บอกเลยว่าอย่าง Hype งานนี้ถูกใจทั้งเกมเมอร์ และเหล่า Sneaker อย่างแน่นอน กับ Onitsuka Tiger x Street Fighter 6 งาน Collab ระหว่าง 2 แบรนด์ตัวพ่อเแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Onitsuka Tiger และ CAPCOM Co., Ltd. ที่ร่วมมือกันเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยครั้งนี้ได้มีการสร้างสรรค์รองเท้ารุ่นใหม่อย่าง ENDACTUS™ ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเกม Street Fighter 6 ภาคใหม่ล่าสุดที่วางขายไปเมื่อ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ดีเทลของรองเท้าจัดเต็มกลิ่นอายของตำนานเกมต่อสู้ชื่อดัง มีการตกแต่งด้วยโลโก้ Onitsuka Tiger ที่ส้นเท้าด้านซ้าย และโลโก้ Street Fighter ที่ส้นเท้าด้านขวา พร้อม Packaging อย่างกล่องรองเท้าและถุงช็อปปิ้งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโลโก้ Street Fighter 6 เช่นกัน นอกจากนี้
วันนี้เราจะมาส่องรองเท้านำโชคของ MICHAEL JORDAN ที่เขาสวมใส่ในการแข่งขัน NBA Championship และได้รับรางวัลชนะเลิศ ทั้ง 6 สมัยกัน MICHAEL JORDAN เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะอดีตนักบาสเกตบอล สังกัดทีม ‘ชิคาโก บูลส์ (Chicago Bulls)’ ที่เป็นตำนานตลอดกาล ได้รับฉายาว่าเป็นที่สุดของที่สุด G.O.A.T (Greatest Of All Time) แล้วตำนานหนึ่งเดียวคนนี้เขาใส่รองเท้ารุ่นไหนบ้าง เราจะขอไล่ลำดับรองเท้าตามการแข่งขันชนะเลิศในแต่ละสมัย มาดูพร้อมกันเลย Nike Air Jordan 6 — First Championship (1991) MICHAEL JORDAN คว้าแชมป์ NBA เป็นครั้งแรก โดยสวม Nike Air Jordan 6 “Black Infrared” ที่เปิดตัวในปี 1991 ออกแบบโดย Tinker Hatfield ในส่วนของ heel
ย้อนกลับไปในช่วงปี 80s-90s ชายชื่อ Bobbito Garcia หรือที่รู้จักกันในชื่อ DJ Cucumber Slice มีความคิดริเริ่มต้องการจะใส่รองเท้าซึ่งแตกต่างและไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นรองเท้าจากแบรนด์ที่ตัวเองชื่นชอบอยู่ เขาจึงจับรองเท้าสุดไอคอนิคตอดกาลของดีไซเนอร์ Bruce Kilgore อย่าง NIKE Air Force 1 จับมาสาดสีต่าง ๆ ลงไป ผลลัพธ์คือการมาของเทรนด์ ‘Sneaker Customizer’ หลังจากวันนั้น แรงบันดาลใจที่ DJ Cucumber Slice วางเอาไว้ได้ถูกส่งต่อมาหลายทศวรรษจนถึงทุกวันนี้ ทั้งต่อดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ๆ ศิลปินจากแขนงต่าง ๆ ไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Original ที่ถูกนำไป Custom เองก็ตาม ในปี 2022 เรามีศิลปินที่ทำอาชีพซึ่งเรียกว่า Sneaker Customizer หรือ Sneaker Artist ผู้เก่งกาจด้านคัสตอมรองเท้าโดยเฉพาะ และต่อยอดจากจุดเริ่มต้นด้วยวิธีต่าง ๆ ที่จะทำได้ ไม่ว่าจะ Paint ไปจนถึงถอดประกอบเอาวัสดุอื่น
ใครเป็นเหมือนกันบ้าง ที่ปลื้มใจเสมอเมื่อมีแบรนด์แฟชั่นผลิตสินค้าสักชิ้นด้วยการรีไซเคิลวัสดุ หรือวิธีการใดก็แล้วแต่ที่จะไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และไม่ทำให้เกิด Fast Fashion จนเสียเปล่า เพราะโลกของเรามันจะพังแล้วคุณ! วันนี้ได้ปลื้มใจกันอีกครั้ง เมื่อแบรนด์สตรีท Rose In Good Faith จับมือกับ Doc Johnson แบรนด์ของเล่นเซ็กซ์ทอย คอลแลบทำรองเท้าในแคมเปญ Stop Fucking Mother Earth ที่ทั้งใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเปี่ยมด้วยดีไซน์ในเวลาเดียวกัน