โอกาสในการสร้างธุรกิจนับไม่ถ้วน ซึ่งมันช่างดูโก้เก๋เท่ไม่ใช่เล่น แต่จริง ๆ แล้วเรามั่นใจว่าเหล่า Urban Men ทั้งหลายน่าจะรู้ซึ้งถึงความวุ่นวายในการใช้ชีวิตที่ต้องประสบพบเจอในแต่ละวันเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการแข่งขันกับเวลา ต้องหัวปั่นอยู่กับความเร่งรีบ ซึ่งทุกนาทีที่หมุนไปอย่างรวดเร็วนั่นคือเวลาที่เป็นเงินเป็นทองที่ไม่มีใครอยากให้สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ และเมื่อลองมาทบทวนดี ๆ จะเห็นว่าสิ่งที่เรียกว่าวิถีชีวิตแบบคนเมืองนั้นกลับกลายเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตซึ่งแทบจะไม่มีเวลาเหลือให้ได้ “ใช้ชีวิต” อย่างมีความสุขแบบที่มนุษย์ควรจะเป็น

และต้องยอมรับว่าสิ่งนี้กำลังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาวะความเครียดของผู้คนในสังคมเมือง ซึ่งฟังดูแล้วหลายคนคงรู้สึกขยาดวิถีคนเมืองจนอยากจะเปลี่ยนรูปแบบชีวิต พาตัวเองย้ายสำมะโนครัวหนีไปจากเมืองใหญ่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในความเป็นจริงเชื่อว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่าชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่เราอยากบอกว่ามันก็ไม่ได้ยากที่จะหาทางออก ในการปรับตัว ปรับวิธีคิดเพื่อให้มี Urban Lifestyle ที่มีความสุขอย่างแท้จริง ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่ 2 วิธีเท่านั้น

 

ชีวิตไม่ได้มีแค่งาน

ไม่ว่าแต่ละคนจะมีอาชีพที่หลากหลาย มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันเพียงใด แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ทุกคนมีเหมือน ๆ กัน จนแทบจะกลายเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ใน DNA ของคนเมืองไปแล้ว คือความมุ่งมั่นในการไล่ล่าไขว่คว้าหาความสำเร็จ ทุ่มเทพลังให้กับชีวิตด้านการทำงานแบบเต็มที่ จนหลายคนอาจหลงลืมไปว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างธุรกิจจนมีฐานะที่มั่นคงนั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตเสมอไป เพราะการทุ่มสุดตัวไปกับการทำงาน ทำให้บ่อยครั้งเรามักจะมองข้ามคนสำคัญรอบกาย หรือแม้กระทั่งไม่มีเวลาใส่ใจสุขภาพตัวเอง จนบางคนถึงกับต้องสูญเสียทั้งความสัมพันธ์ สูญเสียทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ซึ่ง ณ ตอนนั้นไม่ว่าจะมีความสำเร็จ หรือเงินทองมากมายแค่ไหน ก็ยากที่จะเรียกสิ่งที่เสียไปให้กลับคืน

ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำคือปรับมุมมองแนวคิดที่มีต่อความสุข และความสำเร็จของชีวิตเสียใหม่ ลองหันมาใส่ใจกับคำว่า ‘Work-Life Balance’ ถ้อยคำฮิตสำหรับคนเมืองรุ่นใหม่ที่ได้ยินบ่อยในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เพราะชีวิตทั้ง 2 ด้านไม่ว่าจะชีวิตส่วนตัว หรือชีวิตการทำงานนั้นต่างเกื้อหนุนกันและกัน ถ้าอยากมีพลังลุยงานได้เต็มที่ มันต้องมาจากพื้นฐานของสุขภาพกาย และสภาพจิตใจที่ดี นี่คือความจริงแท้ ที่เรียบง่าย ชัดเจนโดยที่ไม่ต้องอาศัยงานวิจัยมาอ้างอิง แต่คนส่วนใหญ่กลับเลือกที่จะโหมงานหนักจนมองข้ามไป