รองเท้ารุ่นนี้มีชื่อว่า Plastic Soul เป็นรองเท้าที่ทำขึ้นจากวัสดุเหลือใช้ของ ‘ดิลโด้’ โดยมีจุดเริ่มต้นตรงที่ Chad Braverman ของแบรนด์ Doc Johnson เจ้าของธุรกิจครอบครัวซึ่งรันกิจการตั้งแต่รุ่นพ่อ ย้อนกลับไปไกลตั้งแต่ปี 1976 มีวิสัยทัศน์อยากยกตัวแบรนด์ขึ้นไปอีกระดับ ให้คนได้รู้จักเซ็กซ์ทอยมากขึ้น ไปพร้อม ๆ กับแนวคิดที่ต้องการ upcycled เพราะที่โรงงานของของเขามีของที่ไม่ผ่าน qc ซึ่งจะถูกทิ้งเสียเปล่ารายวันเป็นจำนวนมหาศาลอย่างน่าเสียดาย แต่อีกสิ่งสำคัญคือเขาเองเป็นแฟนตัวยงของ Rose In Good Faith ด้วย
ใครที่ชื่นชอบรองเท้าสนีกเกอร์ ชอบแฟชั่นสไตล์สตรีทที่เน้นความคล่องตัว และเพิ่มความรู้สึกเท่ในทุก ๆ ย่างก้าว เชื่อว่าแบรนด์ที่อยู่ในลิสต์ของใครหลายคนทั่วโลกจะต้องมี “Onitsuka Tiger” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน Onitsuka Tiger สุดยอดแบรนด์รองเท้าสนีกเกอร์สุดคลาสสิกจากประเทศญี่ปุ่นที่อยู่คู่ชาวสตรีทแฟชั่นทั่วโลกมาอย่างยาวนาน มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1949 โดยคุณ Kihachiro Onitsuka โดดเด่นด้วย Onitsuka Tiger Stripes สีน้ำเงิน/ขาว/แดง ที่กลายเป็นภาพจำของแบรนด์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงดงามของคลื่นทะเลในเมืองโกเบ เรียกได้ว่าเป็นการฟิวชั่นให้เข้ากันระหว่างสเน่ห์ของธรรมชาติ และแฟชั่นได้อย่างน่าสนใจ นอกจากคุณภาพของรองเท้า ความสะดวกสบายในการสวมใส่ สไตล์ที่เท่แบบอยู่เหนือการเวลาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Onitsuka Tiger ตอบโจทย์ให้เข้ากับทุก Lifestyle และทุกเพศทุกวัย ด้วยความสุดยอดของสนีกเกอร์เลือดซามูไร เราเลยอดใจไม่ไหวที่จะแนะนำ 7 รุ่นเดือดของ Onitsuka Tiger มาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกัน GIGATIA ตัวทีเด็ดแห่ง Onitsuka Tiger แค่เห็นรูปทรงก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่ยากเกินห้ามใจ สร้างความรู้สึกอยากสวมใส่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดย GIGATIA เกิดจากการมิกซ์ให้เข้ากันระหว่างตัว Upper ที่ทำจากวัสดุหลายประเภทและพื้นรองเท้าที่มีความทนทานเอกลักษณ์ของ Onitsuka
เมื่อวันเวลาเปลี่ยนผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับรองเท้าสนีกเกอร์สุดคลาสสิคอย่าง The Chuck Taylor All Star ของแบรนด์ Converse ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาสู่เจเนอร์เรชั่นใหม่แล้วในชื่อ The all-new Chuck Taylor All Star CX ภายใต้คอนเซปต์ “Step In And Go” การเปลี่ยนแปลงของ Chuck Taylor ถือเป็นเรื่องฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะทาง Converse ได้หยิบเอาเทคโนโลยี FlyEase ของรองเท้า Nike มาเบลนด์เข้ากับสนีกเกอร์รุ่นใหม่ของพวกเขา พร้อมมีการปรับรูปทรงใหม่ที่มองผ่าน ๆ คงไม่มีใครคาดคิดว่านี่คือรองเท้าของแบรนด์สัญลักษณ์รูปดาวอย่างแน่นอน FLYEASE คืออะไร? สำหรับคนที่เล่นรองเท้าสนีกเกอร์ของ Nike อยู่แล้ว อาจจะพอคุ้นหูคุ้นตากันอยู่บ้าง แต่สำหรับคนทั่ว ๆ ไป อาจจะยังไม่ทราบข้อมูลดังกล่าวมาก่อนว่าเทคโนโลยีของ FlyEase มันถูกออกแบบมาให้คนสามารถสวมใส่รองเท้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาลงไปนั่งผูกเชือกแต่อย่างใด เทคโนโลยี FlyEase ถูกเปิดตัวเมื่อปี 2015 มันเริ่มมาจากทาง Matthew Walze