ซึ่งใครที่บ้างานมาก ๆ ไม่รู้จะแบ่งเวลาให้ชีวิตด้านอื่นอย่างไร อาจต้องใช้วิธีหักดิบ ดึงตัวเองออกมาจากงานซะเดี๋ยวนี้ แล้วจัดสรรเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อน ออกกำลัง ได้ทำงานอดิเรกที่ชอบ ทำอะไรที่ผ่อนคลาย รวมถึงหากิจกรรมที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง เพื่อเยียวยาตัวเองจากความเครียด ความเหนื่อยล้า จากสิ่งที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน แล้วจะพบว่าชีวิตดีรอบด้านมันเกิดขึ้นได้จริง ๆ

 

ลงทุนกับเวลา

หลังจากเหน็ดเหนื่อยทุ่มเททำงานหาเงิน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนำเงินเหล่านั้นไปซื้อความสุขให้กับตัวเอง และคนที่เรารักในรูปแบบของอาหาร สิ่งของ การท่องเที่ยว ฯลฯ หรือนำไปลงทุนในการถือครองสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อต่อยอดเงินให้งอกเงย แต่มักมองข้ามในเรื่องของเวลา ซึ่งจริง ๆ แล้ว ถือเป็นอีกต้นทุนสำคัญสำหรับวิถีชีวิตของคนเมืองอันแสนเร่งรีบ แม้เงินจะซื้อเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันให้เพิ่มขึ้นไม่ได้ แต่เงินช่วยทำให้เราทุกคนประหยัดเวลาได้ ประเด็นคือเราอยากบอกว่าการที่ต้องเสียเงินมากขึ้นเพื่อแลกกับเวลาที่เพิ่มขึ้นมาในชีวิต หากคิดดี ๆ มันไม่ได้เป็นการสิ้นเปลืองเสมอไป แต่มันคือการลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งมีค่า ที่เรียกว่า ‘เวลา’ ให้เราเอาไปใช้จัดสรรสร้าง Work-Life Balance ให้กับชีวิต เหมือนที่เราแนะนำไปในข้อแรกได้สบาย ๆ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างเช่น การที่เราเลือกเดินทางด้วยเครื่องบิน แม้จะต้องจ่ายแพงกว่า แต่มันคือการเดินทางที่รวดเร็ว ทำให้เรามีเวลาเพิ่มขึ้น ในกรณีที่บินไปทำงาน เวลาที่ได้มาอาจแปรเปลี่ยนเป็นเวลาสำหรับเตรียมงานให้ดีขึ้น หรือกลายเป็นเวลาที่ใช้พักผ่อนก่อนไปลุยงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้กระทั่งในกรณีบินไปท่องเที่ยว เวลาที่เพิ่มขึ้นมาคือช่วงเวลาที่เราจะได้ซึมซับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ได้ใช้เวลาแห่งความสุขอยู่กับตัวเอง รวมถึงอยู่กับครอบครัวเพื่อนฝูงได้ยาวนานขึ้น

นอกจากนี้เรายังเลือกลงทุนกับเวลา ด้วยการเลือกที่อยู่อาศัย ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้เช่นกัน เพราะต้องยอมรับว่า ‘การเดินทางที่สะดวก’ เป็นอีกหัวใจสำคัญในการอยู่กับวิถี Urban Lifestyle ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรหรือมีไลฟ์สไตล์แบบไหน จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ทำงานประจำ รับงานฟรีแลนซ์ ยังไงก็ต้องมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางอยู่แทบทุกวันอย่างหนีไม่พ้น

การเลือกทำเลที่อยู่อาศัยที่ใกล้รถไฟฟ้า รวมถึงแหล่งสาธารณูปโภค ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างครอบคลุม ก็ถือเป็นการสร้าง Shortcut ทางลัดในการใช้ชีวิตที่ช่วยประหยัดเวลาไปได้มากโข และวันนี้เราก็มีที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากลงทุนกับเวลาเพื่อสร้างสุขในวิถี Urban Lifestyle กับ ‘Niche Pride Taopoon – Interchange’ คอนโดมิเนียมทำเลเยี่ยมใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย พร้อม Facilities ที่ตอบสนองทุกสไตล์ ให้ได้ใช้ชีวิตครบทุกด้านอย่างแท้จริง

 

Niche Pride Taopoon – Interchange

โครงการ Niche Pride Taopoon – Interchange ตั้งอยู่ในทำเลที่ประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี กับโลเคชั่นที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT 2 สาย ทั้งสายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน เดินไปสบาย ๆ เพราะอยู่ห่างประตูทางออก 4 สถานีเตาปูนอินเตอร์เชนจ์ แบบ 1 นาทีเดินถึง หรือในวันที่จำเป็นต้องใช้รถก็สามารถขับขึ้นไปใช้บริการทางด่วน แยกประชานุกูล และทางด่วนศรีรัชวงแหวนรอบนอก ในระยะเวลาเพียง 5 นาที

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์ในย่านนี้ ต้องบอกว่ามีให้ครบครัน ด้วยพื้นที่ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว, โลตัสประชาชื่น, ห้างสุพรีม, เกตเวย์บางซื่อ มีโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงอย่าง ร.พ.วิชัยยุทธ, ร.พ.เกษมราษฎร์, ร.พ.ประชาชื่น, ร.พ.บางโพ รวมถึงใครที่มีครอบครัวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสถานศึกษา เพราะมีสถานศึกษาชั้นนำอย่าง ร.ร.โยธินบูรณะ, ร.ร.ราชินีบน, ร.ร.เซนต์กาเบรียล และ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย อยู่รายรอบโครงการ

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์ที่เรามั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ Urban Lifestyle ที่หลากหลายของคนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะโครงการ Niche Pride Taopoon – Interchange นั้นเป็นโครงการแรกที่มีพื้นที่ส่วนกลางกระจายตัวอยู่ทั้ง 30 ชั้น โดยแต่ละชั้นนั้นสามารถรองรับความต้องการที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น mini-theatre, party room, recreation games room, kid club, yoga room, excutive meeting room, sky lounge, co-working space พร้อมพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าเทควิวกรุงเทพฯ อย่าง Sky infinity edge pool, sky fitness และ sky garden ให้คนเมืองอย่างเรา หลีกหนีชีวิตเร่งรีบวุ่นวาย กลับมาผ่อนคลายกับชีวิตอีกด้านที่เลือกได้ตามใจ

ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ Facilities และพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้นที่คิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อาศัยได้อย่างลงตัว เพราะ Niche Pride Taopoon – Interchange นั้นเป็นโครงการระดับท็อปของ  เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่พัฒนาขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ Geo fit+ ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นการออกแบบตัวอาคาร ดีไซน์พื้นที่ใช้สอย การเลือกใช้วัสดุ รวมถึงระบบการจัดการพลังงานภายในอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าส่วนกลางจากแผงโซล่าร์ และ ความเป็นอยู่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตที่ลงตัว กับห้องแบบ Fully Furnished ซึ่งมีเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางนิ้ว

ใครที่กำลังมองหาทางออกในการใช้ชีวิตภายใต้ความ กดดัน เร่งรีบ ให้เป็นไปได้อย่างมีความสุข ราบรื่น ลงตัว Niche Pride Taopoon – Interchange คืออีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งพร้อมตอบโจทย์การอยู่อาศัย ที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง และช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายกับชีวิตอีกด้านนอกเหนือจากการทำงาน กับการพัฒนาโครงการอย่างเข้าอกเข้าใจคนเมืองมากที่สุด ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนก็สามารถสุขใจไปกับ Facilities อันหลากหลายได้ครบในที่เดียว

โครงการ Niche Pride Taopoon – Interchange เริ่มต้นที่ 3.2 ล้านบาท
สนใจดูข้อมูลโครงการเพิ่มเติม และลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่
https://goo.gl/FHMB2X

หรือโทร. 1775 #39

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line